Fon Patcharin Wallpaper : Glory of love

หลังจากเคยมาขึ้นปกอวดหุ่นสวยกับ Slimming แล้ว ครั้งนี้สร้างความแปลกใจเล็กน้อยถึงลุคส์ที่เปลี่ยนไปของนางเอกสาวร่างเล็ก แต่หุ่นเซ็กซี่ไม่เบาคนนี้ “น้ำฝน-พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์” หลังจากที่สลัดภาพสาวหวาน ผมยาว มาหั่นผมสั้น สะบัดบ๊อบใส่ จนหลายคนสงสัยว่าตัดผมประชดรักหรือเปล่า จริงๆ แล้วเป็นแค่คาแรคเตอร์ในละครเท่านั้นเอง แถมงานนี้เจ้าตัวยังออกอาการปลื้มสุดๆ กับทรงผมใหม่สุดเซ็กซี่ ถึงขั้นติดอกติดใจจนไม่ยอมกลับไปเป็นน้ำฝนคนเดิมกันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าลุคส์ไหนๆ ตอนนี้หัวใจของสาวน้ำฝนก็ชุ่มฉ่ำได้หมด เรียกว่าโสดแบบไม่สนิทจริงๆ เพราะแว่วๆ มาว่ามีหนุ่มนอกวงการคนใหม่มาดามอกดามใจให้เธอเรียบร้อยแล้ว แต่ที่แซ่บยิ่งกว่านั้น เชื่อว่าหลายคนต้องจับตามองกันอีกครั้ง เพราะล่าสุด นางเอกเจ้าแม่ละครเย็นกลับมารับบทสาวบู๊ ในละครภาคต่อเรื่อง ชาติเจ้าพระยา 2 ที่กำลังเตรียมเปิดกล้องเร็วๆ นี้ โดยมีนักแสดงชุดเดิมทั้งหมด รวมถึงหนุ่มกล้ามโตอดีตหวานใจอย่างอาร์ต พศุตม์รวมอยู่ด้วย ถึงแม้ไม่ได้เล่นคู่กัน แต่เมื่อเป็นนักแสดงร่วมช่อง ต่างคนต่างก็ต้องโชว์สปิริตกันหน่อยล่ะคราวนี้...

บู๊เยอะขึ้นในละครภาคต่อ ชาติเจ้าพระยา 2
“เตรียมเปิดกล้องละครเรื่อง ชาติเจ้าพระยา 2 เจอนักแสดง และทีมงานเดิมๆ คุ้นเคยกันหมดแล้ว ไม่ต้องปรับอะไรมาก ภาคนี้มีความเข้มข้นมากขึ้น ต้องคอยสืบหาเรื่องราวต่างๆ จริงๆ บทประพันธ์เรื่องนี้ค่อนข้างยาว ในภาคแรกเล่าเรื่องไปแล้วบางส่วน แต่ยังเหลืออีกหลายส่วน คงได้เห็นกันเร็วๆ นี้ ฝนเล่นคู่พี่ต่าย (ณัฐพล) เหมือนเดิม ร่วมงานแล้วสบายใจ ทำงานด้วยกันง่าย พี่เค้าน่ารัก เป็นกันเอง เวลาเข้าฉากรับส่งอารมณ์กันดีมาก ภาคนี้ฝนแต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับเค้าแล้ว เริ่มมีศัตรูเข้ามา คนดูจะได้เห็นฝนบู๊เยอะขึ้น ดราม่ามากขึ้น ฝนไม่เคยบู๊เยอะขนาดนี้มาก่อน เรื่องนี้เรื่องแรกเลย ส่วนดราม่าถึงแม้จะเคยผ่านมาบ้าง แต่ต้องทำการบ้านเพิ่ม พยายามอ่านบท และทำความเข้าใจกับตัวละครเยอะๆ ฝนและนักแสดงทุกคนเชื่อว่าคนดูคงจะชอบ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วย ใครที่เป็นแฟนละครชาติเจ้าพระยาอยู่แล้ว ภาคนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”

นักแสดงร่วมช่อง ยังไงก็ต้องเจอกัน
“หลายคนอาจจะจับตามองว่าในเรื่องชาติเจ้าพระยา มีพี่อาร์ต (พศุตม์) เล่นด้วย เวลาเจอกันในกองฯ รู้สึกอึดอัดมั้ย จริงๆ เราก็เป็นนักแสดงด้วยกันทั้งคู่ คงไม่มีปัญหาอะไร สามารถร่วมงานกันได้ตามปกติ เป็นพี่น้องที่อยู่ช่องเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอกันอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าจะให้ไปคลุกคลี หรือพูดคุยเหมือนเดิม คงไม่ใช่ อาจแค่ทักทายกันบ้าง แต่คงไม่คุยเรื่องส่วนตัว ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ตั้งใจทำงานให้ออกมาดีที่สุดดีกว่า ส่วนการร่วมงานกับพี่เฟิร์ส (เอกพงศ์) ตอนที่เล่น นางร้ายซัมเมอร์ จริงๆ ก็ไม่ได้มีกระแสอะไรออกมาเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ข่าวครั้งนั้นเคลียร์จบไป ทุกคนก็เห็นแล้วว่าไม่มีอะไรจริงๆ ข่าวหรือกระแสที่เกิดขึ้นก็ไม่มีแล้ว ในเรื่องงานเราสามารถร่วมงานกันได้ตามปกติ เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเหมือนเดิมค่ะ”

ถึงจะเป็นรุ่นพี่ แต่ยังไม่เก่งพอ
“ทำงานในวงการมา 9 ปีกว่าแล้ว จำได้ว่าเล่นละครเรื่องแรก นางฟ้าไซเบอร์ เวลาผ่านไปเร็วมาก จากน้องใหม่ ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่แล้ว เวลาไปกองฯ เริ่มมีคนไหว้สวัสดี รู้สึกแปลกๆ (หัวเราะ) อย่างการร่วมงานกับอาเล็ก (ธีรเดช) ในเรื่องนางร้ายซัมเมอร์ น้องเค้าเป็นเด็กน่ารัก ขี้แหย่ ขี้แกล้ง อยู่ไม่นิ่ง ทำการบ้านมาตลอด ฝนไม่ได้สอนอะไรเลย ถึงแม้จะอยู่ในฐานะนักแสดงรุ่นพี่ แต่ฝนรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งพอที่จะไปบอกหรือสอนใครได้ขนาดนั้น การเข้ามาเป็นนักแสดงใหม่ ยังต้องปรับตัว และเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ฝนเคยผ่านจุดๆ นั้นมาก่อน ตอนนั้นยังใหม่ เกรงใจทุกคนที่ทำงาน กลัวเป็นตัวถ่วง ฉะนั้นเมื่อฝนเจอใครที่เป็นนักแสดงใหม่ เราจะไม่เจ้ากี้เจ้าการ หรือแนะนำให้เค้าทำอย่างนั้น อย่างนี้ แต่จะปล่อยให้เค้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง และคอยให้กำลังใจมากกว่า ฝนบอกอาเล็กเสมอว่าไม่ต้องเครียด ทำอย่างนี้ดีแล้ว แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ หรือไม่ดีพอ ต้องเล่นแบบไหน ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้กำกับ และแอคติ้งโค้ช เราเป็นนักแสดงเหมือนกัน มีหน้าที่รับส่งอารมณ์ และให้กำลังใจกันก็พอ ฝนเชื่อว่านักแสดงทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง”

ไม่ใช่นางเอก เป็นแค่นักแสดง
“รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นนางเอก แต่เป็นนักแสดง ฝนไม่สามารถบอกได้ว่าถนัดบทไหนเป็นพิเศษ เพราะต่อไปเมื่ออายุเยอะขึ้น ฝนสามารถเล่นเป็นพี่นางเอก เป็นแม่ หรือยายไปเลยก็ได้ จะเล่นร้าย หรือดีได้หมด มีหลายคนให้ฉายาว่าเป็นเจ้าแม่ละครเย็น ต้องขอบคุณที่มองแบบนั้น จริงๆ แล้วฝนมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ทางช่องหยิบยื่นมาให้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นละครช่วงไหน ฝนทำเต็มที่หมด ฝนมีหลักในการทำงาน คือ ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ และเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้คนอยู่ในวงการนี้ได้นาน คือ ความอ่อนน้อม ถ่อมตน เคารพผู้ใหญ่ วางตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวไม่ดี มีฉายาจากนักข่าวว่าเป็นสุภาพสตรีดีแตก แต่ฝนก็รู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ฝนยังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ตอนแรกที่รู้ข่าว ฝนเฉยๆ ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ยังมีคนนึกถึง แต่สุดท้ายใครจะมอง หรือคิดยังไง เราไม่สามารถไปห้ามเค้าได้อยู่แล้ว เรื่องไม่ดีก็ปล่อยไปค่ะ”

หวานซ่อนเปรี้ยว นี่แหละน้ำฝนตัวจริง
“ช่วงแรกๆ หลายคนอาจจะมองว่าฝนเป็นสาวเรียบร้อย แต่งตัวธรรมดา แต่ทำไมนับวันยิ่งแต่งตัวเก่งขึ้น เปลี่ยนลุคส์ตัวเองไปเป็นสาวเซ็กซี่ จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าฝนไม่ได้เซ็กซี่ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่สาวเรียบร้อย หรือหวานซะทีเดียว สไตล์การแต่งตัวของฝนออกแนวหวานซ่อนเปรี้ยวมากกว่า ถ้าให้หวานไปเลยก็ไม่ใช่ แต่ถ้าให้เปรี้ยวจี๊ด ใส่สั้น เปิดโชว์โน่นนี่ก็ไม่ใช่ฝนเหมือนกัน เน้นการแต่งตัวให้เข้ากับโอกาส กาลเทศะ และอารมณ์ช่วงนั้นมากกว่า ปกติฝนไม่ตามแฟชั่นเท่าไหร่ แต่การทำงานบางครั้งต้องรู้เรื่องเทรนด์เอาไว้บ้าง อย่างเวลาออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ นัดกินข้าวกัน จะใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืดธรรมดา หรือบางวันอยากแต่งตัวสวยๆ หน่อย ก็ใส่เดรส หรือแซกสั้นๆ มีลูกเล่นบ้างนิดนึง พยายามเลือกชุดที่ใส่แล้วมั่นใจ ดูเหมาะกับเรา บางครั้งเสื้อผ้าบางชุดเวลาอยู่บนไม้แขวนแล้วสวยมาก แต่พอมาอยู่กับเราอาจไม่สวยก็ได้ หรือบางคนใส่แล้วไม่มีความมั่นใจ ทุกอย่างก็จบ เมื่อก่อนตอนที่ฝนอ้วนกว่านี้ จะรู้จุดด้อยของตัวเองว่าเป็นคนที่มีท่อนแขนใหญ่ ฝนก็จะไม่ชอบใส่เสื้อแขนกุด แต่ตอนนี้ผอมแล้ว มั่นใจมากขึ้น”

ติดใจผมสั้น อยากตัดมานานแล้ว
“จริงๆ ฝนยังเป็นตัวเองปกติ ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หรือมั่นใจขนาดนั้น เพียงแต่เวลาผ่านไป อายุเพิ่มขึ้น เราต้องรู้จักดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น จะให้มาแต่งตัวหวานๆ ใสๆ ทำตัวน่ารักเหมือนตอนเด็กๆ คงไม่ได้แล้ว เป็นไปตามวัยมากกว่า อย่างตอนนี้ฝนตัดผมสั้น จริงๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อประชดรัก หรือฉลองความโสดอะไร เพียงแต่ตัดให้เข้ากับคาแรคเตอร์ในละคร ฝนต้องเล่นเป็นแฝดสองบุคลิก ทั้งหวานและเปรี้ยว ก็เลยตัด จริงๆ อยากตัดมานานแล้ว ทำไฮไลท์สีทองด้วย ช่วงแรกๆ ก็ชอบ คนชมว่าสวย แต่หลังๆ รู้สึกเหนื่อยที่ต้องมานั่งเติมสีบ่อยๆ เพราะเป็นคนผมดำมาก พอทำให้สว่างขึ้น ผมจะแห้งเสียกว่าปกติ ตอนนี้พยายามปล่อยให้ผมได้พักบ้าง ปกติฝนจะไว้ผมยาวตลอด พอตัดสั้นแล้วติดใจมาก (ลากเสียง) ชอบผมสั้นไปเลย ตอนนี้อยากตัดสั้นให้เป็นผู้ชายไปเลยด้วยซ้ำ แต่เกรงใจงาน เดี๋ยวผู้จัดฯ ปวดหัว ไม่รู้จะหาบทไหนให้เล่นดี (หัวเราะ)”

สนุกสนานเฮฮา ตามประสาสาวโก๊ะ
“บางคนอาจจะติดภาพจากในละคร คิดว่าเป็นคนเฉยๆ นิ่งๆ แต่ถ้าใครที่รู้จักฝนจริงๆ เค้าจะรู้เลยว่าฝนไม่ใช่คนเรียบร้อย อ่อนหวานขนาดนั้น จริงๆ เป็นคนพูดตรง ใจร้อนบ้าง ชอบพูดคุย สนุกสนานเฮฮา สบาย เฟรนด์ลี่กับทุกคนด้วยซ้ำ ตอนเด็กๆ มีวีรกรรมหลายอย่างมาก เป็นคนซุ่มซ่าม ไม่ค่อยระวังตัว ขากับแขนเขียวช้ำทุกวัน ชอบเดินไปชนโน่นนี่ตลอดเวลา ไม่ค่อยมีสติอยู่กับตัวเท่าไหร่ พอโตขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากความรักสวยรักงาม ปล่อยให้ตัวเองเขียวช้ำไปทั้งตัวไม่ได้แล้ว เพราะเป็นแผลทีนึงจะทิ้งรอยนั้นไว้อีกนานกว่าจะหาย เวลาใส่กระโปรงสั้นแล้วเห็นรอยช้ำ เดี๋ยวคนจะคิดว่าไปโดนใครซ้อมมารึเปล่า (หัวเราะ)”

อนาคตอยากทำธุรกิจอสังหาฯ
“ตอนนี้ฝนช่วยขายขนมคุ๊กกี้กับแม่ เป็นธุรกิจเล็กๆ สไตล์โฮมเมด แบรนด์ คุ๊กกี้ Bignut ทำมา 2 ปีแล้ว ส่วนใหญ่คนจะโทรสั่งเยอะช่วงเทศกาล บางทีทำกันแทบไม่ได้นอน แต่พอผ่านช่วงนั้นไปก็ปกติ ทำเรื่อยๆ ออกงานต่างๆ ขายที่ตลาดนัดดาราช่อง 3 ทุกเดือน มีลูกค้าประจำที่ชอบสั่งทีละเยอะๆ ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ มีบริการส่งให้ถึงที่เลย จริงๆ ก่อนหน้านั้นเคยมีหน้าร้าน แต่ไม่มีเวลาดูแล ยกให้น้ากับน้องสาวไป ตอนนี้ฝนเป็นประชาสัมพันธ์ เวลาออกงานต่างๆ ช่วยไปดูแลบ้าง แต่ถ้าให้ลงมือทำขนมเอง คงยาก เพราะทำกับข้าวไม่เป็นเลย (หัวเราะ) นอกจากนี้ฝนยังอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกอสังหาริมทรัพย์ด้วย ตอนนี้กำลังมองหาทำเลดีๆ อยู่ คิดไว้ว่าจะซื้อที่ดินเอาไว้ไม่ต้องแพงมาก แล้วให้คนมาเช่า ฝนรู้สึกว่าธุรกิจนี้น่าจะอยู่ได้นาน มั่นคง ยิ่งนานวัน มูลค่ายิ่งเพิ่มสูงขึ้น ไม่ลดลงเหมือนพวกรถ หรือทรัพย์สินทั่วไป ที่สำคัญเราเริ่มโตขึ้น อยากสร้างอะไรให้กับชีวิตตัวเองบ้าง เผื่อแก่ตัวลง ไม่ได้ทำงานในวงการแล้ว ยังมีธุรกิจตรงนี้รองรับอยู่ แต่ตอนนี้ขอผ่อนบ้านให้หมดก่อนแล้วค่อยลงมือลุยค่ะ (ยิ้ม)”

ไม่ซีเรียสเรื่องส่วนตัว กลัวงานไม่ดีมากกว่า
“ข่าวกับดาราเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีตลอด เดี๋ยวนี้ฝนเริ่มชินแล้ว ตอนแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง อย่างเวลาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแบบนึง แต่เค้ากลับไปเขียนข่าว หรือนำเสนออีกแบบ พอนานๆ ไป ฝนเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันเป็นงานของเค้าที่ต้องทำแบบนี้ บางครั้งแค่พาดหัวแรงๆ เพื่อดึงดูดให้คนสนใจ แต่เนื้อหาข้างในยังมีคำพูดของเราอยู่ ซึ่งไม่เป็นไร ตรงนี้ฝนรับได้ และไม่ซีเรียส เพราะทุกคนอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด อย่างเราเป็นนักแสดงก็อยากแสดงให้เต็มที่ ส่วนพี่ๆ นักข่าวก็ต้องเขียนข่าว เพื่อสร้างความน่าสนใจต่อไป แต่ฝนอยากให้เค้ามีจรรยาบรรณในการเขียนข่าวและนำเสนอด้วย เพราะมีบางข่าวที่ไม่จริงเลย บิดเบือนสุดๆ แต่ถ้ายังไม่รุนแรง ไม่กระทบถึงตัวเรามากนัก ฝนก็ยอมปล่อยไป ข่าวที่ทำให้ฝนซีเรียสได้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการทำงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว เพราะฝนมองว่าคนสมัยนี้สามารถแยกแยะออกว่าอะไรจริง ไม่จริง เรื่องงานกับส่วนตัวไม่เอามาปนกัน ถ้าใครมองว่าละครที่ฝนเล่นแล้วไม่ดี ไม่สนุกเลย นั่นแหละเป็นเรื่องที่ฝนต้องเก็บเอามาคิดมากแล้ว”

เรียนรู้รักครั้งเก่า เพื่อเริ่มต้นกับคนใหม่
“ตอนนี้มีคนคุยแล้ว เป็นคนนอกวงการ เพื่อนแนะนำให้รู้จัก กำลังศึกษาเรียนรู้กันอยู่ ลองดูไปเรื่อยๆ เรื่องแบบนี้เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเจอคนแบบไหน ชอบเพราะอะไร ฝนมองว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะและเวลา บางครั้งเราก็เลือกไม่ได้ว่าอยากมีแฟนใน หรือนอกวงการ เราจะรักใครสักคนหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากว่าเค้าทำงานอะไร หน้าตาเป็นยังไง แค่รู้สึกว่าถูกใจและเข้ากันได้ก็พอ เมื่อก่อนมีสเปกเยอะ ต้องสูง ขาว ดูดีประมาณนึง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ขอแค่คุยกันรู้เรื่อง เข้าใจเราจริงๆ ดูแลปกป้องเราได้แค่นั้นพอ ฝนยังมองว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงามเสมอ ถึงแม้ความรักครั้งที่ผ่านมาจะจบลงไป แต่อย่างน้อยก็สอนให้ฝนรู้จักและเรียนรู้กับความรักมากขึ้น ประสบการณ์ในวันนั้นทำให้รู้แล้วว่าสิ่งไหนที่ตัวเองเคยทำผิดไป ต่อไปจะไม่ทำอีก ฝนเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการคบกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนสองคนเท่านั้นจริงๆ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญ ค่อนข้างหัวสมัยใหม่พอสมควร การแต่งงานไม่ใช่คำตอบของความรัก เราจะแต่ง หรือไม่แต่งก็ได้ ไม่ซีเรียสตรงนี้เลย แต่ที่ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะอยากให้เกียรติผู้ใหญ่มากกว่า”

อยากให้คนประทับใจ ต้องไม่ลืมดูแลตัวเอง
“ทุกวันนี้ฝนใช้ชีวิตปกติ สบายๆ แต่สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนไปบ้าง คงเป็นเรื่องการดูแลตัวเองที่ต้องเพิ่มขึ้น จะมาปล่อยตัวเองโทรม หน้าตาย่ำแย่เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว เราทำงานอยู่ตรงนี้ มีหลายคนจับตามองอยู่ เมื่อก่อนฝนจะไม่คิดแบบนี้ รู้สึกว่าชีวิตเป็นของเรา ไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ไม่ชอบก็ได้ อย่างตอนเด็กๆ ไม่ชอบทาโลชั่นที่ตัวเลย ทาแค่หน้าอย่างเดียว เพิ่งจะมาทาโลชั่นเมื่อตอนอายุ 21-22 ปีเอง ถือว่าช้ามาก จริงๆ อายุ 15 ปีต้องทาครีมแล้วด้วยซ้ำ แต่ถึงจะเริ่มช้า ก็ยังดีกว่าไม่เริ่มเลย เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าสปา ขัดตัว ทำเล็บ ทำผม แต่พอเริ่มคิดว่าต้องใช้หน้าตาในการทำงาน เพื่อให้สวย ดูดี เราต้องทำบ้าง ถึงแม้จะเป็นคนไฮเปอร์ ไม่ชอบนั่งทำอะไรนานๆ ก็ตาม แต่ช่วงที่ขี้เกียจ ปล่อยตัวเองก็มี ถ้าวันไหนที่ไม่อยากแต่งหน้า วันนั้นจะอยู่บ้านเลย ไม่ออกไปไหน แต่ถ้าจะออกข้างนอกเมื่อไหร่ ต้องแต่งหน้า แต่งตัวให้ดูดีนิดนึง ทำยังไงก็ได้ให้คนที่เจอหรือเห็นเราแล้วรู้สึกประทับใจ ไม่ดูแย่ ไม่อยากให้คนคิดว่าอยู่ในทีวีดูสวยจังเลย แต่พอมาเจอตัวจริงนี่มันศพเดินได้รึเปล่าเนี่ย (หัวเราะ)”

Profile’s Namfon
ส่วนสูง 167 ซม.
น้ำหนักปัจจุบัน 45 กก.
น้ำหนักมากสุด 50 กก.
น้ำหนักน้อยสุด 41 กก.

Menu To Slim
เช้า โจ๊กหมู+ไข่ดาว+แฮม
เที่ยง ก๋วยเตี๋ยว / ข้าวกะเพรา+ไข่ดาว / ส้มตำ
เย็น อาหารญี่ปุ่น / ชาบู / สลัดผัก+ผลไม้