8 ข้อผิดพลาดเรื่องการใช้เครื่องปรับอากาศที่ควรเลี่ยง
ช่วงนี้ได้ยินแต่คนบ่นเรื่องอากาศที่ร้อน ร้อน และร้อนขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อร้อนและหวังพึ่งพาความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแล้วแต่ปรากฏว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไร เพราะมันระบายความร้อนได้น้อยลง แถมยังทำให้ค่าไฟพุ่งกระฉูดในแต่ละเดือนอีก แต่คุณเคยรู้หรือไม่ว่าสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศอาจไม่ได้ช่วยเรื่องความเย็นนั้นอาจเป็นความผิดพลาดเรื่องการใช้เครื่องปรับอากาศที่เกิดจากผู้ใช้งาน และนี่คือข้อผิดพลาดเหล่านั้นที่ควรหลีกเลี่ยง
istockphotoistockphoto
1.เลือก BTU เครื่องปรับอากาศไม่เหมาะสมกับขนาดห้องที่จะใช้
ก่อนที่จะเลือกเครื่องปรับอากาศควรคำนึงถึงขนาดของห้องที่ตั้งใจติดตั้งเครื่องปรับอากาศนั้นๆ สำหรับการคำนวณจำนวน BTU ให้เหมาะกับพื้นที่นั้นมีสูตรการคำนวณ BTU อยู่นั่นคือ
BTU = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว ) x ความแตกต่าง
ความแตกต่างแบ่งได้ 2 ประเภท
600 - 700 = ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะกลางคืน
700 - 800 =ห้องที่มีความร้อนสูงใช้กลางวันมาก
สำหรับใครที่ใช้ห้องบ่อยครั้ง หรือห้องเพดานสูง มีแสงแดดส่องถึงได้อาจต้องเพิ่ม BTU ขึ้นอีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่แนะนำให้ซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีจำนวน BTU มากเกินไป เพราะแม้จะทำให้เกิดความเย็นได้มาก แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดความชื้นให้กับห้อง และความชื้นนั้นกลับทำให้ห้องมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากเดิม แถมยังสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ
istockphotoistockphoto
2.เปิดหน้าต่างและประตูขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ
การทำงานของเครื่องปรับอากาศนั้นคือการดึงอากาศร้อนจากภายในห้องผ่านสารทำความเย็นที่ดูดซับความร้อนจากอากาศ เมื่ออากาศเย็นลงจะถูกพัดกลับเข้าไปในห้อง ส่วนอากาศที่ร้อนจะถูกขับออกด้านหลัง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ควรปิดหน้าต่างและประตู เพื่อไม่ให้อากาศร้อนจะกลับเข้ามาแทน และจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง
istockphotoistockphoto
3.ตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไป
หลังเหน็ดเหนื่อยและเผชิญกับความร้อนนอกบ้านมาถึงบ้าน คุณคงอยากสัมผัสความเย็นสบายทันทีที่คุณเข้าไปอยู่ในบ้าน แต่เมื่อคุณเข้ามาในบ้านแล้วบ้านกลับร้อนกว่าที่คุณคิดไว้ คุณอาจจะเผลอเปิดเครื่องปรับอากาศแล้วตั้งอุณหภูมิต่ำลงไปถึงสิบกว่าองศาเซลเซียสเพื่อทำให้ห้องเย็นทันใจของคุณ แต่นั่นเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เพราะการตั้งอุณหภูมิต่ำเกินกว่าความเย็นที่ต้องการไม่ได้ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานเร็วขึ้น เพราะหากคุณตั้งใจให้ห้องมีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส แต่คุณตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 18 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศก็จะยังทำงานต่อไปจนกว่าห้องจะมีอุณหภูมิตามที่ตั้งไว้ ซึ่งนั่นหมายความว่าห้องจะเย็นจนเกินไป และทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น ดังนั้นแนะนำว่าให้ตั้งอุณหภูมิตามที่ต้องการและปล่อยให้เครื่องปรับอากาศทำงานตามปกติของมัน
istockphotoistockphoto
4.ไม่เปิดพัดลมเพื่อหมุนเวียนอากาศ
หลายคนมักเปิดพัดลมเมื่ออากาศร้อน และเปลี่ยนเป็นใช้เครื่องปรับอากาศเมื่ออากาศร้อนกว่าเดิม หรือเริ่มไม่สบายตัว แต่อาจไม่มีใครทราบว่าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมหากใช้งานร่วมกับพัดลม โดยเฉพาะพัดลมเพดาน เพราะพัดลมช่วยทำให้อากาศเกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ในขณะที่ตัวคุณอาจโชกไปด้วยเหงื่อ พัดลมจะทำให้เหงื่อของคุณแห้งเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความเย็นบนผิวหนังของคุณ
istockphotoistockphoto
5.ละเลยการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ
ไม่ว่าห้องคุณจะสะอาดแค่ไหน แต่ก็มีอนุภาคเล็กๆ ลอยอยู่ในอากาศและถูกดูดเข้าไปในเครื่องปรับอากาศในระหว่างการใช้งาน ซึ่งแผ่นกรองอากาศที่สะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และการสะสมของอนุภาพจะลดการไหลของอากาศทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น และถ้าตัวกรองสกปรกจะทำให้เกิดการใช้พลังงานที่สูงขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ ถ้าหากเครื่องปรับอากาศทำงานทุกวัน ให้เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเดือนละ 1 ครั้ง หรือถ้าใช้บ่อยให้เปลี่ยน 3 เดือนครั้ง แต่ถ้าเครื่องปรับอากาศของคุณมีแผ่นกรองที่สามารถถอดทำความสะอาดได้ ก็ให้หมั่นถอดออกมาทำความสะอาด หรือหาซื้อแผ่นกรองทดแทน
istockphotoistockphoto
6.ลืมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศระหว่างฤดูกาล
ในช่วงฤดูร้อนคุณอาจใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งกว่าช่วงฤดูอื่น แต่ก็อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในระหว่างฤดูกาล เพราะแม้จะไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ ภายในเครื่องปรับอากาศก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดโรคหอบหืด และโรคทางระบบทางเดินหายใจ
istockphotoistockphoto
7.ขาดการบำรุงรักษาที่ดี
การหมั่นบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไม่เพียงยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศเท่านั้น แต่ยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพคือระบายความร้อนได้เร็วขึ้น และประหยัดพลังงาน อย่างน้อยจึงควรตรวจเช็กสภาพการใช้งานของเครื่องปรับอากาศประมาณปีละ 1 ครั้ง หรือถ้ามีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นเช่นเกิดเสียงระหว่างการใช้งาน มีน้ำหยด หรือมีกลิ่น ก็ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศ ยิ่งแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าปล่อยให้เครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ และต้องเปลี่ยนใหม่
istockphotoistockphoto
8.ไม่ใส่ใจแหล่งที่ทำให้เกิดความร้อน
ถ้าเป็นไปได้ควรลดแหล่งความร้อนภายในที่พักอาศัยของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่นหากมีหน้าต่างบานเดียว ควรเพิ่มช่องทางให้เกิดการไหลเวียนของอากาศ ปิดรอยแตก รอยรั่วรอบอาคาร ปิดหน้าต่างที่มีแสงแดดส่องด้วยม่านหนาสีอ่อน โดยให้ปิดในช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดของวัน ถ้าทำได้ควรเพิ่มฉนวนกันความร้อนบนผนัง หลีกเลี่ยงการใช้ CPU สูงๆ ในเครื่องคอมพ์พิวเตอร์หรือแล็ปท็อป เลี่ยงการใช้อุปกรณ์เพิ่มความร้อนเช่นเครื่องซักผ้า หรือเครื่องอบผ้าในขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ จำกัดเวลาในการปรุงอาหารบนเตาอบ แต่หากต้องการอุ่นอาหารอีกครั้งให้เลือกใช้ไมโครเวฟแทน