8 ข้อควรรู้ก่อนเช่าบ้านที่ญี่ปุ่น
สำหรับใครที่มาเรียนหรือทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วจำเป็นต้องเช่าห้องเอง ห้องเช่าในญี่ปุ่นมี 2 แบบคือแบบปูพื้นและแบบทาทามิ (บางทีก็ผสมกัน) ซึ่งแบบทาทามิจะถูกกว่า โดยปกติแล้วเราต้องไปเช่าห้องผ่านนายหน้าจัดหาบ้าน และเมื่อตัดสินใจจะเช่าห้องแล้ว เราจะต้องเตรียมเงินเพื่อชำระค่าต่างๆ ในตอนทำสัญญาประมาณ 5-6 เท่าของค่าเช่าเลยทีเดียว ส่วนจะเป็นค่าอะไรนั้นไปดูกัน
incomlab.jpincomlab.jp
1.ค่าเช่า หรือ 家賃 (yachin) มักจะคิดเป็นรายเดือน ส่วนใหญ่จะไม่รวมค่าน้ำค่าไฟและค่าแก๊ส และบางที่ก็จะมีค่าบำรุงรายเดือนเพิ่มมาอีก ซึ่งค่าบำรุงจะเป็นค่าทำความสะอาดส่วนกลางให้ดูใหม่สะอาด และไฟทางเดินสว่างสดใสอยู่เสมอ
jomartindesigner.comjomartindesigner.com
2. ค่ามัดจำ 敷金 (Shikikin) หรือค่ามัดจำ ในตอนก่อนเช่าบ้าน เรามักจะต้องจ่ายค่ามัดจำห้องด้วย ในกรณีที่เราอาจจะทำบ้านเสียหาย เขาจะหักค่าซ่อมออกจากมัดจำนี้หลังจากที่เราย้ายออกแล้ว ฉะนั้นถ้าดูแลดีๆ เราก็มักจะได้คืนเต็มจำนวนเลย ส่วนใหญ่ค่ามัดจำจะคิดเท่ากับค่าเช่า 1-2 เดือน
www.kurachic.jpwww.kurachic.jp
3. เงินขวัญถุงเจ้าบ้าน ที่ญี่ปุ่นมีระบบการให้เงินขวัญถุงกับเจ้าของบ้าน ที่เรียกว่าเงินขวัญถุง หรือ 礼金 (Reikin) เป็นเงินที่เราต้องให้เปล่าไปกับเจ้าของบ้าน เป็นเหมือนเงินขอบคุณที่ให้เราเช่าบ้าน และไม่ได้คืน ส่วนใหญ่แล้วจะเท่ากับเงินค่าเช่า 1-2 เดือน
amd.c.yimg.jpamd.c.yimg.jp
4. ค่านายหน้า เวลาเราจะไปหาเช่าบ้าน เราต้องไปหานายหน้าจัดหาบ้านหรือห้องเช่าที่อยู่ตามหน้าสถานีรถไฟ มีคำเรียกนายหน้าว่า 不動産屋 (Fudosanya) โดยเขาจะคิดค่าแนะนำบ้านให้เราเป็นเงินเท่ากับค่าเช่าบ้าน 0.5-1 เดือน โดยจะเรียกเก็บเมื่อเราตกลงใจทำสัญญาเช่าบ้านเล้ว ถ้าหาบ้านไม่ได้สักที เราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนนี้ และสามารถเปลี่ยนนายหน้าไปได้เรื่อยๆ จนกว่าที่เราจะเจอห้องที่พอใจ
www.daikyo-k.netwww.daikyo-k.net
5. ค่าต่อสัญญา ค่าต่อสัญญา (更新料) ส่วนใหญ่สัญญาในการเช่าบ้านจะเท่ากับ 1- 2 ปี โดยเราจะต้องต่อสัญญาตามกำหนด ปกติแล้วจะมีเอกสารติดต่อมาให้ต่อสัญญาประมาณ 3-4 เดือนล่วงหน้าก่อนหมดสัญญา ซึ่งถ้าเราไม่ได้ก่อปัญหาอะไรให้กับคนที่อยู่อาศัยรอบๆ เราก็จะต่อสัญญาได้อยู่แล้ว โดยจะต้องจ่ายค่าต่อสัญญาเท่ากับเงินค่าเช่า 1-2 เดือน
www.sakouju.jpwww.sakouju.jp
6. คนค้ำประกัน ตอนนี้คนต่างชาติสามารถเช่าบ้านอยู่ได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะมาก โดยปกติแล้วเราจะต้องมีคนค้ำประกันในการเช่าบ้าน คนค้ำประกันหรือ 保証人 (Hoshonin) จะต้องเป็นคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น หรือบางทีเจ้าของบ้านก็จะกำหนดว่าต้องเป็นคนญี่ปุ่น ถ้าเราไม่มีใครคำประกันเลย เราก็สามารถจ้างบริษัทค้ำประกันได้ บริษัทค้ำประกันเรียกว่า 保証会社 (Hoshokaisha) โดยจะเรียกเงินค่าบริการต่างกันไปตั้งแต่หลัก 10,000 เยนไปจนถึงเท่ากับค่าเช่าบ้าน 1 เดือน
www.e-house.co.jpwww.e-house.co.jp
7. โค้ดลับในการเรียกส่วนต่างๆ ของห้อง ตัวย่อต่างๆ ที่เห็นได้บ่อยเวลาดูแปลนห้อง
L (Living room) ห้องนั่งเล่น
D (Dining room) ห้องกินข้าว
K (Kitchen) ครัว
WC (Water Closet) ห้องน้ำ
UB (Unit Bath) ห้องอาบน้ำแบบมีส้วมในตัว
CL (Closet) ตู้เสื้อผ้า
บางทีเราก็จะเห็นคันจิอย่าง 6畳, 8畳 ต่างๆ 畳 (Jou) คือเสื่อทาทามิ 8畳 ก็คือห้องที่มีเสือทาทามิ 8 แผ่นนั่นเอง เป็นหน่วยวัดระดับความใหญ่ของห้องในญี่ปุ่น โดย 1畳 = ประมาณ 1.65 ตารางเมตร
resources.realestate.co.jpresources.realestate.co.jp
8. การเช่าผ่านเอเจนซึ่สำหรับคนต่างชาติโดยเฉพาะ เราสามารถเช่าห้องผ่านเอเจนซึ่สำหรับคนต่างชาติได้ ซึ่งมีอยู่มากมาย และกระบวนการต่างๆ ก็จะง่ายขึ้นมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเสนอว่า ไม่ต้องจ่ายค่าประกันหรือค่ามัดจำรวมทั้งไม่ต้องจ่ายเงินขวัญถุงให้เจ้าบ้านด้วย ซึ่งก็จะดีตรงที่เราก็จะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในตอนก่อนเช่า แต่ให้คำนวนดูดีๆ ก่อนเพราะบางทีค่าเช่าบ้านต่อเดือนก็จะแพงกว่าปกติเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว บางทีผลสรุปแล้วอาจจะแพงกว่าก็เป็นได้
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการดูข้อมูลเรื่องการเช่าห้องพักในอพาร์ทเมนท์ทั่วๆไป อย่างไรก็ตามห้องพักในญี่ปุ่นยังมีอีกหลายแบบ อาทิเช่น หอพัก และแชร์เฮ้าส์ ซึ่งอาจมีรายละเอียดและค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป ใครที่จะเช่าบ้านที่ญี่ปุ่นอย่าลืมลองศึกษาข้อมูลไปล่วงหน้านะคะ