สูบบุหรี่เสี่ยงเหงือกอักเสบและฟันร่วง
วารสารการแพทย์ Journal of Periodontolegy รายงานว่า ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกอักเสบมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 4 เท่า! ดร. สก็อตต์ โทมาร์ (Dr. Scott Tomar) และทีมนักวิจัยจาก U.S. Centers of Disease Control and Prevention ออกสำรวจการแพร่กระจายของโรคเหงือกอักเสบ พบว่าสาเหตุมากกว่าครึ่งมาจากการสูบบุหรี่ และบางส่วนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคปริทันต์ ดังนั้นจึงสรุปผลในเชิงชี้แนะว่า การป้องกันโรคปริทันต์สามารถทำได้ด้วยการงดสูบบุหรี่ สำหรับโรคปริทันต์ หรือ Periodontal Disease นั้น คืออาการขั้นรุนแรงของโรคเหงือกอักเสบ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อและกระดูกรอบๆฟัน ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ฟัน หลุดร่วงออกมาได้ แจ็ค คาตัน (Jack Caton) ประธาน American Academy of Periodontology กล่าวว่า การวจครั้งนี้ทำให้เราตระหนักมากขึ้นว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพปาก หลังจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคเหงือกคงต้องแนะนำผู้ป่วยให้เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่มากขึ้นด้วย ดร. โรเบิร์ต เจนโก (Dr. Robert Genco) บรรณาธิการวารสาร Journal of Periodontolegy กล่าวเสริมว่า การสูบบุหรี่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) ในช่องปากเสียไป และจะไปลดปริมาณออกซิเจนรวมทั้งสารที่มีประโยชน์ซึ่งจะส่งผ่านเข้าไปในเหงือก จากการสำรวจยังพบอีกว่า ผู้สูบบุหรี่สูญเสียฟันมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ ส่วนการรักษานั้น ก็ปรากฏว่าผู้สูบบุหรี่หายช้ากว่าผู้ที่ไม่สูบเช่นเดียวกัน การสำรวจครั้งนี้นักวิจัยระบุว่า เป็นข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนกว่า 12,000 คน และพบต่อไปว่าผู้ที่สูบบุหรี่มากกว่าวันละ 1 ซองครึ่ง เสี่ยงต่อโรคปริทันต์มากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 6 เท่า!!! ส่วนผู้ที่สูบน้อยกว่าครึ่งซองต่อวัน เสี่ยงมากกว่าผู้ที่ไม่สูบประมาณ 3 เท่า!! นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าผู้ที่เคยสูบบุหรี่และเป็นโรคปริทันต์ หลังจากเลิกบุหรี่เป็นเวลานาน 11 ปี ไม่เคยมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกเลย