9 แหล่งไลฟ์สไตล์ในอาคารเก่าที่น่าเช็กอิน
เมื่อบ้านเรือนและอาคารเก่าหลายแห่งถูกเปลี่ยนเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิปที่น่าเช็คอิน บรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาของอาคารดั้งเดิมจึงกลับมางดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวอีกครั้ง
จากเสน่ห์แห่งความงดงามของอาคารและบ้านเรือนหลายแห่งที่เดินทางผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน จนกลายเป็นสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าที่เหมาะกับการรักษาไว้ เช่นเดียวกับแหล่งไลฟ์สไตล์ทั้ง 9 แห่ง ซึ่งได้รับการแปลงโฉมใหม่ ภายใต้บรรยากาศแห่งความเก่าที่ชวนย้อนกาลเวลา
บ้านขนมปังขิงบ้านขนมปังขิง
บ้านขนมปังขิง คาเฟ่ในบ้านไม้เก่าอายุร้อยกว่าปีเริ่มกันด้วยสถานที่แรกอย่าง บ้านขนมปังขิง ซึ่งเป็นบ้านที่มีอายุเก่าแก่มากถึงร้อยกว่าปีในซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ย่านเสาชิงช้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นคาเฟ่อันโดดเด่นท่ามกลางต้นมะม่วงขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านปกคลุมให้ร่มเงาอยู่บริเวณด้านหน้าของบ้าน โดยมาพร้อมสถาปัตยกรรมดีไซน์ตามแบบบ้านเรือนไทยสไตล์ตะวันตกที่สามารถนำพาผู้มาเยือนย้อนกลับสู่คืนวันในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับคาเฟ่แห่งนี้โดดเด่นด้วยแบบบ้านทรง 'ขนมปังขิง' หรือที่เรียกว่า "Ginger Bread House" ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ได้รับอิทธิพลในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 4 โดยมาพร้อมการตกแต่งอันงดงามจากลวดลายไม้ฉลุเหนือประตูและช่องลมที่มีความละเมียดละไม คล้ายกับบ้านขนมปังขิงของชาวยุโรปที่นิยมทำบ้านขนมปังในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในส่วนของเบเกอร์รี่และเครื่องดื่มมีให้เลือกทั้งแบบสมัยใหม่และขนมไทยในอดีต ซึ่งมีทั้งขนมแบบไทยแท้ และขนมไทยที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่อย่างไม่ซ้ำใคร เช่นเดียวกับ ไอศกรีมใบเตยบัวลอยท็อปหน้าฝอยทอง ที่พร้อมเสิร์ฟมาในผอบแก้วโบราณ และจัดแยกน้ำกะทิมาในโหลแก้วอันสวยงาม ซึ่งถูกจัดวางอย่างหรูหราบนพานทองแบบดั้งเดิมอีกชั้นอย่างประณีตบรรจง และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง ไอซ์ซิกเนเจอร์คอฟฟี่ ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นในรูปแบบกาแฟสามชั้น โดยชั้นล่างสุดของแก้วเป็นไซรับ ถัดมาเป็นนม พร้อมเติมด้วยกาแฟรสเข้มข้นที่ถูกใจคอกาแฟ
Ha Tien Cafe'Ha Tien Cafe'
Ha Tien Cafe' คาเฟ่บรรยากาศดีสไตล์แอนทีค Ha Tien Cafe' เป็นร้านคาเฟ่สไตล์แอนทีคที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและกลิ่นอายแห่งกาลเวลา โดยคำว่า "ฮาเตียน" ปรากฏเป็นชื่อเมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์มีชาวญวนอพยพหนีภัยสงครามจากเว้มาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยทั้งในฝั่งพระนครและธนบุรี และเนื่องจากภูมิประเทศมีความคล้ายคลึงกัน ชาวญวนจึงเรียกชื่อพื้นที่นี้ว่าฮาเตียน จนเพี้ยนมาเป็นคำว่าท่าเตียนในปัจจุบัน จากเรื่องเล่าเก่าแก่ เมื่อผสานกับความหลงใหลในสถาปัตยกรรมอาคารโบราณและความผูกพันต่อชุมชนในย่านท่าเตียนของผู้เป็นเจ้าของร้าน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนตึกแถวโบราณในย่านท่าเตียนให้เป็นคาเฟ่ดีไซน์เก๋ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความคลาสสิกของกาลเวลา โดยคงสภาพโครงสร้างเดิมของอาคารเก่าที่มีเสน่ห์ตามแบบสถาปัตยกรรมโบราณราวสมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ให้มากที่สุด สำหรับการตกแต่งภายในโดดเด่นด้วยกลิ่นอายแบบยุโรป พร้อมประดับประดาด้วยของตกแต่งที่ชวนสะดุดตาอย่าง สัตว์สตัฟต์ ของสะสมชิ้นโปรดที่เจ้าของร้านชื่นชอบ ซึ่งสามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่บริเวณนี้ได้อย่างไม่ซ้ำใคร สำหรับเครื่องดื่มและขนมก็มีให้เลือกหลากหลาย เริ่มด้วยเมนูสุดฮิตอย่าง ลาเต้กุหลาบ ที่ผสานรสชาติของกาแฟชั้นดีเข้ากับกลิ่นหอมของกุหลาบได้อย่างลงตัว หรือจะรับประทานคู่กับของหวานอย่าง เลม่อนชีสพาย ที่มีรสเปรี้ยวหวานสุดลงตัวของครีมชีสและผลไม้สดนานาชนิด
Kawis Kafe'Kawis Kafe'
Kawis Kafe' เปลี่ยนพื้นที่สำนักงานสู่คาเฟ่สุดชิลล์ จากพื้นที่ใต้ตึกสำนักงานสู่คาเฟ่สุดชิลล์มีสไตล์ซึ่งได้รับการปรับแต่งแปลงโฉมใหม่จนกลายเป็นคาเฟ่ที่ลงตัวสำหรับการผ่อนคลาย ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่นในสไตล์เป็นกันเองเหมือนได้นั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน สำหรับอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งสไตล์ไทยและสไตล์ฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่าง ข้าวผัด Kawis ที่จัดเต็มมาแบบถึงเครื่องเน้นๆ เป็นการผสมผสานรสชาติของข้าวผัดและข้าวคลุกกะปิแบบไทยๆได้อย่างลงตัว หรือจะเป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาราไข่เยิ้ม และของหวานอย่าง บานอฟฟี่วาฟเฟิลรสกลมกล่อม
F.I.X Coffee F.I.X Coffee
F.I.X Coffee แปลงโฉมอาคารเก่าเป็นร้านกาแฟใจกลางกรุง F.I.X Coffee เป็นร้านกาแฟแห่งใหม่บริเวณศาลาแดงซอย 1 ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นโซนพักผ่อนในย่านสีลม โดยมีการรีโนเวทอาคารเดิมที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นคาเฟ่สำหรับคนรักกาแฟ F.I.X Coffee เป็นร้านกาแฟแห่งใหม่บริเวณศาลาแดงซอย 1 ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นโซนพักผ่อนในย่านสีลม โดยมีการรีโนเวทอาคารเดิมที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นคาเฟ่สำหรับคนรักกาแฟ ซึ่งโดดเด่นด้วยอาคารเดิมที่มีรูปแบบเป็นเหลี่ยมมุมชวนสะดุดตาที่มาพร้อมการตกแต่งภายในแบบลอฟท์สไตล์อันเรียบง่าย ด้วยการใช้ผนังคอนกรีตที่ให้ความรู้สึกมินิมอลแทนวัสดุประเภทปูนเปลือยโดยทั่วไป บริเวณส่วนหน้าเป็นโซนเปิดโล่งตั้งแต่พื้นจรดเพดาน โดยคงสเปซที่มีความกว้างเพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ในส่วนพื้นที่บริเวณชั้นล่างเน้นให้ความสำคัญกับการจัดวางคอนเซ็ปต์ร้านกาแฟให้เป็นสไตล์ Grab&Go ที่สามารถเดินเข้ามาสั่งเครื่องดื่มแก้วโปรด พร้อมเบเกอร์รี่โฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกเช้า ซึ่งสะดวกต่อการรับประทานและง่ายต่อการนำกลับไปดื่มด่ำความอร่อยต่อที่ทำงานในช่วงเวลาเร่งรีบ
KANVELA HOUSE X Buddha & Pals คาเฟ่และโฮสเทลดีไซน์เก่าสุดคลาสสิก เปลี่ยนบรรยากาศจากโซนคาเฟ่มาเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ชวนพักผ่อนอย่าง KANVELA HOUSE X Buddha & Pals คาเฟ่และโฮสเทลดีไซน์เก่าสุดคลาสสิกที่มาพร้อมบรรยากาศตึกแถวโบราณอายุกว่า 80 ปี ในย่านนางเลิ้ง ซึ่งได้รับการส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ "ท่านหลวงสิทธื์ โยธารักษ์" หมอยาที่มีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งเป็นผู้คิดค้นต้นกำเนิด "ยาประสระนอแรด หรือ น้ำมันมวย" ที่หลายคนอาจรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยที่นี่เคยเป็นโรงงานผลิตน้ำมันมวยมาก่อน และต่อมาจึงได้มีการเปลี่ยนอาคารนี้สำหรับทำกิจการหลายรูปแบบ ทั้งร้านสูท ร้านเครื่องประดับ จนกระทั่งทายาทของโรงงานน้ำมันมวยรุ่นที่ 4 ได้ริเริ่มสานต่อการอนุรักษ์อาคารนี้ด้วยการรีโนเวทอาคารเก่าแก่มากว่าร้อยปีให้กลายเป็นโฮสเทล ซึ่งประกอบไปด้วยโซนโฮสเทลที่พักและร้านกาแฟ
กชาติคาเฟ่กชาติคาเฟ่
กชาติคาเฟ่ บ้านเก่าสุดคลาสสิกสู่คาเฟ่สไตล์ไทยกชาติคาเฟ่ เป็นร้านกาแฟที่ครบเครื่องทั้งเรื่องบรรยากาศ พื้นที่ใช้สอย และอาหารรสเยี่ยม ภายใต้บ้านเก่าที่ได้รับการรีโนเวทใหม่เป็นคาเฟ่ในบ้านสไตล์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาเพียง 5-6 เดือน จากพื้นที่อันรกร้างจึงได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ด้านหน้าสำหรับทำกาแฟ ที่มาพร้อมครัวโฮมเมดขนาดเล็กสำหรับอบพิซซ่าและทำเครื่องดื่มต่างๆ ส่วนพื้นที่บริเวณด้านบนได้รับการตกแต่งภายในเป็นห้องไพรเวทสำหรับการจัดปาร์ตี้ส่วนตัว หรือทำเวิร์คช็อปต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
The Yard RestaurantThe Yard Restaurant
The Yard Restaurant ศิลปะแห่งกาลเวลา กับอาหารสไตล์เอเชียกลิ่นอายยุโรป ท่ามกลางบ้านไม้หลังเก่าอายุกว่า 80 ปี ที่ไม่มีใครอยู่อาศัย เมื่อได้รับการปรับปรุงให้สวยงามสำหรับเป็นร้านอาหารสไตล์เอเชียและยุโรปในย่านสาทร-เซนต์หลุยส์ จึงมาพร้อมความงามอันโดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านสไตล์ไทยสุดคลาสสิก โดยคงเสน่ห์ของโครงสร้างบ้านเดิมไว้ให้มากที่สุด พร้อมผสมผสานความร่วมสมัย ด้วยการเพิ่มงานดีไซน์สมัยใหม่อย่าง การติดตั้งกระจกใสบริเวณช่องหน้าต่างของบ้าน และการเพิ่มดีเทลด้วยการติดขอบคิ้วโลหะโทนสีโรสโกลด์ในบริเวณช่องแสงต่างๆ อีกทั้งยังตกแต่งภายในด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ร่วมสมัย อย่างชุดโต๊ะเก้าอี้สีสดใสในสไตล์โมเดิร์น กึ่ง casual ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์แบบโคซี่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน จึงพร้อมสร้างบรรยากาศอันแตกต่างให้บ้านหลังเก่าสุดคลาสสิกดูสวยงาม ร่วมสมัย ราวกับเป็นพื้นที่ศิลปะแห่งกาลเวลาที่สามารถดื่มด่ำความสวยงามและความอร่อยไปพร้อมกัน
Sook StationSook Station
Sook Station รีโนเวทอาคารเก่าเป็นโฮสเทลสุดเท่ กับคอนเซ็ปต์ คุก Sook Station เป็นโฮสเทลดีไซน์โมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบไม่ซ้ำใคร กับการนำรูปแบบ คุก มาตกแต่งภายในที่พักไว้อย่างแตกต่าง แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายและชวนพักผ่อน โดยมีจุดเริ่มต้นจากการรีโนเวทตึกแถวเก่าขนาด 3 คูหา ในย่านอุดมสุขเป็นพื้นที่ทำธุรกิจร้านเอกสาร ผสมผสานกับความเป็นคาเฟ่ขนาดเล็กสำหรับรองรับลูกค้าที่มานั่งทำงาน อ่านหนังสือ และยังมีห้องซักผ้าหยอดเหรียญที่มีขนาดใหญ่แบบของโรงแรมไว้ให้บริการทั้งแขกและคนนอกได้ หลังจากรีโนเวทพื้นที่ชั้นล่างเสร็จ จึงเกิดเป็นพื้นที่ Co-working Space สำหรับนั่งทำงาน ประชุม และใช้พื้นที่ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ พร้อมด้วยมุมสวนสำหรับนั่งผ่อนคลายระหว่างวัน จนกระทั่งเกิดเป็นพื้นที่โฮสเทลดีไซน์คุกอันเรียบเท่ที่ทันสมัย ซึ่งมาพร้อมการตกแต่งภายในห้องที่ดูดิบเท่สไตล์ลอฟท์ มีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพียงเตียงนอนสองชั้น โต๊ะและเก้าอี้ หรือหากใครที่ชอบคุกแบบพรีเมี่ยมขึ้นมาหน่อยก็สามารถเลือกห้องนอนใหญ่แบบไพรเวทที่มีความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย โดยสามารถนอนได้มากถึง 4 คน พร้อมห้องน้ำในตัว
AMA Hostel AMA Hostel
AMA Hostel เปลี่ยนบ้านจีนโบราณเป็นโฮสเทลร่วมสมัยกลิ่นอายโอเรียนทอล จากอาคารเก่าดั้งเดิมที่มีอายุมากถึง 200 ปี ซึ่งเคยเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของผู้คิดริเริ่มและก่อตั้งโฮสเทล ต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาเป็นโกดังเก็บของและกลายมาเป็นโฮสเทลในที่สุด โดยมีการคงเอกลักษณ์ของอาคารจีนโบราณดั้งเดิมที่โดดเด่นไปด้วยความงดงามจากงานช่างฝีมือสุดประณีต จึงทำให้การรีโนเวทโฮสเทลในครั้งนี้ยังคงสภาพเดิมของโครงสร้างบ้านสไตล์จีนหลังเก่าไว้ให้มากที่สุด โดยเลือกปรับเปลี่ยนเพียงการใช้โทนสีให้มีความร่วมสมัยมากขึ้นเท่านั้น พร้อมเพิ่มความสวยงามร่วมสมัยตามสไตล์ Contemporary Chinese ที่มีความร่วมสมัยระหว่างกลิ่นอายแบบจีนดั้งเดิมและความโมเดิร์นที่ทันสมัย ซึ่งยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์อันประณีตของงานช่างสไตล์จีนที่ปรากฏอยู่ตามประตู หน้าต่าง และลวดลายไม้สลักที่ประดับอยู่โดยรอบทั้งภายนอกและภายในบ้าน และนอกจากอาคารหลังนี้จะได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็นโฮสเทลเพื่อรองรับการพักผ่อนของผู้มาเยือนในรูปแบบของ อาม่า โฮสเทลแล้ว ยังมีส่วนของ อาม่า คาเฟ่ ที่เปิดให้บริการทั้งเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ และอาหารหลากหลายเมนูอีกด้วย ส่วนโครงการในอนาคตที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการก็คือโซน อาม่า บาร์ บริเวณพื้นที่ชั้นบนของโฮสเทลนั่นเอง