4 พรรณไม้ดอกสีชมพูสวย เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านรื่นรมย์

4 พรรณไม้ดอกสีชมพูสวย เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านรื่นรมย์

4 พรรณไม้ดอกสีชมพูสวย เพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านรื่นรมย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไข่มุกอันดามัน (Medinilla myriantha Merr.) สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้ดอกสีชมพูสวยมาเพิ่มเสน่ห์ให้กับการจัดสวนของบ้าน การปลูก ไข่มุกอันดามัน ก็เป็นคำตอบหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากพรรณไม้ชนิดนี้จะโดดเด่นด้วยรูปฟอร์มใบทรงรีเรียวยาวที่สวยได้รูป ใบมีความเป็นมัน และมีลายร่องเส้นที่ชัดเจนแล้ว พรรณไม้ชนิดนี้ยังเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กชนิดมีช่อดอกสีชมพูสวยที่ประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็ก ๆ หลายดอก โดยในแต่ละดอกจะมีกลีบดอก 4 กลีบ เรียงซ้อนกันอย่างสวยงาม และเมื่อออกดอกรวมกันเป็นกลุ่มช่อตามซอกใบ จึงทำให้พรรณไม้ชนิดนี้ดูสวยงาม โดดเด่น และเหมาะสำหรับการนำมาตกแต่งสวนในบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่มีแดดรำไร อาจตั้งประดับไว้ในบริเวณหน้าบ้านหรือในบ้านที่ใกล้กับริมหน้าต่าง เพื่อให้แสงสว่างสามารถส่องมาถึง โดยควรปลูกในที่มีดินร่วนซุย เพื่อช่วยในการระบายน้ำได้ดี ควรรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นปานกลาง แต่ไม่ควรรดน้ำจนขังแฉะเกินไป หากมีการดูแลอย่างดี ต้นไข่มุกอันดามัน ก็นับเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่สามารถออกดอกให้เชยชมได้ตลอดปี

Grab Grow GreenGrab Grow Green

ทิลแลนด์เซีย พาราไดซ์ (Tillandsia Paradise) หนึ่งในพรรณไม้ที่ดูแลง่ายแถมออกดอกสวยแปลกตา ต้องยกให้ ทิลแลนด์เซีย พาราไดซ์ หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม "สับปะรดอากาศ" ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลสับปะรดสีที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกามากกว่า 500 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป ในบางชนิดสามารถปลูกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีดินหรือวัสดุปลูกใด ๆ มารองรับ มีลักษณะต้นกว้างเป็นทรงพุ่มขนาดประมาณ 5-15 นิ้ว โดยมีรูปทรงใบเรียวยาวราว 15 นิ้ว และมีแผ่นใบกว้างเป็นร่องลึกประมาณ 1-1.5 นิ้ว สีใบมีสีเขียวเข้มเป็นมันสวย เมื่อมีดอกจะโดดเด่นด้วยลักษณะช่อดอกคล้ายใบพายที่มีสีชมพู พร้อมด้วยกลีบดอกใหญ่ที่มีสีม่วงแกมน้ำเงินสด ซึ่งจะบานออกเป็น 3 แฉกและมีกลิ่นหอมในตอนเช้า เหมาะสำหรับการปลูกในที่มีอากาศเย็นสบาย ซึ่งส่งผลต่อความสวยงามของสีดอกไม้ที่จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มขึ้นตามความเย็นของอากาศ โดยสีชมพูของดอกจะค่อย ๆ จางลงจนกลายเป็นสีเขียวเมื่อมีอายุที่นานขึ้น โดยทั่วไปดอก ทิลแลนด์เซีย พาราไดซ์ จะมีอายุอยู่ได้นานราว 4-6 เดือน ในส่วนของวัสดุปลูกที่นิยมใช้คือมะพร้าวสับหรือขุยมะพร้าวล้วน ที่สำคัญควรให้วัสดุปลูกมีความชื้นสูง และนำไปจัดวางในที่มีแดดรำไร ก็จะช่วยทำให้ต้นไม้ชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดี มีใบเรียบเนียนเป็นมันเงา และออกดอกสีชมพูสวยไว้ให้ชื่นชม

Grab Grow GreenGrab Grow Green

บีโกเนีย โพลก้าดอท (Begonia Polkadot) หากไม่นับความสวยงามของดอกสีชมพูสวย บีโกเนีย โพลก้าดอท ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่มีใบสวยงาม เหมาะสำหรับการนำมาจัดสวนเพิ่มความสวยงามให้มุมบ้านได้ดี เพราะด้วยใบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีจุดประสีขาวเล็ก ๆ แต้มอยู่ตามใบราวกับมีใครมาสลัดแปรงพู่กันไว้อย่างไม่ตั้งใจ บวกกับรูปทรงใบสวยที่มีความสวยงามเฉพาะตัวแบบไม่ซ้ำกัน จึงทำให้พรรณไม้ชนิดนี้เหมาะสำหรับการนำมาจัดตกแต่งสวนได้ทั้งเป็นไม้ใบประดับและไม้ที่มีดอกสวย โดยจะมีดอกออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง มีทั้งสีชมพู สีส้ม สีแดง สีขาว และสีเหลือง ส่วนมากจะสามารถพบพรรณไม้ชนิดนี้ในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน เหมาะสำหรับการปลูกในวัสดุปลูกที่มีความร่วนและโปร่ง เพื่อช่วยให้สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี โดยควรนำไปจัดวางไว้ในที่ร่มหรือมีแดดรำไร จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี แต่อาจมีบีโกเนียบางชนิดที่สามารถทนต่อแสงแดดจัดได้โดยไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัสดุปลูกและสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ เพราะหากมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอก็อาจทำให้ใบไม้แห้งจนกลายเป็นสีน้ำตาลได้เช่นกัน

Grab Grow GreenGrab Grow Green

ยี่โถ (Oleander) ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยี่โถ ยังคงเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อประดับตกแต่งสวนของบ้านให้สวยงาม เพราะด้วยขนาดลำต้นที่ไม่สูงจนเกินไป มีกิ่งก้านใบที่ไม่เยอะจนเกินงาม พร้อมทั้งยังให้ช่อดอกสีสวยจำนวนมาก ซึ่งมีให้เลือกหลายเฉดสีทั้ง สีชมพู สีแดง และสีขาว จึงเหมาะสำหรับนำมาปลูกประดับตกแต่งในสวนหรือปลูกไว้ในบ้านเพื่อสร้างความรื่นรมย์ โดยลำต้นจะมีความอยู่ประมาณ 2-5 เมตร โดดเด่นด้วยรูปฟอร์มใบเรียวยาว ปลายใบแหลม มีสีเขียวเข้มเป็นมันสวย เมื่อมีดอกจะออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่งจำนวนมากราว 20-50 ดอก และจะมีดอกบานสวยให้เชยชมยาวไปตลอดทั้งปี สำหรับการปลูกยี่โถสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกโดยการเพาะเมล็ด เพราะจะสามารถแตกกอและกิ่งก้านได้ขนาดใหญ่มากกว่า ซึ่งจะทำให้มีช่อดอกที่มากกว่าด้วยเช่นกัน โดยควรปลูกไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดจัดจ้า ตลอดวัน เหมาะสำหรับการรดน้ำในระดับปานกลางที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และหลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 1 ปี แนะนำให้ตัดแต่ง เพื่อให้ลำต้นแตกกิ่งก้านใหม่มากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook