บ้านผู้บริหารชไนเดอร์ ฯ ออกแบบบ้านตอบโจทย์ Work from Home ให้ชีวิตยังบาลานซ์

การ Work from Home หรือการทำงานจากที่บ้านไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป แม้ช่วงแรกจะสร้างความไม่คุ้นเคยให้กับคนทำงาน ที่ปกติออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน เมื่อต้องเปลี่ยนไปนั่งทำงานที่บ้าน คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ การเตรียมตัวเรื่องสถานที่ อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ อาจจะยังติดขัดอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป และมีการกลับมาให้ Work from Home อีกครั้ง ทุกคนจึงมีประสบการณ์

เช่นเดียวกับคุณกุศล กุศลส่ง รองประธานฝ่ายธุรกิจ Home& Distributions บริษัท ชไนเดอร์ อิเลคทริค ประเทศไทย ที่ดูแลงานทั้งในประเทศไทย ลาวและเมียนมา เป็นอีกคนทำงานที่ต้อง  Work from Home และในบทบาทผู้หารหน่วยงานซึ่งบริการอุปกรณ์อิเลคทรอนิกต่างๆ ดังนั้นบ้าน และพื้นที่ทำงานของเขาจึงตอบสนองทั้งการอยู่อาศัย และการทำงานจากที่บ้านในช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว

บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่ในย่านพัฒนาการ แม้จะเป็นบ้านใหม่ที่เขาและภรรยาเพิ่งย้ายเข้าอยู่เมื่อต้นปี แต่ย่านนี้กลับเป็นย่านคุ้นเคยที่คุณกุศลอยู่กับคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เด็กดังนั้นเส้นทางการเดินทางต่างๆ จึงไม่ใช่ความแปลกตา แต่บ้านหลังนี้กลับมอบพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นกว่าแต่เดิมที่ตนเองเคยอยู่คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนมา Work from Home จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่านั่งทำงานอยู่ในคอนโดมิเนียม

บ้านโมเดิร์นหลังนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 68 ตารางวา การตกแต่งเป็นการผสานกันอย่างลงตัวทั้งไลฟ์สไตล์ของคุณกุศลและภรรยา ฟังก์ชั่นการใช้งาน และดีไซน์ โชคดีที่ทั้งคู่ชอบความเรียบ และเลือกใช้โทนสีขรึมๆ เหมือนกัน ดังนั้นบ้านจึงออกมาสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับการแบ่งพื้นที่ใช้สอย บริเวณชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น โต๊ะทานอาหาร ครัวในบ้าน มีส่วนครัวหนักด้านนอกเพิ่มเติม แต่เนื่องจากคุณกุศลต้องทำงานที่บ้าน และภรรยาเองก็ทำธุรกิจขายกระเป๋าแบรนด์เนมออนไลน์ ห้องนอนสำหรับแขกชั้นล่างจึงถูกปรับเป็นห้องทำงานไปโดยปริยาย

ห้องทำงานที่ถูกแบ่งพื้นที่ให้เป็นทั้งของคุณกุศลและภรรยา ซึ่งทำงานกันคนละสายงาน แต่ก็ไม่มีส่วนที่รบกวนซึ่งกันและกัน เพราะสำหรับคุณกุศลนั้นจะเน้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกการทำงาน สามารถประชุมออนไลน์ คุยงานได้ตลอดเวลาโดยไม่มีปัญหาเรื่องแสงสว่าง ไฟฟ้าตกระหว่างการทำงาน

ดังนั้นอุปกรณ์อิเลคทรอนิกทุกชิ้นในห้องทำงานจึงพร้อมทั้งเรื่องคุณภาพและดีไซน์ ที่นอกจากจะทำให้การทำงานลื่นไหลแล้ว ยังทำให้ห้องทำงานมีดีไซน์ไม่น่าเบื่ออีกด้วย สำหรับการทำงานจากที่บ้านคุณกุศลแนะนำว่าเรื่องการเลือกอุปกรณ์ซัพพอร์ตการทำงานมีความสำคัญมากทั้งสวิตซ์ไฟ ปลั๊กไฟที่ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงไว้เสียบเพื่อรับกระแสไฟเท่านั้น แต่ยังมีปลั๊กสำหรับเสียบ USB เครื่องสำรองกระแสไฟฟ้า เป็นต้น

ส่วนพื้นที่อีกด้านหนึ่งของห้องเป็นส่วนงานของภรรยาคุณกุศล ซึ่งไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงตู้กระจกโชว์กระเป๋าแบรนด์เนม ดังนั้นการดีไซน์พื้นที่ใช้งานในห้องๆ นี้จึงออกมาลงตัว ตอบสนองการทำงานของทั้งคู่ได้เต็มที่

เมื่อขึ้นไปชั้น 2 ของบ้านมี 3 ห้องนอน การตกแต่งเน้นความเรียบง่าย ส่วนต่อเติมอีกส่วนหนึ่งเป็นห้องกระจกซึ่งคุณกุศลกำลังทำเป็นห้องออกกำลังกายส่วนตัว แม้ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยดี แต่ถ้าเสร็จแล้วจะเป็นห้องออกกำลังกายที่สามารถมองผ่านกระจกเห็นบรรยากาศภายนอกได้

ส่วนรอบตัวบ้านนอกจากครัวไทยที่ต่อเติมเพราะภรรยาคุณกุศลชอบทำอาหาร ยังมีโซนนั่งเล่นและสวนเล็กๆ ด้านนอกที่ทำไว้ให้ทั้งคู่ออกมาเปลี่ยนสถานที่จากต้องนั่งทำงานในห้อง อาจมีบางช่วงเวลาระหว่างวันเดินออกมารับแสงและลมธรรมชาติบ้าง อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านมีเรือนปลูกผักสวนครัวเล็กๆ ให้ภรรยาคุณกุศลเก็บไปประกอบอาหาร

บ้านที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งการพักอาศัยและการทำงานต้องมีการคิดถึงเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องและพื้นที่ต่างๆ ในบ้านเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราคงต้องมีการแยกส่วนชีวิตระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แม้งานจะเข้ามาอยู่ในบ้านของเราแล้วก็ตาม