อย่าชะล่าใจ “ซื้อบ้าน” ง่ายขึ้น อาจติด “กับดัก” การเป็นหนี้
ความฝันของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย มักหนีไม่พ้นการมีบ้าน มีรถเป็นของตนเอง ซึ่งเมื่อก่อนอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ถ้าไม่ได้มีเงินเดือนเยอะ ๆ หรือมีเงินเก็บมากพอ แต่ทุกวันนี้ความฝันเหล่านี้เป็นจริงได้ง่ายขึ้น เมื่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์พร้อมใจกันอัดแคมเปญที่มีข้อเสนอยั่วยวนใจให้คนที่อยากมีบ้าน สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
ซื้อง่ายขึ้นด้วยแคมเปญ “ผ่อนให้”
แสนสิริ ที่ปล่อยแคมเปญ “ผ่อนให้ 24 เดือน” เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้มีบ้านของตัวเอง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีกำลังผ่อนชำระหรือไม่ เพราะช่วยผ่อนให้ก่อน 2 ปี ทั้งต้นและดอก ซึ่งมีโครงการที่เข้าร่วมมากถึง 57 โครงการ และทุกโครงการทั้งคอนโด บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที
ขณะที่ LPN ก็ปล่อยแคมเปญ “เช่าเท่าไหร่ ผ่อนเท่านั้น” เพื่อช่วยผ่อนค่างวดกับสถาบันการเงินให้กับลูกค้าเป็นเวลา 30 เดือน เริ่มตั้งแต่ราคา 3,200-13,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของคอนโดมิเนียมทั้ง 11 โครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ พร้อมทั้ง ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางนาน 30 เดือน แถมมีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องปรับอากาศให้พร้อมด้วย
ด้วยข้อเสนอเหล่านี้ ทำให้การครอบครองที่อยู่อาศัยของคนทำงานกินเงินเดือนเป็นจริงได้ง่ายขึ้น หลายคนจึงตัดสินใจซื้อบ้าน คอนโด หรือทาวน์เฮาส์ได้แบบไม่ลังเล เพราะอย่างน้อย ๆ ก็มีคนช่วยผ่อนให้ก่อน
กู้ซื้อบ้านง่ายขึ้นเพราะ “ดอกเบี้ยต่ำ”
การขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านในปัจจุบัน มีเงื่อนไขที่เอื้อต่อการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ด้วยข้อเสนอ “ดอกเบี้ยต่ำ” จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ในยุคที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวแบบนี้ ทำให้หลายคนไม่อยากเสียโอกาสในการยื่นเรื่องขอสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำ
ยิ่งสถาบันการเงินสุดฮิตอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านตลอดทั้งปี พร้อมจัดโปรโมชั่นเงินกู้พิเศษเพื่อให้คนมีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเอง ด้วยสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีแรกเพียง 2.60 เปอร์เซ็นต์ โดยผ่อนชำระเริ่มต้นปีแรกเพียงเดือนละ 3,400 บาท ก็ยิ่งทำให้คนที่คิดจะกู้ซื้อบ้านตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
เริ่มต้นสบาย แต่สุดท้าย “ผ่อนไม่ไหว”
ด้วยความที่อะไรก็ราบรื่นไปเสียหมดในช่วงแรก เพราะกู้สินเชื่อได้ดอกเบี้ยต่ำ และมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ช่วยผ่อนให้ ทำให้ส่วนใหญ่มักนิ่งนอนใจ และไม่มีเงินเก็บสำรองไว้สำหรับการผ่อนชำระในแต่ละเดือน
เมื่อถึงเวลาที่ต้องมาผ่อนเอง จึงเกิดภาวะช็อกจากการหมุนเงินที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือนไม่ทัน สุดท้ายจึงผ่อนต่อไม่ไหว และหากขาดส่งขึ้นมาก็จะส่งผลให้มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามมา ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยปรับการคำนวณดอกเบี้ยใหม่มาเป็นการคำนวณจากเงินต้นในงวดที่ผิดนัดชำระแทน แต่บางคนก็ยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้อยู่ดี จึงลงเอยด้วยการถูกยึดบ้าน
ไม่อยากโดน “ยึดบ้าน” ทำได้!
หากไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เพราะเริ่มผ่อนต่อไม่ไหว สิ่งที่ต้องทำเพื่อไม่ให้ถูกยึดบ้าน คือการเจรจาขอผ่อนผันหรือประนอมหนี้ ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธี
- ขอลดอัตราดอกเบี้ย ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อแรกกู้
- ขอชำระค่าผ่อนบ้านต่ำกว่าปกติ ในกรณีที่จำนวนยอดชำระต่อเดือนสูงกว่ายอดดอกเบี้ยต่อเดือนอย่างน้อย 500 บาท
- ขอขยายเวลาชำระหนี้ เพื่อทำให้ยอดค่าผ่อนต่อเดือนลดลง ซึ่งสามารถขอขยายเวลากู้ได้จนถึงอายุ 70 ปี
- ขอผ่อนผันการค้างชำระ อาทิ ชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือน, ชำระเป็นเงินก้อนโดยแบ่งเป็นงวด ๆ, ชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่ง
- ขอโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและจะซื้อคืน ลักษณะคล้ายการขายฝากแต่ยังคงเช่าบ้านตัวเองต่อไป