5 เทรนด์แต่งบ้านหลังโควิด-19 ปลุกความเป็นสถาปนิกในตัวคุณ

5 เทรนด์แต่งบ้านหลังโควิด-19 ปลุกความเป็นสถาปนิกในตัวคุณ

5 เทรนด์แต่งบ้านหลังโควิด-19 ปลุกความเป็นสถาปนิกในตัวคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงไม่กี่ปีก่อนโควิดจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ไอเดียการออกแบบบ้านและห้องต่างๆ จะเกิดขึ้นจากความต้องการสิ่งที่แตกต่างจากที่เป็นอยู่ ห้องที่เคยทาสีฉูดฉาดก็เปลี่ยนมาคุมโทนสีเทาหม่น วางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเท่าที่จำเป็น ตามวิถีมินิมัล (minimalism)

เมื่อโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ได้เปลี่ยนชีวิตของผู้คนทั่วทุกหัวระแหง ให้ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับบ้านมาร่วมปี หลายคนเริ่มกลับมาเติมสีสันให้ชีวิตด้วยการเพิ่มลวดลายบนผนังห้อง หรือตกแต่งดอกไม้เข้าไปเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบ้านมากขึ้น

และในปี 2021 นี้ แนวคิดการตกแต่งบ้านกำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง จากความสัมพันธ์ของผู้คนกับบ้านและคอนโด ที่เปลี่ยนไปในสายตาของผู้อยู่อาศัย พูดง่ายๆว่าคนเราใช้บ้านเป็นโรงเรียน ที่ทำงาน ฟิตเนส ห้างสรรพสินค้า (แบบออนไลน์) และพื้นที่จัดงานเลี้ยงพบปะผู้คน (ทางออนไลน์) แบบตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ช่วงตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา

ในมุมมองของเหล่าสถาปนิกและนักตกแต่งบ้านทั่วโลก มองว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ที่การล็อคดาวน์มีผลบังคับใช้ในหลายประเทศ ผู้คนเรียนรู้ที่จะค้นหาว่าอะไรที่ใช่และไม่ใช่สำหรับบ้านของพวกเขา และมีความมั่นอกมั่นใจมากขึ้นในการออกแบบที่พักอาศัยของพวกเขา รวมทั้งการคิดวิเคราะห์ว่า พื้นที่อันแสนคุ้นเคยนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับพวกเขาได้มากขึ้นอย่างไร

ห้องเดิมแต่เพิ่มประโยชน์ใช้สอย

อัมฮัด ฟรีแมน ผู้ก่อตั้งบริษัทรับออกแบบภายในในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี บอกว่า ลูกค้าของเขามีเวลาที่จะคิดไตร่ตรองว่าพวกเขาต้องการอะไรในห้องๆ หนึ่งบ้าง

เขาเล่าว่า เคยเปลี่ยนห้องใต้หลังคาของบ้านหลังหนึ่งให้เป็นพื้นที่สารพัดประโยชน์ ให้เด็กๆ สามารถกระโดดเล่นบนโซฟาอย่างอิสระได้ อีกทั้งยังมีโต๊ะเรียนสำหรับพวกเขา และยังปรับให้เป็นเลานจ์ให้นั่งพักผ่อนได้ในห้องเดียว และเคยมีลูกค้าของเขา ขอให้เปลี่ยนห้องทำงานที่ไม่เคยถูกใช้ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มสุดอลังการภายในบ้าน

ส่วนฮาฟซา เบิร์ท ผู้ก่อตั้ง hb+a Architects ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วยลูกค้าเปลี่ยนโรงรถเป็นยิมเล็กๆ และห้องเก็บของในบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิสและห้องของเล่นให้เด็กๆ

ลิซา ซินี ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Mosaic Design Studio บอกว่า ในความอึดอัดขัดข้องหมองใจจะทำให้บังเกิดไอเดียอันเจิดจรัสได้ เพราะซินี ได้ช่วยลูกค้าในรัฐฟลอริดา เปลี่ยนโรงรถเป็นห้องเล่นเกม ด้วยการเพิ่มจอ LCD ขนาดใหญ่ ปูพรมใหม่ จัดแสงในห้อง และเพิ่มเก้าอี้เกมเมอร์เข้าไปเสริมมาแล้ว

พื้นที่ส่วนตัวที่มากขึ้น

ประธานบริษัท Mosaic Design Studio บอกว่า ในยุคหนึ่ง บ้านจะมีพื้นที่เปิดโล่ง ไว้สำหรับต้อนรับแขกเหรื่อในงานปาร์ตี้ หรือเป็นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้บ้านดูกว้างขึ้น แต่ความต้องการของเจ้าของบ้านในยุคนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว จากที่สมาชิกในครอบครัวต้องทำงาน เรียนหนังสือ ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านด้วยกันเป็นปีๆ การขีดเส้นความเป็นส่วนตัวจึงมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน

การแบ่งพื้นที่ของแต่ละคนจะช่วยลดโอกาสการเข้ามามีบทบาทมากเกินไปของใครคนใดคนหนึ่งในบ้าน โดยเฉพาะกับบ้านที่มีคนหลากหลายช่วงอายุอยู่ด้วยกัน ซินีพบว่าตลอดทั้งปีที่แล้ว มีลูกค้าที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายช่วงวัย โทรมาหาไม่ขาดสายเรื่องการตกแต่งบ้านให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุที่จะย้ายมาอยู่ด้วย

ฮาฟซา เบิร์ท ผู้ก่อตั้ง hb+a Architects เพิ่มเติมว่า ในกรณีแบบนี้ แทนที่ลูกค้าจะกั้นห้องเพิ่มในบ้าน พวกเขาเลือกที่จะขออนุญาตต่อเติมห้องจากสวนหลังบ้านแทน เพื่อให้เป็นที่อยู่ของสมาชิกในครอบครัวที่เข้ามาเพิ่มในช่วงโควิด

อาหารสดใหม่-อากาศสดชื่น

พื้นที่อาคารสาธารณะระบบปิด จำพวกห้างสรรพสินค้า ถูกจับตามองเรื่องคุณภาพของอากาศช่วงโควิดระบาดในระยะแรกๆ แต่ตอนนี้แม้แต่ในเคหะสถาน ผู้คนต่างคำนึงถึงคุณภาพของระบบไหลเวียนในบ้านตัวเองมากขึ้น

เบิร์ท บอกว่า ไม่ใช่แค่ระบบอากาศ แต่รวมไปถึงคุณภาพน้ำอีกด้วย เพราะตอนนี้ลูกค้ามองหาการวางระบบกรองน้ำในครัวเข้ามาอีก จากที่พวกเขาเริ่มทำอาหารทานที่บ้านมากขึ้น และไม่มีหนทางจะใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวหรือกินข้าวนอกบ้านเหมือนแต่ก่อน เลยหันมาทุ่มเงินกับการปรับปรุงห้องครัวอย่างจริงจังแทน จากที่งบประมาณสำหรับการปรับปรุงครัวเมื่อปีก่อนพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว ขยายพื้นที่ทำครัวเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเพิ่มความหรูหราให้กับครัวมากขึ้น อย่างเช่น เพิ่มจุดชงกาแฟระดับร้านกาแฟเข้าไป

รักบ้านแบบรักษ์โลก

ผู้คนที่ทำงานและเรียนหนังสือในบ้าน โดยพึ่งพาระบบ WiFi ที่มีอยู่ เริ่มกังวลว่าจะใช้พลังงานมากเกินไป พวกเขาเลือกที่จะทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟและหันมาซื้อหาอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานกว่า จากค่าไฟที่พุ่งสูงลิ่ว พร้อมทั้งยังสะท้อนความรักษ์โลกไปในตัวด้วย

ทุกสิ่งคือความสุข

ทุกวันนี้ หลายคนมีเวลาจัดการกับข้าวของที่ไม่ต้องการภายในบ้านมากขึ้น และเริ่มคิดอย่างรอบคอบถึงสิ่งที่จะซื้อมาใช้ในอนาคต

อัมฮัด ฟรีแมน ผู้ก่อตั้งบริษัทรับออกแบบภายในในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี บอกว่า คนเราเริ่มเลือกซื้อหรือเก็บสิ่งของที่ทำให้รู้สึกมีความสุขเอาไว้ในบ้าน แทนที่จะหุนหันรีบแต่งบ้านในทันที พวกเขาใช้เวลาในการเลือกซื้อของที่สวยงามและทำจากวัสดุที่ดีเยี่ยม และใช้เวลามากขึ้นกับการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบบ้านและเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เพราะพวกเขาอยากที่จะซึมซับความสุขจากทุกสิ่งรอบตัวพวกเขานั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook