แปลงโฉมคอนโดย่านสุขุมวิท เปลี่ยนบรรยากาศให้เหมือนบ้าน งบไม่บานปลาย

ไม่ค่อยได้เห็นห้องคลุมโทนสีสไตล์นี้สักเท่าไร ตอนแรกนึกว่าเป็นบ้านจริงๆ ถ้าคุณ Marut Poengkuna เจ้าของห้องไม่ได้โพสต์ว่ามันคือคอนโดมิเนียม แต่ตกแต่งให้มีอารมณ์เหมือนบ้าน เจ้าของห้องซื้อห้องนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เป็นคอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิท 24 มีพื้นที่ทั้งหมด 53 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง และมีห้องครัวติดกับห้องนั่งเล่น ความต้องการหลักคือการตกแต่งคอนโดมิเนียมให้มีบรรยากาศเหมือนตัวเองอยู่บ้าน จากนั้นจึงเริ่มพูดคุยกับนักออกแบบตกแต่งภายใน

สำหรับโจทย์หลักๆ ในการออกแบบตกแต่งคือใช้แสงธรรมชาติสะท้อนเข้ามาภายในห้องเพื่อเวลากลางวันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ นอกจากนั้นเป็นเรื่องการขยายพื้นที่เนื่องจากห้องนอนหลัก และห้องนอนรองขนาดพื้นที่จำกัด จึงต้องวางแผนทุบเพื่อขยายพื้นที่ และเรื่องถัดไปเจ้าของห้องกับแฟนต้องการตกแต่งคอนโดไม่ให้เหมือนห้องสี่เหลี่ยมแบบคอนโดทั่วไป อยากทำให้ห้องนี้มอบความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

เพื่อให้สอดคล้องกับโจทย์ต่างๆ ที่ตั้งไว้แต่แรก จากห้องเดิมจึงมีการทุบ แล้วเหลือห้องนั่งเล่นกับผนังเดิม ทุบห้องนอนรองแต่ทุบแค่ผนังด้านซ้าย กับด้านขวาจึงเหลือพื้นที่เหมือนเป็นเกาะตรงกลางแล้วทำเป็นห้องเปิด-ปิดได้อีกห้องหนึ่งเป็นห้องทำงานเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แต่ละคน ส่วนสิ่งที่เลี่ยงไม่นำมาตกแต่งห้องเพื่อไม่ทำให้ห้องคล้ายคอนโดทั่วไปคือกระจก ขอบสีเงิน ขอบสีทอง แต่เน้นไปที่การตกแต่งแบบง่ายๆ เพื่อจะได้แต่งเพิ่มในภายหลังหากต้องการ

โทนสีเทาเป็นโทนสีหลักซึ่งเป็นความชอบที่ลงตัวของเจ้าของห้องทั้งสอง และโชคดีที่นักออกแบบมีความเข้าใจและให้คำแนะนำกับทั้งคู่ คอนโดมิเนียมห้องนี้จึงมีเอกลักษณ์สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน

นอกจากเรื่องโทนสีห้อง การเน้นบรรยากาศความเป็น “บ้าน” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของห้องๆ นี้คือการออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน แต่ไม่หลงลืมที่แต่ละคนยังมีพื้นที่ส่วนตัว อย่างห้องทำงานที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ดังนั้นจึงทำให้เจ้าของห้องทั้งสองสามารถเชื่อมโยงกันได้ตลอด หรือหากอีกคนทำงานต้องการความเป็นส่วนตัว ยังสามารถแบ่งห้องด้วยการปิดในส่วนที่กั้นไว้

ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างเป็นพื้นที่ที่เจ้าของให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษทั้งการตกแต่ง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ก็เลือกแบบนั่งสบายมากกว่าเน้นดีไซน์ ออกแบบพื้นที่ดูทีวี ใส่ใจการตกแต่งบริเวณหน้าทีวี จัดวางลำโพงให้ลงตัว ทั้งนี้เพื่อเน้นการพักผ่อนอย่างแท้จริง

ความลงตัวทั้งหมดทั้งมวลนี้ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน เนื่องจากใช้เวลาเข้าไปปรับปรุงห้องล่วงหน้าก่อนส่งมอบเพื่อตกแต่งเพราะพบปัญหาปลวก อีกทั้งเนื่องจากอิฐมวลเบาของคอนโดใช้คุณภาพดีจึงทุบออกยากและใช้เวลา ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 1 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากการพยายามมิกซ์แอนด์แมชของนักออกแบบ เช่นในห้องครัวมีการเลือกวอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างไปในโทนเดียวกันจึงช่วยประหยัดงบ เน้นใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว อย่างห้องน้ำไม่ได้ตกแต่งเพิ่ม เสริมแค่โคมไฟเพียงอย่างเดียว

สำหรับใครที่อยู่คอนโดและอยากแต่งห้องให้เหมือนบ้าน มีคำแนะนำว่าต้องเริ่มจากการสำรวจอุปนิสัยของตัวเองก่อนว่าเวลาอยู่บ้านชอบทำอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข บางคนแต่งคอนโดโดยไม่ได้คิดถึงตัวเองก่อน แต่คิดคอนเซ็ปต์ก่อน ถ้ามุ่งไปที่คอนเซ็ปต์ก่อนเราจะหลงทาง อย่างบางคนชอบตู้หนังสือที่มีหนังสือเยอะ ๆ แต่เป็นคนไม่อ่านหนังสือเลย วันที่ตกแต่งตอนแรกมันจะสวยอยู่ แต่พออยู่ไปสักพักชั้นวางหนังสือนั้นจะกลายเป็นส่วนเกิน หรือบางคนไม่ชอบดูหนังในห้องนอน แต่ทำห้องนอนให้มีลำโพง ตกแต่งเป็นโฮมเธียเตอร์ มันก็ไม่ตอบโจทย์ อย่างไรก็ตามต้องดูด้วยว่าเราอยู่กับใคร ถ้าเราอยู่กับผู้สูงอายุ ต้องมีพื้นที่ของเขาด้วย ต้องเจอกันครึ่งทาง