วิธีปลูก "ฟ้าทะลายโจร" พืชที่มีสรรพคุณทางยา ปลูกติดบ้านไว้ได้ประโยชน์

วิธีปลูก "ฟ้าทะลายโจร" พืชที่มีสรรพคุณทางยา ปลูกติดบ้านไว้ได้ประโยชน์

วิธีปลูก "ฟ้าทะลายโจร" พืชที่มีสรรพคุณทางยา ปลูกติดบ้านไว้ได้ประโยชน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดูเหมือนช่วงนี้ชื่อของ "ฟ้าทะลายโจร" จะกลายเป็นพืชที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง เนื่องจากยาฟ้าทะลายโจรถูกนำมาเพื่อใช้ในการ่ช่วยบรรเทาอาการป่วยโควิด-19 ที่ไม่รุนแรง เพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ฟ้าทะลายโจรเริ่มมีความต้องการสูงขึ้น จนล่าสุดมีข่าวเกี่ยวกับความกังวลถึงการสูญพันธุ์ หากใครมีฟ้าทะลายโจรติดบ้านอยู่แล้ว และต้องการปลูกเพิ่มเรามีคำแนะนำ รวมถึงใครคิดอยากปลูกก็ลองดู

สำหรับฟ้าทะลายโจรนั้นเป็นพืชล้มลุกซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และศรีลังกา ในตำรายาโบราณของไทย จัดเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่สามารถหามารับประทานแก้โรคได้เอง ลำต้นสูงประมาณ 30-70 ซม. ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม
แตกกิ่งมาก ใบรียาว ปลายใบแหลม ดอกสีขาวขนาดเล็ก มีรอยกระสีม่วงแดง ลักษณะเป็นหลอด ฝักคล้ายฝักต้อยติ่ง เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ใบมีสารประกอบแลกโตน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาแก้ไข้ โรคทางเดินหายใจ แก้เจ็บคอ

วิธีปลูกฟ้าทะลายโจร

การปลูกฟ้าทะลายโจรทำได้ 3 วิธีคือ

1.วิธีหว่าน นำเมล็ดมาผสมทรายหยาบอัตรา 1:1-2
2. วิธีโรยเมล็ดเป็นแถว โดยขุดร่องตื้นๆ เป็นแถวยาว ระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 40 ซม. โรยเมล็ดกลบดินบางๆ
3. เพาะกล้า ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 ซม. ลึกประมาณ 8-12 ชม. เป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 ซม.และระหว่างแถว 40 ซม.

การเตรียมการก่อนปลูก

1.1 การเตรียมดิน

1) ขุดหรือไถพรวนเพื่อให้ดินร่วนซุย
2) หากวัชพืชมีไม่มากให้ทำการไถพรวนครั้งเดียว ถ้ามีมากให้ไถพรวน 2 ครั้ง คือ ไถดะ เปิดหน้าดินและตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจึงไถแปรปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก

1.2 การเตรียมพันธุ์

1) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใช้เมล็ดจากฝักแก่จัดเมล็ดต้องมีสีน้ำตาลแดงลักษณะสมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลง
2) เนื่องจากเมล็ดมีเปลือกแข็ง ก่อนปลูกแช่เมล็ดในน้ำที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 6-12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซึมผ่านเมล็ดและเมล็ดสามารถงอกได้ 

การดูแลรักษา

3.1 การคลุมแปลง : โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกเป็นที่โล่งแจ้งลมพัดแรงจัด แดดจัด ฝนตกชุก ควรคลุมแปลงด้วยฟางหรือใบหญ้าคาบางๆ เพื่อลดการชะล้างของน้ า ความชื้นทาให้เมล็ดงอกได้เร็วขึ้น
3.2 การปลูกซ่อม : หลังจากปลูกแล้วประมาณ 7-15 วัน ถ้าพบว่าต้นกล้าที่ปลูกตายหรือไม่งอก ควรปลูกซ่อมทันที
3.3  การถอนแยก : หลักจากปลูกแล้วประมาณ 30-45 วัน ถ้าพบว่าต้นกล้าที่ขึ้นแน่นมากเกินไป ให้ทาการถอนแยกไปปลูกในแปลงอื่น

3.4 การใส่ปุ๋ย :

1) แบ่งใส่เป็นระยะ ดังนี้  

- อายุ 60 วันให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 125 กรัมต่อต้น หรือ 300-400 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร   
- อายุ 90-110 วันให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 300-500 กรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร 

2) วิธีการใส่ปุ๋ย

-แบบหว่าน ต้องหว่านให้กระจายสม่ำเสมอ หลังหว่านแล้วต้องรดน้ำทันที อย่าให้ปุ๋ยค้างที่ใบ
-แบบโรยหรือหว่านเป็นแถว ตามแนวขนานระหว่างแถวปลูกห่างจากแถวปลูกประมาณ 10-15 เซนติเมตรโดยขุดเป็นร่อง ใส่ปุ๋ยพรวนดินกลบ เหมาะกับการปลูกแบบโรยเป็นแถว
-แบบหยอดโคน ใส่ปุ๋ยห่างจากโคนต้นประมาณ 10 เซนติเมตร โดยขุดหลุมฝังกลบดินหรือโรยรอบๆโคนต้นแล้วพรวนดินกลบก็ได้ เหมาะกับการปลูกแบบมีระยะปลูก

3.3 การให้น้ำ :ระยะ 30-60 วันแรกหลังจากปลูก ถ้าแดดจัด ควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นถ้าแดดไม่จัดควรให้น้ำวันละครั้ง หลังจากอายุ 60 วันไปแล้วอาจให้น้ำวันเว้นวันก็ได้ หรือให้ตามความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่และสภาพอากาศ

4.โรคและศัตรูพืชที่สำคัญ

1)  วัชพืช : ควรกำจัดโดยการถอนโดยเฉพาะในระยะแรกปลูกถึง 2 เดือน กำจัดวัชพืชทุกครึ่งเดือนจนกระทั่งฟ้าทะลายโจรเจริญคลุมแปลง
2)  โรค: ไม่พบโรคที่ทำความเสียหายรุนแรง เพียงแต่ทำความเสียหายเล็กน้อย ได้แก่ โรคโคนเน่าและรากเน่าจากเชื้อราหากพบให้ถอนทำลายทันที โรคแอนเทรคโนสพบตรงกลางหรือปลายใบหากพบให้ตัดส่วนที่เป็น
โรคทิ้ง
3)  แมลง : ไม่พบแมลงชนิดใดที่ทำความเสียหายรุนแรง

5. การปฏิบัติก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว

-เก็บเกี่ยวในช่วงที่พืชออกดอกตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50% เป็นช่วงที่มีสารสำคัญสูง โดยพบมากที่ส่วนยอดและใบ วิธีการเก็บเกี่ยวให้ตัดทั้งต้นให้เหลือตอสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตรเพื่อให้เจริญให้ผลผลิตต่อไป ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง

-การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวนำไปคัดแยกสิ่งปนปลอม เช่นวัชพืชที่ปะปนมาและล้างให้สะอาดตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผึ่งให้แห้ง  ทำแห้งโดยตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาดหรือใช้ เครื่องอบแห้งแบบลมร้อน ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสใน 8 ชั่วโมงแรกและลดอุณหภูมิเหลือ 40-45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook