เปิด “อุดมการ์เด้น” ราชบุรี อาณาจักรไม้ใบ โชว์ความด่าง จากราคาหลักสิบถึงหลักล้าน

เปิดอาณาจักรไม้ใบที่โชว์ความด่างจากหลักสิบถึงหลักล้าน ที่ตอนนี้กลายมาเป็น ใบไม้ทองคำ ที่อุดมการ์เด้น อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี โชว์ ต้นฟิโลเดนดรอน โกเด้น ดราก้อน หรือมังกรทอง ที่พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเองเป็นที่รู้ในตลอดต่างประเทศกว่า 20 ปี ราคา 1-2 แสนบาทต่อใบ ต้นหนึ่งกว่าล้านบาท เป็นไม้ประดับที่ไม่ควรมองข้าม หลังมีโลกโซเชียลหันมาปลูกและประกาศขายกันอย่างฮือฮาในโลกออนไลน์จนน่าตกใจ บางต้นสูงถึง 1.4 ล้าน ขณะที่กล้วยด่างมียอดขายสูงถึง 4 แสนบาท

นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ตั้งแต่ระลอก 1 จนถึงระลอก 3 กระแสการปลูกต้นมอนสเตอร่า ด่างมิ้นต์ที่ยกให้เป็นราชินีแห่งไม้ใบ ที่มีการซื้อกันในราคาสูงถึง 1 ล้าน 4 แสนบาท กลายเป็นว่าไม้ประดับ โดยเฉพาะกลุ่ม “ไม้ใบ” หลายชนิดถูกพูดถึงในวงกว้าง และได้รับความนิยมมีคนหาซื้อมาปลูก อย่างดารา ที่ใช้ช่วงเวลาโควิด-19 ต้องอยู่กับบ้านจนกลายเป็นงานอดิเรกยอดนิยมช่วงกักตัว ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีการนำไม้ประดับในกลุ่มนี้ ล่าสุดมีการออกมาซื้อขายกล้วยด่างที่ออกมาประกาศขายทั้งในรูปแบบการเปิดประมูล และการเสนอราคาที่ยังแรงไม่หยุด บางต้นได้ 50,000 – 75,000 บาท และยังสามารถทำราคาได้ถึง 400,000 บาท จนกลายเป็นหนึ่งใน New Normal ของการทำเกษตรที่เดินหน้าสร้างรายได้อย่างน่าทึ่ง และไม่ควรมองข้าม ในท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้

วันนี้เราจะพาไปที่สวนอุดมการ์เด้น สวนไม้ประดับชื่อดังและศูนย์เรียนรู้การปลูกไม้ประดับแบบมืออาชีพที่ ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ของ "คุณอุดม ฐิตวัฒนะสกุล" ที่ค้นพบโอกาสจากวิกฤติ เปลี่ยนสวนที่เคยจำหน่ายไม้ตัดใบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มาสู่การทำไม้กระถางเต็มรูปแบบ พบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าการขายไม้ตัดใบจากในอดีต ต้นไม้หลายชนิดมูลค่าเพิ่มยิ่งกว่าทองคำเสียอีก โดยมียอดสั่งซื้อกันแบบยาวๆ ซึ่งที่นี่จะมีลูกค้าในกลุ่มตลาดของต่างประเทศ ที่มีออร์เดอร์จองกันแบบข้ามปี และที่สำคัญ ยังไม่เปิดตลาดในเมืองไทยเนื่องจากมีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้การปลูกไม้ประดับในกลุ่มไม้ใบในช่วงนี้จึงน่าสนใจและเป็นอีกหนึ่งอาชีพเกษตรที่ไม่ควรมองข้าม

อุดมการ์เด้นได้ปลูกไม้ประดับพันธุ์ดีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น มอนสเตร่า เซลุ่มมะละกอ หน้าวัวใบ บอนสี ฟิโลใบไขว้ มรกตแดง เล็บครุฑ และไม้ใบอื่นๆ อีก หลายชนิด โดยจำหน่ายทั้งไม้ประดับต้นและตัดใบ ซึ่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเชีย เยอรมัน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ สหรัฐ อาหรับอิมิเรต เกาหลีใต้ อังกฤษ ญี่ปุ่น อเมริกา โดยมีศูนย์วิจัยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพันธุ์พืชของตนเอง ซึ่งทำหน้าที่ในการพัฒนาสายพันธุ์ พรรณพืชในกลุ่มไม้ใบ อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ของพืชในกลุ่มไม้ใบ

นอกจากนี้ในกระบวนการปลูกพืชของสวนอุดมการ์เด้นได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ประกอบกับ การปลูกภายใต้หลักเกษตรอินทรีย์ทำให้ได้ผลผลิตที่มีอายุการใช้งานนานกว่าไม้ตัดใบทั่วไปกว่า 40% นอกจากนี้ยังยึดมั่นการดำเนินงานตามรอยพระราชดำริในแนวคิดหลักเศรษฐกิจพอ เพียง ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มของเหลือทึ้งที่ไร้ค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น โฟม สแลนคลุมหลังคา ใบสนที่ร่วงหล่น กาบมะพร้าวที่เหลือใช้จากการทำกระบะปลูกกล้วยไม้ อิฐแตกหัก เป็นต้น ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ในพื้นที่มาทำการเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาเป็นวัสดุปลูก นอกจากนี้ยังมีระบบการบริหารจัดการภายในสวนเป็นอย่างดีและมีมาตรฐาน โดยในพื้นที่เพาะปลูก กว่า 100 ไร่ ระบบการจัดการน้ำที่ดีในระบบบริหารน้ำแบบหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์ โดยส่วนใหญ่ใช้น้ำหมุนเวียนอยู่ภายในสวน ไม่ปล่อยน้ำเสียจากภายในสวนออกสู่ภายนอก 

คุณอุดม เจ้าของสวนไม้ใบอุดมการ์เด้นเล่าให้ฟังว่า "เกิดมาจากช่วงฟองสบู่ปี 40 และพัฒนาไม้ประดับเพื่อการตัดใบมาต่อเนื่องยาวนานจนช่วงเวลาโควิดปีเศษ เราปรับตัวตามตลาดที่เราต้องการ คือ ใบไม่ได้ใช้ไม่ได้ตัด ไม่ได้ขายเลย ทั้งงานบวช งานแต่ง และงานศพ หรืองานอวมงคลต่างๆ เราจึงหันมาเริ่มจับกระถางเริ่มจากที่ลูกค้าเริ่มถามหา หรือ ถามว่าต้นนี้อยู่ในกระถางไหม พร้อมขายไหม ตอนแรกเราก็ไม่พร้อมเท่าไหร่ กระแสก็ยังไม่ค่อยแรงมาก ท้ายที่สุดทุกคนเริ้มรู้จักไม้กระถาง ไม้แปลก ไม้สะสม ไม้หายาก โดยเฉพาะช่วงหนึ่งที่คนรู้จักไม้ฟอกอากาศมีความต้องการสูงมาก เพราะว่าการที่คนทำงานอยู่ที่บ้าน Work from home ทำให้คนปลูก หา และซื้อมาประดับกัน จนในที่สุดเราได้รู้แล้วว่าไม้ที่แปลกไม้หายากที่กลายพันธุ์ในประเทศไทยเอง หรือ ต่างประเทศเองก็ตาม มีการใช้อยู่ทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หันมาซื้อเก็บไปสะสม จนวันนี้ไม้ขาดตลาดจึงเป็นที่มาของไม้ราคาสูงที่เห็นกันในปัจจุบัน"

กวักมรกตดำ ดำด่างกวักมรกตดำ ดำด่าง

คุณอุดม เล่าต่อว่า "สำหรับไม้ที่มีราคาสูงจะแยกเป็นหลายกลุ่ม ไม้กลุ่มที่หากันคือกลุ่มไม้ Philodendron โดยราคาไม้เขียวอย่างหนึ่ง ราคาไม้ด่างอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ไม้ด่างจะแพงเสมอไป ไม้เขียวก็ราคาสูงเช่นกัน อย่าง Philodendron spiritus ตอนนี้อันดับ 1 ของโลกเลย มีการหา และ หายากด้วย มีการหาซื้อกันราคาสูงด้วย ราคาอยู่ที่หลักแสนจนถึงหลักล้าน อันดับ 2 philodendron patisserie ต่อใบอยู่ที่ 40,000 – 60,000 บาท อันดับ 3 จะเป็น philodendron ลองจิโลพาตั้ม"

ส่วนพวกมอนสเตอร่าไม้เขียวที่คนจะรู้จัก ที่แพงเลยคือ Monstera obliqua (โอบิกัว) ถูกค้นพบในป่าเปลู เมื่อไม่กี่ปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีการสำรวจเพิ่มเติมก็ยังหาไม่พบอีกแล้ว นักพฤกษศาสตร์ที่ค้นพบได้นำมาเพาะขยายพันธุ์ และมีการแบ่งขายไปครั้งแรกในราคาแสนสองบาท ทำให้เป็นที่สนใจของนักสะสมไม้เป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็น มอนสเตอร่าด่าง จะแยกเป็นมอนสเตอร่าที่โตช้า กึ่งไม่เลื้อย ที่รู้จักกันคือ มอนสเตอร่า ใจแอนท์ แต่ถ้าด่างก็จะเป็น มอนสเตอร่า ไทคอน และด่างอีกชนิดคือ ด่างมิ้น ไม่ว่าจะเป็นด่างมิ้นออกเขียวขาว เขียวเหลือง เขียวเหลืองน้ำตาล เขียวเหลืองอ่อน และสีเหลือบๆ กัน

เสน่ห์จันทร์เสน่ห์จันทร์

ส่วนไม้ที่มีราคาสูงอื่นๆ อีกหลายชนิด ในกลุ่มของพวกเสน่ห์จันทร์ ในกลุ่มของสกุลฮอโลมีน่า ราคาต่อต้นวันนี้ต้องบอกว่า แตะหลักหมื่นหลักแสนกันไปแล้วแล้วก็ไม้อีกหลายๆชนิด วันนี้ ราคาไม่ได้ถูกเลย มีการหาใช้หาเก็บ ทำให้ทั่วโลกการผลิตไม่เพียงพอต่อตลาดทำให้ราคาไม้จึงสูงมาก

คุณอุดม ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องที่มีการขายไม้กันในราคาหลักล้านว่า "ในส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป เพราะว่าเราขายไม้เราผลิตไม้ เราจะรู้ว่าลูกค้าของเราซื้อเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เผอิญที่มีการซื้อขายแล้วเป็นข่าว เป็นเรื่องแปลกใหม่ของสังคมในขณะที่ว่าคนทั่วไปไม่มีงาน ไม่มีอาชีพ วันนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยว โรงแรม ยอมรับว่าเหนื่อยกัน แต่มีอาชีพการปลูกเลี้ยงไม้ประดับที่แปลกหายาก เป็นกลุ่มของไม้หายากและสะสม วันนี้ที่มีราคาสูงได้เพราะทั่วโลกตอนนี้หากัน มีการเก็บส่งออกต่างประเทศ ตนจึงมองว่าราคาที่ขายกันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคนทั่วไปจะตกใจได้"

นายอุดม กล่าวต่อว่า" ทางอุดมการ์เด้นโชคดีที่เราสามารถเพาะพันธุ์ไม้ของเราเองได้ และสร้างชื่อในทั่วโลกมาแล้วตลอด 20 ปี คือ ฟิโลเดนดรอน โกเด้น ดราก้อน  Philodendron golden dragon หรือเรียกว่า มังกรทอง เป็นพันธุ์ไม้ที่ก่อกำเนิดจากราชบุรี เมืองโอ่งมังกร ซึ่งเป็นไม้ด่างหนึ่งในสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น โดยเราขายในต่างประเทศ และเป็นที่รู้จักกันดี ใบมีลักษณะด่าง 2 สี ใบซีกหนึ่งสีเหลือง และ อีกซีกจะเป็นสีเขียว มีความสวย โดยเฉพาะหน้าเรียวเหมือนมังกร ตอนนี้ ต้นเล็กราคาเริ่มที่ 1 – 2 แสนบาท ส่วนต้นใหญ่ ราคา 1 ล้านบาท"

นายอุดม แนะว่า "สำหรับคนที่จะหันมาเลี้ยงไม้ใบด่าง เราต้องศึกษาและเรียนรู้อยู่กับมัน และต้องดูแล โดยเฉพาะหน้าใหม่ที่เห็นกระแสคนขายได้ราคาสูง หันมาซื้อและนำมาขยายพันธุ์เอง หากเราไม่มีความรู้เรื่องของไม้ด่างชนิดต่างๆเลย จะทำให้เสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงินได้ และอาจจะถูกมิจฉาชีพนำมาหลอกขายในราคาแพงได้ ซึ่งตนมองว่ากระแสความนิยมไม้ด่างจะยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และราคาจะอยู่เช่นนี้ไปอีก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หันมาเล่นไม้ด่างจะปั่นราคาทำให้สูงขึ้น ส่วนใครต้องการศึกษาหาความรู้ หรือต้องการมาเยี่ยมชม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เฟซบุ๊ก “Udom Titwattanasakul” หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 086-789-5888"