“เคน ภูภูมิ” กับหน้าที่ผู้เลือก “ต้นไม้” เพื่อให้ “ต้นไม้” พบกับเจ้าของตัวจริง

วันนี้ “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” ไม่ได้มีเพียงบทบาทพระเอก แต่เขายังหันไปจับธุรกิจ We Plant ซึ่งถ้าจะเรียกกันง่ายๆ ก็คือร้านขายต้นไม้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าวันนี้ยังเดินเตาะแตะมาได้เพียง 10 % จากเป้าหมายการเป็นธุรกิจด้านการเกษตรครบวงจรอย่างที่ตัวเองและแฟนสาว (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) มุ่งหวัง

แต่จากข่าวไลฟ์สดขายต้นไม้ผ่านเพจ We Plant จนได้ตัวเลขสูงถึง 815,100 บาท พร้อมกับเงิบสมทบ 184,900 รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาทเพื่อบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลปัตตานี ก็ทำให้เราได้เห็นแล้วว่าจากความคิดซื้อต้นไม้มาแต่งบ้านในช่วงโควิดระบาดระลอกแรก ไม่ได้เป็นแค่ความชื่นชอบเพียงระยะเวลาสั้นๆ นั่นเป็นเพราะแท้จริงแล้วเวลาเคนคิดจะทำอะไรแล้วจะทุ่มเท มุ่งมั่น ทำจริง

• "เคน ภูภูมิ" ไลฟ์สดขายต้นไม้ ยอดทะลุ 8 แสน เพิ่มเงินสมทบ รวม 1 ล้าน บริจาคให้ รพ.ปัตตานี

“อย่างต้นไม้ที่ผมเลือกมาไลฟ์สดเป็นต้นไม้เกรด A ของร้าน ผมตั้งใจเลือกต้นไม้ที่ดีที่สุด ไม่ใช่เป็นต้นไม้เหลือๆ เพราะผมคิดถึงผู้ที่จะได้เป็นเจ้าของต้นไม้ว่าเขาจะได้ดูแลต้นไม้ที่ดีที่สุด และต้นไม้ที่ดีที่สุดจะยิ่งทำให้สนุกในการร่วมกันสนับสนุนเงินช่วยเหลือ สำหรับครั้งถัดไปก็ต้องรอดูว่าต้นไม้จะโตทันการประมูลหรือเปล่า”

สำหรับคนในวงการบันเทิงต่างมีวิธีที่หลากหลายในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และเคน ภูภูมิก็เลือกแนวทางนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วบางคนอาจไม่ทราบว่าจุดเริ่มต้นของการหันมาเอาจริงเอาจังเรื่องต้นไม้ของเขานั้นเกิดจากความคิดอยากแต่งบ้านช่วงพักเบรกงานในวงการบันเทิงตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิดระลอกแรก

“ผมเริ่มจากความคิดอยากแต่งบ้าน บวกกับตัวเองชอบต้นไม้อยู่แล้ว จึงไปดูอินสตาแกรมของต่างประเทศ แล้วเห็นการแต่งบ้านด้วยต้นไม้ก็ชอบจึงเริ่มต้นจากตอนนั้น พอเริ่มซื้อ จากต้นสองต้นก็กลายเป็นหลายต้น”

ต้นไม้ที่เขาซื้อจะเป็นพวกไม้ใบต่างๆ ทั้งมอนสเตอรา ฟิโลเดนดรอน อะโลคาเซีย ฯลฯ ซึ่งเป็นไม้ใบที่ทั่วโลกฮิตกันมาก่อนที่บ้านเราจะเริ่มหันมานิยมเพียงไม่กี่ปีมานี้

หลังจากเข้ามาคลุกคลีอยู่ในแวดวงต้นไม้นอกจากทำให้เกิดธุรกิจร้านต้นไม้ We Plant แล้ว โดยส่วนตัวเขายังรู้สึกว่าการได้อยู่กับต้นไม้มีความแตกต่างจากงานอื่นๆ ที่เขาเคยทำ เพราะเขารู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่ทำคนเดียวได้ ไม่ต้องรีบ ในทุกๆ วันเขาจะได้เห็นการเติบโตของต้นไม้ ไม่ต้องคุยกับคนมากมาย ไม่ต้องยุ่งกับใคร ซึ่งนี่คือสิ่งที่เคนยืนยันหนักแน่นว่า ที่เขาทำทุกอย่างมันคือสิ่งที่เขารัก

“ผมรู้สึกว่าต้นไม้มันทำให้เราได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ มีทั้งต้นไม้ที่มาจากป่าอะเมซอน ยุโรป ฝั่งอินโด มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเราได้ไปเที่ยว ในแบบที่เราไม่ต้องเดินทาง ดังนั้นการจะเลือกต้นไม้เข้ามาที่ร้านสักต้นมันเป็นความท้าทาย เราต้องลุ้น แต่ส่วนใหญ่ผมจะเลือกจากความชอบของตัวเอง เพราะต้นไม้ทุกต้นสวยหมด และผมก็ไม่ได้เลือกต้นไม้ที่กำลังฮิต เพราะต้นไม้ที่ผมชอบตอนนี้มันก็ฮิตหมด”

พอถามว่าเวลาหาต้นไม้จะต้องมีการพูดคุย เจรจาต่อรอง เพื่อให้ได้ต้นไม้อย่างที่ตัวเองต้องการ เพราะใครๆ ก็คงอยากได้ต้นไม้ต้นนั้นเหมือนเรา เคนบอกแค่ว่า “ต้นไม้มันเลือกเจ้าของ” พูดแบบนี้จึงทำให้คิดถึงบทบาทใหม่ที่เขาทำอยู่ในปัจจุบัน แม้เจ้าตัวจะบอกว่าเป็นงานอดิเรกกึ่งอาชีพ เพราะยังไม่ทิ้งงานในวงการบันเทิง แต่การที่เขาตั้งใจสรรหาต้นไม้สักต้น แม้จะเลือกจากความชอบของตัวเองเป็นหลัก แต่อีกมุมหนึ่งนั่นก็คือ ความตั้งใจส่งต่อสิ่งมีชีวิตไปยังเจ้าของตัวจริงผู้ที่เหมาะสมจะดูแลไม้ต้นนั้นต่อไป