บ้านรกแล้วจัดหน่อยเถอะ ลอง “เทคนิคคนมาริ” วิธีแบบญี่ปุ่น
การ Work from Home ทำให้เราได้ใช้ชีวิตติดอยู่กับบ้านมากขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และด้วยความที่เราชินการอยู่ของเราแบบนี้ บางทีมันก็อาจจะรกเกินไปจนเราไม่ทันได้รู้ตัว พอถึงเวลาทำความสะอาด เราก็ค่อย ๆ ปัดกวาดเช็ดถูไป หยิบนั่นนิดจัดนี่หน่อย แต่ไม่ได้ลงมือจัดการอย่างเป็นงานเป็นการ ฉะนั้น ก็คงไม่แปลกที่เราจะว่าทำความสะอาดบ้านทีไรก็ไม่เห็นเคยเรียบร้อยสักที ยังรกอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่สะอาดขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นเอง
เพราะนั่นเรียกว่าการทำความสะอาด แต่ไม่ใช่การจัด ถ้าการจัดบ้านใหม่จะถือเป็นงานช้างเลยทีเดียว เพราะมันคือการรื้อข้าวของที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยออกมาจัดใหม่ และทิ้งของที่ไม่ใช้ไป พอทำเสร็จคือเหมือนเราได้บ้านใหม่ ไม่ใช่แค่ได้บ้านที่พื้นสะอาดเพียงอย่างเดียว ใครที่รู้สึกว่าบ้านรกแล้ว อยากจะจัดบ้าน มาลองเทคนิคการจัดบ้านแบบคนมาริ ซึ่งเป็นวิธีแบบญี่ปุ่นดูกันหน่อยดีกว่า
สำหรับ คนโดะ มาริเอะ (Marie Kondo) เป็นนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น เธอมีชื่อเสียงมาจากการเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบ” ซึ่งเธอหลงใหลในการจัดระเบียบสิ่งต่าง ๆ มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว ปัจจุบัน เธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท KonMari Media และเว็บไซต์ KonMari.com เคยเป็นผู้ให้คำปรึกษาในรายการโทรทัศน์ Tidying Up With Marie Kondo รวมถึงนิตยสาร Time ยังยกให้เธอเป็น 1 ใน 100 คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกในปี 2015 อีกด้วย
หากใครเคยลงมือจัดบ้านด้วยตนเอง จะรู้ว่าแค่การจัดบ้านนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เทคนิคในการจัดบ้านแบบคนมารินั้นก็ค่อนข้างจะมีรายละเอียดยิบย่อยมากพอสมควร ยิ่งบ้านใครรกมาก ๆ จนเริ่มต้นไม่ถูกอาจมีงงได้ Tonkit360 จึงขอสรุปหลักในการจัดเบื้องต้นที่ทุกคนน่าจะพอทำตาม และนำไปเริ่มต้นจัดบ้านได้ง่าย ๆ แค่ 5 เทคนิคเท่านั้น
1. ทิ้งก่อนจัดเก็บ
ก่อนเริ่มลงมือจัดบ้าน ให้แยกข้าวของเครื่องใช้ที่เรานิยามมันว่า “ขยะ” ออกมา แล้วกำจัดทิ้งซะ ของอะไรที่ไม่มีประโยชน์หรือไม่ได้ใช้แล้วก็จะเก็บไว้ให้รกทำไม จะได้เหลือเฉพาะของที่จำเป็นและของที่ควรค่าแก่การใช้งานเท่านั้น ที่สำคัญคือไม่ต้องพยายามเหตุผลว่ามันอาจจะได้ใช้ในอนาคต ถ้าจะได้ใช้คงได้ใช้ไปแล้ว แค่กล้าที่จะทิ้ง ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน อย่าลืมว่าของพวกนี้เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้การจัดบ้านไม่มีประโยชน์ จัดเท่าไรก็ไม่สะอาดหรือสวยขึ้นเลย ดังนั้น แยกมันทิ้งไปให้พ้นตาก่อน จะช่วยให้การจัดระเบียบสิ่งที่เหลืออยู่ง่ายขึ้น เหลือเฉพาะของที่คุณต้องการจริง ๆ
2. จัดระเบียบตามหมวดหมู่ไม่ใช่ตามพื้นที่
ให้แยกเก็บของตามประเภทของสิ่งของ อะไรที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันก็เก็บมันไว้ด้วยกัน จะช่วยให้เราหาของใช้ได้ง่าย หยิบใช้สะดวก และเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม นอกจากนี้ เหตุผลเบื้องหลังอีกประการของการจัดระเบียบข้าวของตามหมวดหมู่ ก็เพราะว่าอาจมีสิ่งของที่คล้ายกันในพื้นที่อื่นของบ้านด้วย หากคุณเริ่มต้นการจัดบ้านตามพื้นที่ อาจจะจบลงด้วยการทำงานแบบเดิมหลายครั้งในพื้นที่ต่าง ๆ นั่นเอง แทนที่จะจัดระเบียบในแต่ละพื้นที่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ให้นำของประเภทเดียวกันมารวมกันเพื่อจัดมันเข้าที่เข้าทางไปพร้อมกัน
3. มีลำดับในการจัดเก็บ
อันที่จริง วิธีการจัดบ้านอาจไม่มีทฤษฎีหรือสูตรที่ตายตัว แต่สำหรับบางคนก็เริ่มต้นไม่ถูกจริง ๆ ว่าจะทำตรงไหนก่อนดี เพื่อให้การจัดบ้านง่ายขึ้น ควรมีลำดับที่แน่นอนในการจัดเก็บ ซึ่งตามวิธีคนมาริแนะนำให้เริ่มจากเก็บเสื้อผ้าก่อน (ซึ่งการเก็บเสื้อผ้าก็ยังมีลำดับในการจัด โดยเริ่มจากของที่ใช้บนสุดของร่างกายไปจนถึงของที่ใช้ล่างสุดของร่างกาย) เก็บเสื้อผ้าเสร็จค่อยไปเริ่มจัดพวกหนังสือ ของเบ็ดเตล็ด และอื่น ๆ ต่อ สาเหตุที่เราควรจะมีลำดับในการจัดข้าวของมากกว่าสุ่ม ๆ จัด เพราะการที่งานเสร็จไปที่ละหมวดหมู่ ช่วยให้พลังงานและความกระตือรือร้นของคุณเพิ่มขึ้น
4. คำนึงถึงความสะดวกสบายในการหาและหยิบใช้งาน
เหตุผลที่เราจัดบ้านคืออะไร ก็เพราะมันรกรุงรัง ยุ่งเหยิง จะใช้ทีหาก็ยาก หยิบนี่ใช้ก็ไปเกี่ยวเอานั่นหล่นมาด้วย ฉะนั้น หลักในการจัดบ้านจึงควรนึกถึงความสะดวกสบายในการหาและหยิบใช้ก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ควรวางของซ้อนกันหากไม่จำเป็น เพราะเวลาจะหาของใช้ทีก็ต้องคุ้ยหา และอาจเสียเวลามาเก็บอีกรอบ ทางที่ดีควรมีกล่องจัดระเบียบ ตู้ ลิ้นชัก หรือชั้นวาง แยกเก็บให้เป็นระเบียบ แต่ไม่จำเป็นต้องหาซื้อมาเพิ่ม เพราะยิ่งมีที่เก็บมากเท่าไร ก็มีแนวโน้มที่เราจะเก็บของที่ไม่มีประโยชน์ไว้ โดยคิดว่าสักวันอาจได้ใช้ก็ได้
5. โอบรับการเปลี่ยนแปลง
นี่เป็นข้อที่จะลืมไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะการที่คุณได้ชื่นชมหรือพอใจกับการจัดบ้านใหม่ มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตมันสะดวกสบายขึ้น และยิ่งคุณจัดมันไว้ดีหรือสวยงามมาก ๆ ก็มีโอกาสน้อยที่คุณจะทำให้มันรกเละเทะ ไม่น่ามองอีกครั้ง คุณจะพยายามรักษาสภาพความสวยงามนี้ไว้ จากเดิมที่คุณเคยขี้เกียจเก็บของ ใช้เสร็จแล้วโยนกองสุม ๆ ไว้ คุณจะยอมเสียเวลาเปิดตู้เพื่อเอามันไปวางเก็บดี ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยจัดบ้านครั้งใหญ่โตบ่อย ๆ หากข้าวของเป็นระเบียบอยู่แล้ว ก็จะไม่เกิด “งานพิเศษ” จะมีก็แต่งานบ้านปกติ อย่างปัดกวาดเช็ดถู เก็บนู่นนิดจัดนี่หน่อยเท่านั้น