วิธีช่วยตู้เย็นที่บ้านไม่ให้ทำงานหนักเกินไป
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานหนักที่สุดในบ้าน เนื่องจากส่วนใหญ่เราจะเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้ตลอดทั้งเวลา ดังนั้นนอกจากตู้เย็นจะกินเงินในกระเป๋าแล้ว ยังกระทบต่อการใช้พลังงานซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ถ้าคุณอยากทำให้ตู้เย็นช่วยประหยัดพลังงาน ให้ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ แล้วตู้เย็นของคุณจะทำงานได้อย่างดีขึ้น ไม่ทำงานหนัก
เลือกตู้เย็นเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน
ตู้เย็นนั้นมีวิวัฒนาการมายาวไกลในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานตู้เย็นเมื่อ 5-10 ปีที่แล้วอาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าตู้เย็นรุ่นใหม่ถึง 2 เท่า ถ้าใช้ตู้เย็นมานานแนะนำให้เปลี่ยนเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน
ให้ตู้เย็นมีที่เย็น และมีพื้นที่สำหรับหายใจ
ตำแหน่งของตู้เย็นอาจส่งผลต่อการทำงานหนักของตู้เย็น แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าตู้เย็นอยู่ห่างจากแหล่งความร้อน เช่นเตาอบ หม้อน้ำ และพยายามอย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง
นอกจากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่ว่างรอบๆ ด้านข้าง ด้านหลัง และด้านบนของตู้เย็นอย่างน้อย 5 ซม. เพื่อระบายอากาศ หากไม่มีช่องว่าง ตู้เย็นของคุณอาจจะไม่สามารถระบายความร้อนออกจากคอมเพรสเซอร์ได้
ปิดประตูไว้
สิ่งที่ทำให้ลมเย็นทั้งหมดออกเพราะปิดประตูตู้เย็นไม่สนิท นอกจากลมเย็นจะออกแล้วจะมีลมอุ่นเข้ามา ดังนั้นตู้เย็นจะทำงานหนักขึ้น ดังนั้นพยายามเปิดประตูตู้เย็นให้น้อยที่สุดเพื่อลดการทำงานหนักของตู้เย็น
จัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ
บางคนอาจบอกว่าการจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบนั้นอาจช่วยในเรื่องการทำความสะอาดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ยิ่งคุณใช้เวลาในการค้นหาอาหารน้อยเท่าไร ก็ช่วยไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนัก นอกจากนั้นหากคุณจัดระเบียบตู้เย็นจะทำให้อาหารอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
รักษาความเย็นให้ตู้เย็นด้วยการเก็บของประมาณ 2/3 ของตู้เย็น
การใส่ของไว้ในตู้เย็นให้มีอากาศถ่ายเทน้อยทำให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ตู้เย็นโล่งจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ใส่ของจนล้นตู้เย็น หรือถ้าตู้เย็นของคุณใหญ่จนเกินไปให้เติมน้ำในเหยือก 2 เหยือกแล้วนำไปแช่ตู้เย็น
จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม
ใช้ภาชนะที่ปลอดภัยต่อตู้เย็นเพื่อเก็บอาหารทั้งหมด ภาชนะแก้วดีกว่าพลาสติกเพราะแก้วดูดซับและเก็บความเย็นได้ดีกว่า ความชื้นในตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิภายในคงที่ได้ยากขึ้น ดังนั้นนำอาหารใส่ภาชนะแล้วปิดให้สนิทเพื่อเลี่ยงไม่ให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นทำงานมากเกินไป
อย่าเก็บอาหารร้อนในตู้เย็น
การใส่อาหารร้อนในตู้เย็นจะเพิ่มอุณหภูมิภายใน ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเครื่องจะต้องทำงานหนักเพื่อลดอุณหภูมินั้นลงอีก บางคนกังวลว่าการทิ้งอาหารไว้ข้างนอกจะทำให้อาหารเสีย แต่การปล่อยอาหารให้มีอุณหภูมิห้องก่อนจะใส่ตู้เย็นนั้นปลอดภัยกว่า