วิธีเตรียมผักให้หวานอร่อยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อด้วยไมโครเวฟ

ในญี่ปุ่นจะมีแยกจำหน่ายผักหลายเกรด เกรดที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตมักจะมีรสชาติหวานอร่อยและมีราคาแพง ส่วนผักที่ขายตามร้านที่มีราคาถูกบางครั้งหากเลือกซื้อผิดก็อาจจะเจอที่รสชาติไม่อร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเทศญี่ปุ่น หอมใหญ่ และข้าวโพด มารู้วิธีการทำให้ผักเหล่านี้มีรสชาติหวานอร่อยขึ้นโดยการใช้โมโครเวฟแบบคนญี่ปุ่นกันค่ะ

มันเทศญี่ปุ่น

การใช้วิธีต้มหรือให้ความร้อนอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันเทศสุกจะไปทำลายเอนไซม์บีต้า อะไมเลส (β-Amylase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ย่อยแป้งในมันเทศให้เป็นน้ำตาล ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อจะทำให้มันเทศสุกโดยการใช้ไมโครเวฟคือ การเลือกอุณหภูมิที่ต่ำเพื่อให้เวลาเอนไซม์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาล

วิธีการเตรียม

1. นำมันเทศขนาดประมาณ 300 กรัม มาล้างน้ำให้สะอาดและนำมาห่อด้วยกระดาษชำระสำหรับงานครัวโดยไม่ต้องเช็ดน้ำออก จากนั้นห่อซ้ำอีกครั้งด้วยพลาสติกแรป

2. นำมันเทศเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 1 นาที  30 วินาที เพื่อให้มันเทศมีอุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการทำงานของเอนไซม์บีต้า อะไมเลส ทั้งนี้หากมันเทศมีขนาดเล็กกว่า 200 กรัมก็ใช้เวลาเพียง 1 นาที

3. เปลี่ยนกำลังวัตต์ของไมโครเวฟไปที่ 200 วัตต์ เพื่อคงอุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส แล้วไมโครเวฟต่อเป็นเวลา 8-10 นาทีตามขนาดของมันเทศ เมื่อครบเวลา ให้ใช้ไม้จิ้มฟันเสียบลงไปในเนื้อมันเทศดู หากรู้สุกว่านิ่มแล้วก็นำมารับประทานได้ทันที แต่หากยังรู้สึกว่ามันเทศแข็งอยู่ก็เพิ่มเวลาไมโครเวฟอีกเล็กน้อย

หอมใหญ่

เมื่อให้ความร้อนแก่หอมใหญ่ สารประกอบอัลลิล ซัลไฟด์ (Allyl sulfide) ที่อยู่ในหอมใหญ่จะถูกทำลายและระเหยออกไปซึ่งช่วยขจัดรสเผ็ดออกจากหอมได้ดี อีกทั้งความร้อนจากไมโครเวฟจะทำให้ผนังเซลล์ของหอมใหญ่แตกออกและทำให้น้ำตาลในเซลล์ไหลออกมาจากเซลล์จึงทำให้หอมใหญ่มีรสชาติหวานมากกว่าการผัดโดยใช้กระทะถึง 2 เท่า

วิธีการเตรียม

เวลาที่ใช้ปรุงให้หอมใหญ่สุกนั้นขึ้นกับขนาดของหอมใหญ่ดังนี้คือ

• หอมใหญ่ทั้งหัว ปอกเปลือกออกแล้ว นำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 5-8 นาที เมื่อหอมสุกได้ที่ก็สามารถนำมารับประทานให้อร่อยกับเนย ซอสเปรี้ยวพอนสึ (Ponzu) หรือปลาโบนิโตะแห้ง เป็นต้น
• หอมใหญ่หั่นขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร นำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 3-5 นาที
• หอมใหญ่หั่นบางหรือหั่นละเอียด นำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที

ข้าวโพด

เมื่อให้ความร้อน เอนไซม์อะไมเลสในข้าวโพดดิบจะเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลและทำให้ข้าวโพดมีรสชาติหวานขึ้น อีกทั้งการใช้ไมโครเวฟจะคงคุณค่าสารอาหารในข้าวโพดได้ดีกว่าการต้มและทำให้ได้ข้าวโพดสุกที่ฉ่ำอร่อยขึ้น

วิธีการเตรียม

นำข้าวโพดขนาดประมาณ 210-250 กรัม เข้าไมโครเวฟที่ 500 วัตต์ เป็นเวลาประมาณ 5 นาที แล้วนำมารับประทานได้ตามชอบ

แทนการรู้สึกแย่กับรสชาติที่ไม่หวานอร่อยของผักที่ซื้อมา ก็ลองเปลี่ยนวิธีการปรุงผักเหล่านี้ด้วยไมโครเวฟดูค่ะ นอกจากรสชาติจะหวานอร่อยขึ้นแล้วก็ยังช่วยคงคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไว้ได้เยอะด้วย