ชมบ้านสาวไทยที่สวิตเซอร์แลนด์ มีสวนดอกไม้สดใสในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

ภาพบ้านที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของคุณ Teeragul Stuker สาวไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ถูกโพสต์ลงในเฟชบุ๊กส่วนตัว ด้วยความสวยงามของบ้าน สวนดอกไม้ และการตกแต่งบ้านทำให้
เราสนใจอยากชวนเธอคุยเกี่ยวกับบ้านที่สวิตเซอร์แลนด์

สำหรับคุณ Teeragul Stuker หรือคุณแดงอดีตคนขายเสื้อผ้า และของที่ระลึกในตลาดไนท์บาซาร์จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบรักกับสามีคนปัจจุบันที่ตอนนั้นเป็นนักท่องเที่ยว กระทั่งได้เริ่มคบหากัน และแต่งงานกันเมื่อประมาณ 27 ปีก่อน สามีของคุณแดงเป็นข้าราชการอำเภอที่สวิตเซอร์แลนด์ ส่วนคุณแดงทำงานเป็นพนักงานบริษัทมีลูกชายอายุ 23 ปีเป็นช่างทำผมที่เปิดร้านทำผมอยู่ชั้นล่างของบ้านหลังนี้

ก่อนจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ คุณแดงเคยพักอยู่ที่บ้านหลังใหญ่กับพ่อแม่ของคุณสามี กระทั่งเมื่อ 12 ปีก่อนจึงเริ่มสร้างบ้านใหม่อีก 1 หลังข้างๆ บ้านหลังเดิมที่อยู่กับพ่อแม่ แต่ก็เป็นบ้านที่อยู่ใกล้แบบสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้โดยบ้านหลังนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 440 ตรม. เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในเมือง Basel

เพราะถูกใจในความสวยงามของบ้าน สวนรอบตัวบ้าน และการตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เราจึงให้คุณแดงเล่าถึงการตกแต่งบ้าน และสวน ซึ่งคุณแดงบอกว่าที่สวิตเซอร์แลนด์มี 4 ฤดูคือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ในแต่ละฤดูกาล แต่ละเทศกาลจะมีประเพณีการตกแต่งบ้านแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่อาหาร ช่วงหน้าหนาวจะหนาวมาก บางปีตติดลบ10 ถึง 20 ซึ่งหน้าหนาวผู้คนมักใช้เวลาอยู่ในบ้าน เว้นเสียแต่จะไปทำงาน และมักไม่ค่อยมีกิจกรรมมากนัก จะมีเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่เท่านั้น นอกตัวบ้านจะประดับประดา ด้วยไฟกระพริบ ลูกแก้ว ช็อกโกแลต ลูกสนสวนในบ้านจะมีต้นสนคริสต์มาส เครื่องประดับต่างๆ เช่นซานตาครอส นางฟ้า รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในบ้านด้วย

สำหรับฤดูใบไม้ผลิ จะมีดอกไม้ ต้นไม้ที่กำลังเริ่มผลิใบ การตกแต่งบ้านก็จะเน้นดอกทิวลิป ดอกกระดิ่งอีสเตอร์ กิ่งไม้ที่มีใบไม้ที่กำลังเริ่มแตกยอดและดอกไม้ที่กำลังชูช่อเริ่มบาน เช่นต้นเชอรี่ ต้นพรุน ต้นท้อ ตามร้านค้า สำนักงานและบ้านเรือนจะประดับไข่ ไก่ และกระต่าย ทุกมุมของบ้านตามสไตล์ของแต่ละบ้านไป บางบ้านจะเปลี่ยนจาน ชาม แก้วน้ำ ข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ประจำวันเป็นรูปกระต่าย รูปไข่ เทศกาลนี้เด็กๆ จะชอบเพราะได้รับของขวัญและช็อคโกแลตกระต่าย คนจะมอบของขวัญให้กัน พี่น้องครอบครัวจะมาทานอาหารร่วมกัน

กระทั่งเข้าฤดูร้อน อากาศจะอบอุ่น มีแสงแดด พระอาทิตย์จะตกดินราวๆ 4 ทุ่ม ช่วงกลางวันจะยาวนาน สามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้นาน การตกแต่งบ้านจะเน้นสีสันสดใส ปลูกดอกไม้ที่มีสีสันตามระเบียงบ้าน ข้าวของเครื่องใช้จะเน้นเฉดสีสว่างตา หากเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ช่วงหน้าร้อนเวลาขับรถเที่ยวจะเห็นบ้านเรือนต่างๆ ที่สวย ส่วนมากทุกๆ บ้านจะมีดอกไม้ตามระเบียงบ้าน

ส่วนฤดูใบไม้ร่วงจะค่ำเร็ว 5 โมงเย็นจะเริ่มมืด อากาศเริ่มหนาว ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีแดง และเริ่มร่วงเป็นสีน้ำตาลในที่สุด บ้านเรือนจะตกแต่งด้วยสีออกโทนน้ำตาล แดง ส้ม และลูกเกาลัด ช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีสันแปลกตาตามพันธุ์ไม้

โดยรวมแล้วการตกแต่งสวนบางบ้านเลือกที่จะทำสวนเอง ให้ดอกไม้ต่างๆ ชูช่อขึ้นเองในฤดูใบไม้ผลิ และสิ้นสุดในฤดูร้อนโดยไม่ต้องดูแลอะไรมาก ส่วนใหญ่แล้วไม้กระถางจะมีระยะบานสั้นๆ เมื่อโรยแล้วก็ทิ้งไป หามาลงใหม่ โดยหาซื้อไม้กระถางได้ตามร้านตกแต่งสวน หรือร้านค้าทั่วไป ส่วนไม้ยืนต้นและไม้ใบถ้าไม่มีความรู้จะต้องปรึกษาบริษัททำสวน

ส่วนมากคนสวิสเมื่อเริ่มปลูกบ้านก็จะจ้างบริษัทมาทำสวนและปลูกดอกไม้ให้ในแรกเริ่ม ค้าจะมาลงต้นไม้ ดอกไม้ให้ ครั้งเดียวและจะไม่ต้องบำรุงรักษามากนัก พอถึงฤดูก็จะเบ่งบานออกดอกขึ้นมาเอง แต่ถ้าพอถึงฤดูอยากจะเพิ่มเติมอะไรก็สามารถใช้บริการได้แต่ราคาแพงมาก บางบ้านยอมเสียเงินครั้งแรก และครั้งต่อไปดูแลสวนเอง หาซื้อมาเพิ่มเติมเองสำหรับครอบครัวคุณแดงแรกเริ่มก็จ้างบริษัททั้งหมดมี ต้นไม้ ใบหญ้า ดอกไม้ หิน ทุกอย่าง ค่าจ้างรวมแล้วประมาณ  1 แสนสวิสฟรังค์ คิดเป็นเงินไทย 1 ฟรังค์ x 35 = ( 3,500,000 บาท) ส่วนค่าบำรุงรักษาแต่ละปี ถ้าไม่มีเวลาก็ต้องเสียเพิ่มเป็นรายปี ซึ่งบ้านเรานั้นขึ้นอยู่กับเวลาของแต่ละคน

หลายๆ คนฝันอยากไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับคุณแดงเองก็มองว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่สวย สะอาด ร่ำรวยอากาศดี สิ่งแวดล้อมดี สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาจากภาษีประชาชน ซึ่งภาษีโหดมาก ทุกสิ่งอย่างคือภาษี คนที่รายได้มากก็จะเสียภาษีมากกว่าคนรายได้น้อย ลดหลั่นกันไป ภาษีที่ต้องจ่ายทั่วไปของคนในบ้าน เช่นภาษีเงินได้ ภาษีบ้าน ภาษีเมือง ภาษีรถ ภาษีการใช้ถนน การจราจร แต่ถึงแม้จะมีภาษีโหดแต่ประชาชนจะได้คืนอย่างคุ้มค่า เพราะรัฐบาลจะไม่มีการคอร์รัปชั่น เงินทุกบาทจะเก็บไว้ใช้ในประเทศ เช่นเด็กที่นี่ไปโรงเรียนโดยไม่ต้องเสียค่าเทอมตั้งแต่อนุบาลจนถึงขั้นสูงสุด เป็นต้น

คุณแดงทิ้งท้ายอีกว่า "ที่ประเทศไทยถึงจะไม่มีอะไรเทียบเท่าได้ แต่ที่ไหนในโลกนี้ก็ไม่อบอุ่นและมีความสุขเท่าที่ประเทศไทยค่ะ คิดถึงเมืองไทยเสมอค่ะ"