ห้องครัวแบบปิด กั้นเป็นสัดส่วน กลิ่นไม่ฟุ้งรบกวนห้องอื่นๆ

ครั้งนี้เราจะพาไปดูตัวอย่างการตกแต่งห้องครัวจากบ้านหลังหนึ่ง นอกจากจะตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารีดูเรียบง่ายแล้ว ยังพิเศษตรงที่เลือกทำห้องครัวแบบปิด เพราะต้องการให้พื้นที่นี้ดูเป็นสัดเป็นส่วน เวลาทำอาหารกลิ่นไม่กระจายฟุ้งไปรบกวนห้องอื่นๆ ภายในบ้าน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่กำลังลังเลใจว่าจะออกแบบครัวลักษณะไหนดีระหว่างครัวปิดและครัวเปิด

บ้านนี้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 7 คน  คุณปู่-ดร.พิชิต เลิศตำหรับ คุณย่าเกียรติศรี เลิศตำหรับ และอีกหนึ่งครอบครัว ดร.เมธี รวมถึงภรรยาและลูกๆ อีก 3 คน

ก่อนหน้านี้เจ้าของบ้านเคยอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม ส่วนลูกๆ แต่งงานมีครอบครัวและแยกไปอยู่บ้านอีกหลัง แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมพวกเขาก็อยากกลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน นอกจากจะมีโอกาสได้ดูแลกันและกันแล้ว จุดประสงค์รองลงมาคือในเรื่องของการมีเนื้อที่ใช้สอยที่กว้างขวางและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นการสร้างบ้านหลังใหม่ของครอบครัวเลิศตำหรับไม่เพียงจะมีจุดเริ่มต้นจากความต้องการของสมาชิกทั้ง 7 คนเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงฟังก์ชันและการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด เพราะจะทำอย่างไรเพื่อให้ทุกคนยังคงมีพื้นที่ที่เป็นอิสระและมีสไตล์ในแบบที่ตัวเองชอบ เนื่องจากความแตกต่างในช่วงของอายุและสไตล์ที่ต่างกัน

สถาปนิกจึงให้คำแนะนำในการออกแบบบ้านหลังนี้ ด้วยการดีไซน์บ้านออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งสำหรับครอบครัวของดร.เมธี ส่วนอีกฝั่งหนึ่งสำหรับคุณปู่คุณย่า โดยภาพรวมของโครงสร้างภายนอกเป็นบ้านโมเดิร์นผสมคอนเทมโพรารี ซึ่งเป็นสไตล์ที่ทุกคนช่วยกันเลือก เพราะชอบความเรียบง่ายผสมผสานกับความอบอุ่นและมีบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายจึงกลายเป็นโจทย์หลัก

จะว่าไปแล้วตำแหน่งของห้องครัวของที่นี่ เสมือนพื้นที่ศูนย์กลางของครอบครัว นอกจากจะรองรับการใช้งานระหว่างคนสองคนแล้ว ยังสามารถใช้สังสรรค์ร่วมกันกับลูกๆ และหลานๆ รวมถึงญาติๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขนาดของห้องครัว หรือแม้แต่ฟังก์ชันต่างๆ ก็ถูกกำหนดและคิดมาแล้วเป็นอย่างดี

ห้องครัวออกแบบเป็นครัวปิด เพื่อแบ่งกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกับเนื้อที่อื่นๆ โดยรูปแบบของการจัดวางแปลนประกอบไปด้วย โต๊ะรับประทานอาหารทรงกลมขนาดใหญ่ รองรับได้ถึง 7-8 ที่นั่ง โดยฟอร์มของโต๊ะดีไซน์ให้ล้อไปกับเพดานที่เป็นฝ้าหลุม และมีแชนเดอเลียร์ทรงกลมห้อยอยู่ตรงกลาง

พื้นที่ถัดไปเป็นโต๊ะลอยตัววางตำแหน่งไว้ใกล้กับไอส์แลนด์ สามารถใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย เป็นทั้งพื้นที่เตรียมของ เตรียมวัตถุดิบ วางอาหารพร้อมเสิร์ฟไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร หรือแม้แต่เป็นมุมสำหรับรับประทานอาหารในมื้อที่เร่งรีบก็ได้เช่นกัน

ไอส์แลนด์เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันสำคัญที่มีประโยชน์และขาดไม่ได้ ไม่เพียงจะรองรับฟังก์ชันใช้งานที่หลากหลายแล้ว ใต้ไอส์แลนด์ยังออกแบบให้เป็นลิ้นชักเก็บของได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นถาดใส่ช้อน ส้อม หรืออุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหาร ตู้สำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ขนาดใหญ่ เป็นต้น

ส่วนการวางผังชุดครัวกำหนดเป็นรูปตัวแอล แล้วยังเพิ่มพื้นที่ตรงผนังอีกฝั่งหนึ่งสำหรับตู้เก็บไวน์และบิลต์อินเตาไมโครเวฟ รวมถึงตู้เก็บของแห้งทรงสูงไว้ใกล้กัน

ลำดับของฟังก์ชันในครัวเริ่มจากพื้นที่ส่วนปรุง ส่วนล้าง ตามลำดับ เอกลักษณ์ของชุดครัวนี้ไม่ได้อยู่ที่ดีไซน์ซึ่งดูทันสมัยเพียงอย่างเดียว แต่การจับคู่ระหว่างหน้าบานสีขาวและเวิร์คทอปหินควอตซ์สีดำ ยังสร้างความโดดเด่นให้ชุดครัวดูโฉบเฉี่ยว บวกกับฟังก์ชันเก็บของแบบ 2 ตอน มีความสูงจรดฝ้าก็เพิ่มการจัดเก็บได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าไม่เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งข้อดีของการออกแบบตู้เก็บของในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้ครัวดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เราไม่ต้องคอยกังวลเรื่องฝุ่นเกาะบนหลังตู้หรือต้องคอยทำความสะอาด

รูปแบบของตู้แขวนเหนือพื้นที่ส่วนปรุงมีทั้งหน้าบานทึบซึ่งเป็นไฮกลอสสีขาวสลับกับหน้าบานกระจกฝ้ากรอบอะลูมิเนียมสีเงิน เพื่อให้สามารถมองเห็นสีสันและรูปทรงของภาชนะด้านใน ทำให้ครัวดูน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยในส่วนของพื้นที่เข้ามุมออกแบบเป็นชั้นโปร่ง สำหรับเก็บของที่หยิบใช้งานบ่อยๆ

พื้นที่ถัดไปเป็นส่วนล้าง ออกแบบให้เป็นช่องหน้าต่างที่ช่วยระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ ทำให้ไม่อับชื้น สร้างบรรยากาศให้ห้องครัวรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายจากสระว่ายน้ำและสวนหย่อมด้านหลัง ใกล้ๆ กับตำแหน่งอ่างล้างจานเว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็น โดยด้านบนออกแบบให้เป็นตู้ 2 ตอนสำหรับเก็บของได้อีก

กว่าจะลงตัวจนกลายเป็นครัวสวยมีดีไซน์ทันสมัยเข้ากับสไตล์บ้านได้ขนาดนี้ พวกเขาค่อนข้างใช้เวลาในการตัดสินใจเพื่อเลือกแบรนด์ชุดครัวให้ตอบสนองกับความต้องการและตรงกับแบบที่ชอบ กระทั่งมาถูกใจครัวแบรนด์ Starmark เพราะทั้งวัสดุและคุณภาพนั้นสามารถรองรับการใช้งานได้ตั้งแต่การทำอาหารเบาอย่างอาหารฝรั่งและเบเกอรี ไปจนถึงการทำอาหารหนักๆ ตอบโจทย์การใช้งานครัวได้อย่างยาวนานเลยทีเดียว