เลี่ยงความวิตกกังวล และซึมเศร้าด้วย 6 เทคนิคแต่งบ้านต่อไปนี้

วิธีการตกแต่งบ้านของคุณสามารถกำหนดความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ถึงเวลาแล้วที่จะดูแลบ้านของคุณด้วยการปรับเปลี่ยนบางอย่างที่จะทำให้พื้นที่บ้านของคุณช่วยยกระดับจิตวิญญาณของคุณ

6 เทคนิคแต่งบ้านเลี่ยงความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า

เปิดรับแสงอาทิตย์

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Pittsburgh ค้นพบข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่สัมผัสแสงธรรมชาติจะมีความเครียด และความเจ็บปวดน้อยลง โดยเฉพาะหากพวกเขาได้ตากแดดในช่วงเช้า แสงจากธรรมชาติทำให้อารมณ์ของคนสดใสขึ้นโดยการเพิ่มการผลิตเซโรโทนิน และเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี แสงแดดธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกพื้นที่ของบ้านแต่ให้คำนึงถึงที่ที่คุณวางแผนที่จะได้รับแสงธรรมชาติเพียงพอ และที่ที่คุณควรปล่อยทิ้งไว้ ตามหลักแล้วห้องครัว และห้องนั่งเล่นเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการรับแสงแดด หรือจะเป็นห้องนอนด้วยก็ได้เช่นกัน แต่เนื่องจากห้องนอนเป็นสถานที่พักผ่อน คุณอาจไม่ต้องการให้แสงแดดยามเช้าปลุกคุณ แต่หากคุณมีหน้าต่างบานใหญ่ในห้องนอน อาจลองใช้ผ้าม่านหรือมู่ลี่ เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติที่ปล่อยให้เข้ามาในพื้นที่ของคุณก็ได้

เพิ่มความเขียวขจีภายในบ้าน

ต้นไม้ในร่มนั้นมีประโยชน์มาก เช่นเดียวกับนอกอาคาร แต่ที่โดดเด่นคือจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และทำให้ออกซิเจนภายในบ้านไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังลดความเครียด สร้างบรรยากาศแห่งความสุข นอกจากนี้การมีต้นไม้ไว้ในบ้านยังช่วยลดความวิตกกังวล ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มอารมณ์เชิงบวกได้เช่นกัน และจะด้วยเหตุผลใดก็ตามถ้าคุณไม่สามารถนำต้นไม้เข้ามาได้ คุณสามารถใช้เป็นภาพประดับผนังแทนก็ได้ ทั้งภาพต้นไม้สวนสาธารณะ แหล่งน้ำ หรือแม้แต่ยอดเขา

เลือกใช้สีให้เหมาะสม

สีทำให้เกิดอารมณ์ของผู้คน เฉดสีแดง สีเหลืองทำให้คนกระฉับกระเฉง และทำให้ผู้คนเริ่มลงมือทำ ในทางกลับกันสีน้ำตาลจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นกลางและมีเหตุผล โดยส่วนใหญ่บรรยากาศที่ผ่อนคลายในห้องจะถูกกำหนดโดยสีที่คุณเลือก เช่นสีน้ำเงิน เมื่อพูดถึงการตกแต่งภายในที่ผ่อนคลาย ส่วนใหญ่จะใช้สีน้ำเงินเพราะเป็นสีที่ผ่อนคลายจิตใจที่วุ่นวายได้จริง นอกจากนี้สีฟ้าอ่อนก็เป็นกลางสำหรับการพักผ่อน ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นความมีชีวิตชีวาได้เช่นกัน

จัดระเบียบบ้าน

บ้านที่รกจะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่สบายใจ มีปัญหา สิ่งนี้มีผลอย่างมากกับบ้านทุกพื้นที่ ดังนั้นในการจัดระเบียบควรจำในสิ่งเหล่านี้
-ทางเข้าบ้านควรโล่ง ประตูด้านหน้าควรปราศจากสิ่งกีดขวางโดยประตูควรเปิดได้ 90 องศาแบบที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
-เก็บที่ว่างบนชั้นหนังสือไม่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างบุคลิกภาพของคุณแล้ว ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าห้องรกเกินไป

วางกระจกอย่างชาญฉลาด

กระจกเงานั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการสร้างภาพลวงตา ทำให้พื้นที่กว้างใหญ่ขึ้นซึ่งทำให้รู้สึกโปร่งสบายขึ้น หากไม่มีพื้นที่สำหรับงานศิลปะบนผนัง คุณสามารถลงทุนเรื่องกระจกแทนได้ หากคุณรู้สึกว่าพื้นที่ของคุณแคบเกินไป

ในทางกลับกันเวลาวางกระจกควรระมัดระวังเช่นกัน นักวิจัยจากสถาบันจิตเวชในลอนดอนกล่าวว่าพื้นผิวที่สะท้อนแสงมากเกินไปในที่เดียวสามารถทำให้เกิดความเครียดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคุณได้

ทำให้ห้องนอนปราศจากเทคโนโลยี

ห้องนอนของคุณควรเป็นที่ที่ผ่อนคลาย และเงียบสงบ เชื่อหรือไม่ว่าเทคโนโลยีมีส่วนทำให้คุณรู้สึกกระสับกระส่าย ควรให้ห้องนอนของคุณปราศจากคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ให้มากที่สุด และหากทำได้ควรวางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ ให้ห่างจากเตียง