สุขนิสัยที่ดีที่ควรทำต่อไป แม้โรคระบาดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม

สุขนิสัยที่ดีที่ควรทำต่อไป แม้โรคระบาดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม

สุขนิสัยที่ดีที่ควรทำต่อไป แม้โรคระบาดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ทั่วโลก เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2020 เราต่างต้องปรับวิถีชีวิตหรือกิจวัตรประจำวันบางอย่างเพื่อปกป้องสุขภาพกายและสุขภาพใจของตัวเองให้ดีจากสถานการณ์แบบนั้น

เนื่องจากเวลานี้ ชาวโลกเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้วจากการที่เรามีวัคซีนฉีดป้องกันโรค ทุกอย่าง (น่าจะ) กำลังค่อย ๆ ปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ คำถามคือ พอทุกอย่างกลับไปเป็นปกติเหมือนตอนที่ยังไม่มีโรคระบาด เราจำเป็นที่ต้องละทิ้งกิจวัตรดี ๆ ที่เป็นสุขนิสัยที่ดีต่อตัวเองหรือไม่ ไม่เลย เราก็ยังสามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ต่อได้ต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องยกเลิก ถ้ามันมีประโยชน์ ก็ทำมันต่อไปเถอะ

นี่คือสุขนิสัย 10 ประการ ที่เราควรนำมาใช้ต่อเนื่องในระยะยาว แม้ว่าโรคระบาดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม

ทำอาหารกินเองที่บ้าน

ช่วงที่มีการระบาดใหญ่จนต้องภาครัฐต้องประกาศล็อกดาวน์นานนับเดือน ร้านอาหารข้างทางหลายร้านที่เคยออกไปนั่งกินได้ปิดบริการ บ้างก็ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น ผู้บริโภคอย่างเราไม่ได้มีทางเลือกมากมาย ถ้าเบื่ออาหารเดลิเวอรี อีกทางเลือกก็คือซื้อของสดมาเก็บไว้ในตู้เย็นแล้วทำอาหารกินเอง ทำให้ใครหลาย ๆ คนได้ทำและกินอาหารที่บ้านมากกว่าที่เคยเป็นมา แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่ร้านรวงต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ แล้วเราก็ออกไปเพลิดเพลินกับอาหารนอกบ้านได้ แต่เราไม่ควรละทิ้งประโยชน์ในการทำอาหารกินเองที่บ้านไปเลย

ถึงการทำอาหารกินเองจะใช้เวลานาน และยุ่งยากเรื่องการเก็บล้างทำความสะอาด แต่มันก็มีข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม การทำอาหารกินเองเราสามารถควบคุมวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้เองในแบบที่เราชอบ รู้ว่าในจานนั้น ๆ ใส่อะไรลงไปบ้าง ที่สำคัญมันยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารร่วมกันกับครอบครัวหรือจะทำตามลำพังก็ตาม

ให้เวลากับงานอดิเรก

หลาย ๆ คนมีสิ่งที่อยากจะทำในช่วงเวลาว่าง แต่ช่วงก่อนหน้าที่จะมีโรคระบาด เราก็ไม่ได้มีเวลามากกันเท่าไรนัก แค่เวลาที่ใช้เดินทางไปทำงาน ไป-กลับก็หายไปหลายชั่วโมง แถมยังเหนื่อยเพลียอีก แต่การ Work from Home ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่จำเป็นต้องรีบตื่นแต่เช้ามืด และก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลียกับการเดินทางด้วย เราจึงมีเวลาเหลือนิดหน่อยมาทำในสิ่งที่อยากทำ เดิมที่มีในใจแล้วว่าจะทำอะไร ลองเลือกงานอดิเรกใหม่มาเพิ่มด้วยก็ไม่เลว

หากชีวิตกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ไม่ควรทิ้งงานอดิเรกเหล่านี้ไปเลย ต้องไม่ลืมว่าในแต่ละวัน เราก็ควรมีเวลาใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากทำ นอกจากหน้าที่การงานที่ต้องมีประสิทธิผล แต่การใช้เวลากับสิ่งที่ทำให้มีความสุขก็สำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้น เจียดเวลาสักเล็กน้อยในแต่ละวันเพื่อทำสิ่งเหล่านั้นต่อไป เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง

ออกกำลังกายที่บ้าน

ช่วงที่โรคระบาดอย่างหนัก พวกฟิตเนสหรือสถานที่ออกกำลังกายต่างก็ต้องปิดให้บริการ ผู้คนส่วนใหญ่ก็เลยต้องหันมาออกกำลังกายที่บ้านเท่าที่สถานที่จะเอื้ออำนวย ในอนาคต เมื่อสถานที่ออกกำลังกายเหล่านั้นกลับมาเปิดให้บริการ เราก็ไปใช้บริการได้ตามปกติ เพียงแต่จะบอกว่าการออกกำลังกายที่บ้านมันก็ไม่ได้แย่ ทั้งยังอาจจะเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นและน่ากลัวน้อยกว่าการไปฟิตเนสคนเดียวของใครหลาย ๆ คน

ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำตารางการออกกำลังกายใหม่ทั้งหมดเพื่อให้พอดีกับระยะเวลาในการออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง แค่ใช้เวลาสัก 10 นาทีลุกไปเดินเล่น ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอฉบับคนมีเวลาน้อย ที่มีคลิปอยู่มากมายใน YouTube หรือจะเล่นโยคะก็ได้

ติดต่อเพื่อนทางออนไลน์

ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เราไม่สามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้ ซึ่งเราก็ใช้วิธีวิดีโอคอลหากันเพื่อติดต่อพูดคุยกันแบบเห็นหน้า ถึงจะไม่ได้นั่งพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว แต่ก็มีอรรถรสมากกว่าการพิมพ์แชตคุยกันอยู่แล้ว จริงไหม?

ซึ่งถ้าหลังจากนี้ที่เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง เราสามารถออกไปพบปะกับเพื่อนฝูงได้ตามปกติ แต่บางครั้งมันก็มีอุปสรรคเดิม ๆ อย่างเช่นการเดินทางอยู่ดี ฉะนั้น เราก็ยังคงเจอเพื่อนฝูงได้ทางออนไลน์เหมือนเดิม ในกรณีที่ไม่สะดวกจะเดินทางไปหากัน อย่างไรเสีย แอปพลิเคชันซูมและโทรศัพท์มือถือก็ยังคงใช้การได้ แม้ว่าโรคระบาดจะหมดไปแล้วก็ตาม เราก็ยังใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ต่อไปได้

แค่กำหนดเวลาในการโทรหากัน ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ที่ไหนบนโลก ก็สามารถพบปะพูดคุยกันได้เหมือนเดิม (ดังที่พิสูจน์กันมาแล้วเป็นปี) ระยะทางที่ห่างไกลกันไม่ได้เป็นตัวตัดสินมิตรภาพ ที่สำคัญ เราอาจจะใช้ทักษะการติดต่อกับเพื่อนแบบทางไกล ไว้ไปสร้างมิตรภาพกับคนอีกมุมโลกหนึ่งในอนาคตก็ได้

ปรนเปรอตัวเอง

ในช่วงที่มีโรคระบาด เราอาจต้องปรับกิจวัตรบางอย่างเพื่อแก้เหงาแก้เบื่อเวลาที่ต้องติดอยู่กับบ้านนาน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าอยู่กันแบบนั้นมาเป็นปี ๆ เมื่อเรากลับมาใช้ชีวิตกันแบบปกติที่แสนจะวุ่นวาย การปรนเปรอตัวเองก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก ฉะนั้น กิจกรรมดี ๆ ที่เคยทำเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองในช่วงที่มีโรคระบาดก็จงทำต่อไป อย่างไรเสียมันก็ยังให้ประโยชน์กับตัวเราอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องไปทำสปาราคาแพง อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างการสละเวลาสัก 5 นาทีมานวดหน้าหรือขัดผิวบ้าง แทนที่จะอาบน้ำเฉย ๆ แบบที่ทำเป็นปกติ

ถึงแม้ว่าหลายคนจะมองว่าการปรนเปรอตัวเองเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยหรือดูงี่เง่า แต่ในความเป็นจริง อะไรที่ทำแล้วทำให้ตัวเองรู้สึกดีหรือมีความสุขก็ทำไปเถอะ มันเป็นเรื่องง่าย ๆ ในการใช้ชีวิต ดูแลรักษาร่างกายและจิตใจของตัวเองให้ดี ไม่ต้องไปสนใจขีดจำกัดอะไร (ตราบเท่าที่ไม่เดือดร้อนตัวเอง) แล้วเราจะประหลาดใจว่ามันทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นขนาดไหน

ให้เวลาตัวเองพัก

ในช่วงที่กักตัวกันอยู่แต่บ้าน ทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นมา และในช่วงเวลานั้นหลายคนก็ใจดีกับตัวเองมากขึ้น เพราะพอจะมีเวลาให้กับตัวเอง (และคนรอบข้าง) แต่พอทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ก็คงต้องร้องว่า “หมดเวลาสนุกแล้วสิ!” แล้วก็ต้องไปเผชิญโลกความเป็นจริงที่มีแต่ความคาดหวังและความเครียด ซึ่งไม่ควรปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับเรื่องหนัก ๆ จนกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง หยุดพักบ้างถ้าต้องการ และใช้เวลานั้นพิจารณาและทำความเข้าใจตนเองว่าอะไรบ้างที่ไม่มีประโยชน์ที่จะทำต่อ เพราะมันไม่ให้ผลลัพธ์ แน่นอนว่าถ้าเราเข้าใจตัวเอง ก็สามารถจะปฏิบัติต่อผู้อื่นได้ดีด้วย

ไปเดินเล่น

การออกไปเดินเล่นชมนกชมไม้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตไม่ต้องไปไหนไกล อาจเป็นสวนสาธารณะละแวกบ้าน หรือที่ไหนก็ได้ที่ทำให้รู้เพลิดเพลินและปลอดภัย ให้ได้ลุกมาเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้มองเห็นธรรมชาติ เวลาไม่กี่นาทีก็ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวันได้แล้ว การเดินเล่นละแวกบ้านกลายเป็นวิธีที่ปลอดภัยและนิยมทำกันในช่วงที่มีการระบาดใหญ่สุด เพื่อให้ได้ออกมาให้พ้นบ้านบ้าง ถึงแม้ว่าจะหมดโรคระบาดแล้ว แต่มันก็ยังมีประโยชน์ที่จะทำต่อไปไม่ใช่เหรอ?

ปลูกและดูแลต้นไม้

คนจำนวนมากกลายเป็นคนรักการปลูกต้นไม้ไปแล้ว เพราะช่วงที่ต้องกักตัวอยู่แต่บ้าน หลายคนเนรมิตมุมใดมุมหนึ่งในบ้านให้กลายเป็นเรือนกระจกหรือมุมปลูกต้นไม้ตามสไตล์ที่เราชอบหรือเหมาะกับพื้นที่ที่มีอยู่ ไม่เพียงแต่ทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้น แต่แค่ได้ไปเดินในสวนของตัวเองก็มีความสุขแล้ว ช่วยปรับสภาวะทางอารมณ์ คลายเครียด แถมยังเหมือนเป็นการให้รางวัลตัวเองกลาย ๆ มีประโยชน์ขนาดนี้ ก็ต้องทำกิจกรรมนี้ต่ออย่างแน่นอน

เทคนิคการผ่อนคลายตามแบบฉบับของตัวเอง

ในช่วงที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าปฏิเสธหรอกว่าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความเครียด โรคระบาดทำให้เราระแวงคนรอบข้างไปหมด จะไปไหนก็ไปไม่ได้ ทำให้หลายคนก็พยายามที่จะหาเทคนิคในการจัดการกับความวิตกกังวลของตัวเองเพื่อเยียวยาทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ แต่ละคนมีวิธีคลายเครียดไม่เหมือนกัน บางคนชอบฝึกสมาธิ บางคนนั่งถักนิตติ้ง แค่หาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง วิธีที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง แล้วทำอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

กำหนดขอบเขตการดำเนินชีวิต

เหตุการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมาให้บทเรียนอะไรในชีวิตเราตั้งมากมาย โดยเฉพาะการจัดลำดับความสำคัญในเรื่องของเวลาและตารางต่าง ๆ ให้ตัวเอง ซึ่งมันยืดหยุ่นและมีเวลาให้ตัวเองเพิ่มขึ้นด้วย ฉะนั้น จะดีกว่าไหมถ้าหากเราจะรักษาขอบเขตการดำเนินชีวิตของเราให้ยังเป็นแบบนี้ หลังจากโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าการที่ตารางงานของเราไม่ได้แน่นไปด้วยการนัดหมายหรือภาระหน้าที่ต่าง ๆ จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น ก็รักษาการจัดสรรเวลาและการวางตารางแบบนี้ต่อไป จัดลำดับความสำคัญด้วยการวางแผนสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook