หมอชาวญี่ปุ่นเผย! ทานกะหล่ำปลีทุกวันช่วยลดความดันโลหิตได้
คนส่วนใหญ่ทราบดีว่ากะหล่ำปลีมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีข้อมูลใหม่ๆ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับประโยชน์ของกะหล่ำปลีอยู่เสมอ มารู้ประโยชน์มากมายอย่างไม่น่าเชื่อของกะหล่ำปลีจากคำบอกเล่าของคุณหมอ Takafumi Kudo ผู้จัดเตรียมคู่มือการลดน้ำหนักและการบำบัดโรคด้วยอาหารกันค่ะ
ประโยชน์มากมายของกะหล่ำปลี
1. ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคไข้ละอองฟาง
กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยสารไอโซไทไอไซยาเนต (Isothiocyanate) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและไข้ละอองฟาง นอกจากในกะหล่ำปลีแล้วยังมีสารชนิดนี้มากในบรอกโคลี ผักกาดขาว หัวไชเท้า และบ๊อกฉ่อย เป็นต้น ไอโซไทไอไซยาเนตจะช่วยขจัดสารก่อมะเร็งที่เข้าสู่ร่างกายและส่งเสริมให้ร่างกายการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ สารชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและรา และมีผลในการยับยั้งภาวะภูมิแพ้จากไข้ละอองฟางด้วย
2. อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
ร่างกายคนเราต้องการเส้นใยอาหารเพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีวันละ 17-18 กรัม กะหล่ำปลี 100 กรัม ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหาร 1.8 กรัม กะหล่ำปลีครึ่งหัวประกอบไปด้วยเส้นใยอาหารประมาณ 11 กรัม และหากรับประทานร่วมกับอาหารและผักอื่นๆ ก็จะทำให้ร่างกายรับเส้นใยอาหารได้ในปริมาณที่เพียงพอเพื่อขับของเสียออกทางร่างกายผ่านทางอุจจาระ ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก
3. ช่วยในการลดน้ำหนักและทำให้ผิวพรรณสวยงาม
การรับประทานกะหล่ำปลีที่มีเส้นใยอาหารสูงนอกจากจะทำให้รู้สึกอิ่มจากการเคี้ยวแล้วก็ยังส่งเสริมให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดน้ำหนักและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ กะหล่ำปลีดิบยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โดยกะหล่ำปลี 100 กรัมประกอบไปด้วยวิตามินซี 41 กรัมซึ่งเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งของวิตามินซีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน วิตามินซีช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวพรรณและทำให้เยื่อเมือกมีความแข็งแรงจึงช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสได้ง่าย
4. ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและโรคความดันโลหิตสูง
วิตามิน U ที่มีมากในกะหล่ำปลีจะส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีนที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมเยื่อเมือกในกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งกรดในปริมาณที่มากเกินไป และรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น กะหล่ำปลีได้ชื่อว่าเป็นยารักษากระเพาะอาหารสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะและระบบย่อยอาหาร
นอกจากนี้ กะหล่ำปลียังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งจะช่วยขับเกลือออกจากร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้โพแทสเซียมยังช่วยป้องกันและบรรเทาความเหนื่อยล้าทั้งจากการทำงานและความร้อน และช่วยให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดีขึ้น
วิธีการรับประทาน
จากการศึกษาในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง พบว่าการรับประทานกะหล่ำปลีติดต่อกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงดีขึ้น ทั้งนี้ต้องรับประทานในปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะรับประทานได้โดยวิธีการต่างๆ เช่น รับประทานแบบสด ต้ม และนึ่งได้ตามชอบ
กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีราคาถูกและคนญี่ปุ่นนิยมรับประทานเป็นประจำทุกวัน โดยเมนูที่เห็นได้ง่ายและบ่อยคือการรับประทานเป็นเครื่องเคียงเมนูอาหารทอดต่างๆ บ้านเราก็หาซื้อกะหล่ำปลีได้ง่ายก็ลองซื้อมารับประทานเพื่อสุขภาพกายและความงามดูค่ะ ทั้งนี้มีข้อควรระวังอยู่เล็กน้อยตรงที่ว่าต้องล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทานค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก 8760.news-postseven