5 ของขวัญปีใหม่ ที่จะเปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันพิเศษตลอดปี

• ไอเดียของขวัญปีใหม่ ที่อาจได้เน้นมูลค่าด้านราคา แต่เป็นสารพัดของกุ๊กกิ๊กที่จะมาเติมสีสันให้กับวันธรรมดาของปี ตลอดจนทำให้วันที่เหี่ยวเฉากลายเป็นวันที่ดีขึ้นได้
• ของขวัญปีใหม่ 5 ชิ้นที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ล้วนแปรเปลี่ยนมาจากความชื่นชอบและหลงใหลของผู้สร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราไม่ลืมที่จะสังเกต ให้เวลากับความชื่นชอบและเข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน

ของขวัญปีใหม่ คือหนึ่งสิ่งที่หลายคนใช้เวลาครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนรัก ให้คนพิเศษรอบตัว หรือจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตนเอง Sarakadee Lite จึงขอส่งต่อไอเดียของขวัญปีใหม่ที่อาจได้เน้นมูลค่าด้านราคา แต่เป็นสารพัดของกุ๊กกิ๊กที่จะมาเติมสีสันให้กับวันธรรมดาของปี ตลอดจนทำให้วันที่เหี่ยวเฉากลายเป็นวันที่ดีขึ้นได้ ซึ่ง ของขวัญปีใหม่ 5 ชิ้นที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ล้วนแปรเปลี่ยนมาจากความชื่นชอบและหลงใหลของผู้สร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราไม่ลืมที่จะสังเกต ให้เวลากับความชื่นชอบและเข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้นไปพร้อมๆ กัน

 

Days Of Light

Love, to Self. Diary Planner

หลายครั้งวันเวลาดีๆ ผ่านเลยไปโดยที่เราไม่ทันได้หยุดสังเกต แต่หลายครั้งเราก็เลือกที่จะบันทึกช่วงเวลาเหล่านั้นในวิธีที่ต่างกันไป สำหรับ สายไหม-วิสสุตา แก้ววิเชียร หรือ Days of Light เลือกเก็บความประทับใจในชีวิตประจำวันออกมาเป็นภาพวาด แล้วเปลี่ยนภาพวาดเหล่านั้นออกมาเป็นสิ่งของ ราวกับว่าเราสามารถพกพาเรื่องราวดีๆ ไว้กับตัวได้ทุกเมื่อ

Love, to Self. เป็นคอลเล็กชันล่าสุดที่เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นหันกลับมาใส่ใจตัวเอง ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดจากประสบการณ์ที่สายไหมพบเจอและตกตะกอน โดยเฉพาะการเขียนและบันทึกความรู้สึกจากพาร์ตหนึ่งของความทรงจำ ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ทำให้สายไหมรู้จักและรักตัวเองมากขึ้น Love, toSelf Diary Planner จึงแบ่งออกเป็น 3 พาร์ตภายใต้ธีมเดียวกัน 

“สำหรับเรา การรักตัวเองมันคือการที่เราได้ทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้นทั้งข้อดีข้อเสียและยอมรับทุกด้านของตัวเอง เรารู้สึกว่าตัวเราเกิดจากชิ้นส่วนต่างๆ เช่น เราเป็นชิ้นส่วนจากความทรงจำในวัยเด็ก เพื่อนของเรา พ่อแม่หรือคำพูดของใครสักคนก็ทำให้เกิดพาร์ตหนึ่งในตัวเราขึ้นมา เพลงที่เราชอบฟัง หนังที่เราชอบดู ประโยคในหนังที่เราชอบมัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนความในใจของเราออกมา เป็นส่วนหนึ่งที่เราชอบและเก็บมาเป็นพาร์ตหนึ่งของเราและส่วนนั้นมันทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น เราเลยตั้งเป็นสโลแกนของคอลเล็กชันนี้ขึ้นมาว่า Pieces of everything you love are the reason to live, grow up, and love yourself a little bit more everyday.”

คอนเซปต์แรกมีชื่อว่า Kind & Gentle มีปกเป็นรูปแมว เธอสื่อสารว่า ขณะที่บางครั้งเรามองตัวเองในแง่ร้าย แต่จริงๆ แล้ว แมวอาจจะรู้ดีที่สุดก็ได้ว่าเราอ่อนโยนและน่ารักแค่ไหน เพราะทุกครั้งที่เราเข้าหาหรือเล่นกับแมวเรามักทำไปด้วยใจที่อ่อนโยนเสมอ

Shine & Fly คือธีมที่ส่งความมั่นใจให้คนที่อยากทำในสิ่งที่รักโดยไม่จำเป็นต้องกังวลมากจนเกินไป ภาพที่เป็นตัวแทนของคอนเซปต์นี้คือภาพของคนเล่นกีตาร์ที่สายไหมรู้สึกว่าหากเราปล่อยใจและเล่นไปด้วยความสุข ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดคอร์ด เพลงที่ส่งเสียงออกมาอาจเป็นเพลงที่เราชอบที่สุด และตอนนั้นเราอาจจะเปล่งประกายมากที่สุดก็ได้

ส่วน Wish &Care คือคอนเซปต์ที่บอกเล่าถึงการดูแลตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ต้องการจริงๆ สายไหมเลือกเล่นกับคำว่า care โดยที่สำหรับบางคน care อาจเป็นการดูแลตัวเองด้วยการรักษาสุขภาพหรือกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่ careในความหมายของเธอในที่นี้คือการที่เราได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นของเล่น สะสมของหรืออะไรก็ตามโดยที่ไม่เกี่ยงว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องไร้สาระในสายตาคนอื่น ภาพหลักจึงเป็นภาพของผู้ใหญ่เล่นชิงช้าที่เธอเห็นออราแห่งความสุขขณะไปวิ่งที่สวนรถไฟ

นอกจากไดอะรีแพลนเนอร์แบบ 6 เดือน ที่สายไหมครีเอตมาสำหรับคนที่ต้องการรีเฟรชตัวเองระหว่างปีแล้ว เธอยังออกแบบปฏิทินในคอนเซปต์ Days of Light รวบรวมงานวาดทุกคอลเล็กชันตลอด 2 ปีมาไว้ในปฏิทิน เสมือนคำอวยพรให้ปีหน้าของทุกคนมีแต่ความสว่างไสวในแต่ละเดือนที่ผ่านไปอีกด้วย

ช่องทางติดตาม

● instagram.com/day.s.of.light

● twitter.com/days_of_light

Studio Tata Official 

โปสต์การ์ด Songkhla Shophouse

แม้ปัจจุบัน ส.ค.ส. อาจไม่ได้รับความนิยมมากเท่าสมัยก่อนแต่ใจความของผู้ส่งที่อยากส่งมอบข้อความและคำอวยพรยังคงทำให้ปัจจุบันส.ค.ส.หรือโปสต์การ์ดยังคงถูกใช้เป็นตัวแทนของความปรารถนาดีในโอกาสพิเศษอยู่เสมอ

ตาต้า-ปฐมฤกษ์ วงศ์แสงขำ เลือกดีไซน์โปสต์การ์ดออกมาในธีมสงขลา จังหวัดบ้านเกิดของตนเอง รูปแบบของโปสต์การ์ดนำเสนอภาพจำของสถาปัตยกรรมจังหวัดสงขลา นั่นคือตึกแถว โดยตาต้าคัดเลือกตึกแถวที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจจำนวน 5 หลังมาจากถนนนครนอก ซึ่งเขามองว่ามีความหลากหลายและถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี โดยที่ 5 รูปแบบนั้นเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรม 5 ยุคสมัยในจังหวัดสงขลานั่นคือ ตึกแถวแบบจีนดั้งเดิม จีนพื้นถิ่น แบบตะวันตก แบบอาร์ตเดโคและแบบโมเดิร์น

“จริงๆ สงขลายังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ อีกเยอะที่เราประทับใจและอยากนำเสนอออกมาในรูปแบบของอาร์ตเวิร์ก แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนิดหนึ่งครับ ไม่ว่าจะตึกโมเดิร์น วัด ศาลา ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ของทางภาคใต้ที่บางทีคนอาจจะนึกไม่ค่อยออก ถ้าพูดถึงสถาปัตยกรรมภาคเหนือกับภาคอีสานก็จะนึกออกเลย แต่พอเป็นภาคใต้ก็อาจจะ เอ๊ะ เป็นอย่างไรนะ”ตาต้าเล่าถึงโปรเจกต์ที่คาดว่าจะทำต่อไป พร้อมอัปเดตผลงานที่เพิ่งผ่านมา

“ในปีที่ผ่านมานอกจากโปสต์การ์ด ผมมีงานหลากหลายมาก เคยทำเพจและคลับเฮาส์กับเพื่อน คุยเรื่องสถาปัตยกรรมเลย ชื่อว่า เม้าตึก แต่ตอนนี้หยุดไปและกำลังคิดว่าจะพัฒนาไปในแพลตฟอร์มอื่นอย่างพอดแคสต์เพื่อให้คนเข้าถึงง่ายขึ้น และเร็วๆ นี้ผมได้ไปทำ 3D modelingให้กับมิวสิกวิดีโอ “Mr.Everything” ของบิวกิ้นด้วย ช่วงท้ายของ MV จะมีตึกที่เป็นอู่รถสไตล์ art deco ก็เป็นผลงานของผมเอง ชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งงานที่ผมได้ลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะปกติก็จะอยู่กับงานภาพนิ่งที่เป็นงานพรินต์มากกว่า” 

ช่องทางติดตาม

● www.facebook.com/p.pradhom

Ma.flowering 

หนังสือภาพประกอบ Rare and Extinct Flowers

ว่ากันว่าดอกไม้แต่ละดอกมีช่วงเวลาผลิบานต่างกัน แต่จะทำอย่างไรหากเราอยากเก็บรักษาดอกไม้เหล่านั้นให้เบ่งบานอยู่ตลอด บุ้งกี๋-ธนกฤตา รัตนชยามร บัณฑิตสาขาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาลัยวิทยาลัยศิลปากร เป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในความสวยงามของดอกไม้ จนเมื่อไรที่ลงมือวาด เธอจะรู้สึกเข้ามือและสามารถทำมันต่อไปได้เรื่อยๆ 

Rare and Extinct Flowers คือโปรเจกต์ทีซิสของบุ้งกี๋ที่รวบรวมความสนใจและความถนัดเข้าไว้ด้วยกันนั่นคือ ดอกไม้ การวาดเส้นและศิลปะแบบอาร์ตนูโว (artnouveau) ส่วนคอนเซปต์ที่เลือกดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์และสูญพันธุ์ไปแล้ว 15 ชนิดมาสร้างสรรค์ผลงานก็เพราะอยากเก็บรักษาดอกไม้เหล่านั้นผ่านงานศิลปะในแบบของเธอเอง

ดอกไม้ทั้ง 15 ชนิดในเล่มจะแบ่งออกเป็นดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์และสูญพันธุ์ไปแล้วจากสามทวีปตั้งแต่เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยบุ้งกี๋เลือกนำเอกลักษณ์และความน่าสนใจของดอกไม้เหล่านั้นมาวางเป็นแพตเทิร์นแบบเข้าใจง่าย มีความอ่อนช้อย สมมาตรและดีไซน์แบบนวศิลป์โดยมีคีย์หลักคือความเข้าใจง่าย เน้นให้เห็นโครงสร้างของดอกไม้ชัดเจนตั้งแต่ดอก ใบและส่วนต่อเติมที่เธอนำมาดีไซน์ต่อ

“เราอยากให้คนเข้าถึงดอกไม้มากขึ้น เราคิดว่าการที่เราทำมันออกมาเป็นแพตเทิร์นแล้วคนเห็นอาจจะทำให้เขาเข้าใจในฟอร์มของมันมากขึ้นกว่านั้น ทั้งรายละเอียดของแต่ละดอกที่เขาจะมีกลีบหรือก้านที่ต่างกัน บางก้านมีใบ บางใบมีดีเทล เราอยากให้เขาเห็นดีเทลของแต่ละดอกไม้มากขึ้นโดยที่แพตเทิร์นของเราจะไม่ได้มีความซับซ้อน เป็นเหมือนการเอาดอกไม้มากางแล้วคลี่ให้เห็นโครงสร้างของดอกแต่ละดอก” บุ้งกี๋กล่าวถึงความตั้งใจ

นอกจากโปรเจกต์ทีซิส ดอกไม้ของบุ้งกี๋ยังโลดแล่นและมีชีวิตผ่านร้านสัก Ma.tatt ที่มีเอกลักษณ์ของลายเส้นหนักเบาดูอ่อนช้อยและพลิ้วไหว ซึ่งร้านสักนี้ได้ส่งต่อความมั่นใจในลายเส้นให้บุ้งกี๋กล้าที่จะเริ่มต้นวาดดอกไม้อย่างจริงจัง รวมถึงดีไซน์โปรดักต์ใต้แบรนด์ Ma.flowering อย่างเครื่องเขียน เสื้อผ้าและกระเป๋า ซึ่งเธอบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงค้นหาแนวทางของตัวเองอีกครั้งและอยากทำแบรนด์จริงจังที่ได้คิดโปรดักต์ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวเอง

ช่องทางติดตาม

● online.fliphtml5.com/oqiql/ggui

● instagram.com/ma.flowering

● twitter.com/maflowering

Randompnd

ไพ่สุ่มอาหาร Born 2 Dine

เชื่อว่าไม่มากก็น้อยหลายคนต้องเคยทำการ pick a card ทำนายอนาคตกันแน่ๆ ยิ่งในช่วงปีใหม่แบบนี้ก็ยิ่งต้องอัปเดตรายปีกันสักหน่อยใช่ไหม แต่เปล่าหรอก เราไม่ได้จะมาชวนทุกคนเปิดไพ่ดูดวง แต่จะชวนมาเปิดไพ่สุ่มของกินต่างหาก!

วันนี้กินอะไรกันดี? คำถามประจำวันง่ายๆ แต่บางครั้งมันก็ตอบยากเหลือเกินเพราะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอยากกินอะไร ใครประสบปัญหาแบบนี้ลองสับไพ่สุ่มของกินนี้ดูสิ เผื่อว่าจะทำให้เราเจอคำตอบง่ายขึ้น 

ไพ่สุ่มของกินนี้มีชื่อว่า Born 2 Dine ครีเอตโดย ปรด์-เบญญทิพย์ สิทธิเวช หรือ Randompnd ศิลปินที่กำลังหลงใหลในความซับซ้อนและลูกเล่นของไพ่ทาโรต์ จนนึกสนุกนำความชอบมาจับกับเรื่องใกล้ตัวที่คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ คนเหมือนกัน นั่นคืออาหารการกิน บวกกับจุดประสงค์ที่อยากให้คนที่ได้รับสามารถมีส่วนร่วมกับผลงานได้ เธอจึงดีไซน์ออกมาเป็นไพ่ Born 2 Dine ที่เนื้อหาบนไพ่จะแบ่งประเภทอาหารแบบต่างๆ อาทิ ไฟน์ไดนิง, บุฟเฟต์, อาหารที่เน้นเนื้อสัตว์ หรือวิธีการสั่งอย่าง เดลิเวอร์รี หรือ to go เป็นต้น ซึ่งแม้สุดท้ายเปิดไพ่มาแล้วเราจะต้องมาคิดกันต่อ แต่เชื่อว่าลูกเล่นนี้ต้องทำให้อาหารมื้อนั้นสนุกขึ้นกว่าเก่าไม่มากก็น้อยเลย

ช่องทางติดตาม

● instagram.com/randompnd

● twitter.com/randompnd

Peaceful Death 

ไพ่ฤดูฝน 

ในวันที่อ่อนล้ากายใจ บางครั้งเราก็ต้องการแค่ใครสักคนที่พร้อมจะรับฟังเราอย่างจริงใจ แต่หลายๆ ครั้งมันก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่จะบอกเล่าความรู้สึกที่คับข้องใจให้ใครฟัง ไพ่ฤดูฝน โดย Peaceful Death จึงเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้สำหรับทั้งผู้ป่วย ผู้ดูแล บุคลากรและคนทั่วไปสามารถใช้งานได้ง่าย หัวใจสำคัญของไพ่ฤดูฝนคือการสร้างพื้นที่แห่งการรับฟังที่ปลอดภัย กระตุ้นให้เกิดการรับฟังอย่างตั้งใจ ลึกซึ้งและไม่ตัดสินซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ร่วมกระบวนการสามารถเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น สามารถอยู่ร่วมกับความรู้สึกทุกข์ได้ด้วยความเข้าใจ

ไพ่ฤดูฝนเป็นชุดการ์ดที่แบ่งออกเป็น 4 แบบ นั่นคือ ไพ่เมฆแทนความรู้สึก ไพ่ฝนเม็ดเดียวแทนความต้องการทั่วไป ไพ่ฝนสองเม็ดแทนความต้องการที่เป็นวิธีการของผู้ป่วย และสุดท้ายคือไพ่รุ้งแทนการให้พรหรือพลังใจในการใช้ชีวิต โดยไพ่เหล่านี้เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้กังวลใจสามารถเชื่อมโยงและถ่ายทอดความรู้สึกภายในใจออกมาได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ฟังเองก็ต้องมีความยืดหยุ่นและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายไปด้วยกัน

หากใครกังวลเรื่องวิธีการใช้งานและต้องการมีประสบการณ์เกี่ยวกับไพ่ฤดูฝนก็สามารถติดต่อเพื่อเรียนรู้กระบวนการรับฟังโดยไพ่ฤดูฝนได้โดยตรงกับทาง Peaceful Death หรือกลุ่มขะใจ๋ที่มีบริการรับฟังแบบออนไลน์ ผ่านทาง Line Official : @cocokajai โดยตลอดกระบวนการใช้เวลาราว 30-60 นาที หรือสามารถเรียนรู้วิธีการใช้งานแบบส่วนตัวด้วยตัวเองได้จากคู่มือ http://peacefuldeath.co/wp-content/uploads/2022/10/Rainy-Card-Manual.pdf เลย

ช่องทางติดตาม

● Facebook : Peaceful Death 

● เว็บไซต์ : peacefuldeath.co/rainnycards/