12 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสกินแคร์ รู้แล้วผิวปัง
เรื่องที่คนรักผิวต้องรู้! รวมมาให้แบบเน้นๆ กับ 12 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "สกินแคร์" จาก "คุณอิ๊ง" ยูทูปเบอร์ เจ้าของช่อง #พลิกหลังกล่อง ที่รู้ไว้แล้ว ผิวของคุณปังอย่างแน่นอน
อิ๊ง-ชยธร กิติยาดิศัย ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เจ้าของช่องยูทูป Ingck ที่รีวิวเจาะลึกสกินแคร์บอกความลับส่วนผสมที่อยู่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ จนมีแฮชแท็กดัง #พลิกหลังกล่อง มีผู้ติดตามในช่องยูทูปกว่า 4.5 แสนคน ได้โพสต์ให้ความรู้บนเฟซบุ๊ก พลิกหลังกล่องกับ Ingck กับหัวข้อ "พลิก 12 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสกินแคร์! รู้แล้วผิวปัง"
Sanook Women จึงได้รวบรวม 12 ข้อควรรู้มาให้สาวๆ แล้วค่ะ
1. โทนเนอร์ต้องใช้สำลีเช็ด?
ไม่จริง! ส่วนตัวอิ๊งหยดเป็นน้ำจิ้มแม็กกี้บนผิวเลย ประหยัดเงินและไม่สร้างขยะด้วย แล้วก็อิ๊งว่าหลายคนมีความเชื่อผิดๆ ว่าโทนเนอร์คือขั้นตอนทำความสะอาดผิวหลังล้างหน้า นี่ปี 2023 แล้วรบกวนทิ้งความเชื่อนี้สักที! โทนเนอร์ไม่ได้ทำความสะอาดผิวนะ เพราะไม่มีสารทำความสะอาด (Surfactant) เลย และถ้าใช้โทนเนอร์เช็ดผิวแล้วยังมีคราบดำๆ หรือสิ่งสกปรกออกมา ไม่ได้แปลว่าโทนเนอร์นั้นทำได้ดี แต่แปลว่าคุณยังล้างหน้าไม่สะอาดพอ
2. สกินแคร์ควรเลือกแบบธรรมชาติ ไม่มีสารกันบูด?
อันนี้คือเลือกให้ศัตรูใช่ไหม ถ้าใช่ก็ถูก
3. ผิวต้องมีวันพักจากสกินแคร์!
ผิด เราควรใช้คลีนเซอร์ มอยซ์เจอร์ กันแดดทุกวันนะ ส่วน Active Ingredients ให้ใช้ตามปัญหาและตามที่ผิวเรารับไหว ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้ทุกวันก็ได้ครับ
4. ทุกสภาพผิวต้องทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์!
ถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้งหรือผิวมันก็ต้องใช้มอยซ์เจอร์ เพราะผิวแห้งเกิดจากการผลิตน้ำมันน้อยเกินไป และผิวมันเกิดจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณน้ำในผิว แปลว่าไม่ว่าจะมีผิวแบบไหนก็มีผิวที่ขาดน้ำได้หมด และนั่นนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ อย่างเช่น สิวหรือการอักเสบ เราถึงต้องทามอยซ์เจอร์เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิว และลดการระเหยของน้ำออกจากผิวครับ อย่าลืมน้าาา
5. สกินแคร์ควรแช่ในตู้เย็นจริงหรือไม่?
ใช่ เพราะเวลาที่อุณหภูมิร้อน พวกโมเลกุลต่างๆ จะวิ่งชนกันไปมา จนสร้างความเสียหายให้กันและกัน ทำให้สกินแคร์ “เสีย” หรือ “หมดอายุ” เร็วหลายคนก็เลยอาจจะมีความคิดว่า ถ้างั้นแช่ตู้เย็นดีกว่าไหม?
ใช่ เพราะเวลาโมเลกุลอยู่ในที่เย็น มันก็จะไม่ค่อยซน อึดและตีกันน้อยลง ทำให้สกินแคร์มีอายุยาวขึ้นจริงๆแต่ข้อเสียคือเวลาอุณหภูมิเย็นโมเลกุลน้ำจะหนาว เลยเกาะตัวเข้าหากัน ซึ่งอย่าลืมว่าในสกินแคร์ที่เป็นโลชั่นหรือครีม มีทั้งส่วนที่เป็นน้ำและน้ำมันที่ผสมกัน เวลาน้ำเกาะตัวเข้าหากัน มันก็จะแยกออกจากน้ำมัน ทำให้โครงสร้างเนื้อของครีมพังยับ หลายๆ คนที่เคยแช่น่าจะเคยเห็นแหละว่าเวลาเอาครีมออกจากตู้เย็น เนื้อมันเหลว และเละกว่าที่เคยเป็นไม่มากก็น้อย
แปลว่าถ้าอยากแช่สกินแคร์ในตู้เย็นจริงๆ ต้องมั่นใจว่าสกินแคร์นั้นมีแค่น้ำและปราศจากน้ำมันจริงๆ เช่นเซรั่มวิตซีที่มันน้ำเหลว หรือพวกน้ำตบ โทนเนอร์ที่เหลวเป็นน้ำเลยก็อาจจะแช่ได้ แต่อะไรที่เป็นเนื้อครีม เนื้อโลชั่นสีขาว ที่มีสัดส่วนน้ำมันอยู่ ห้ามแช่
ส่วนตัวอิ๊งแค่ถือคติว่าอย่าหาทำให้มาก อย่าเก็บสกินแคร์ไว้ในที่ร้อนหรือเย็นไป ให้อยู่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศา หรือตามที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์นะครับ! จบ
6. Natural ปลอดภัยกว่าสังเคราะห์!
เพื่อนๆ เคยได้ยินไหมว่า “ไม่มีอะไรฆ่ามนุษย์ได้เก่งเท่าธรรมชาติ” แล้ว เอาอะไรมาปลอดภัย งง…
สารสกัดสังเคราะห์เราควบคุมได้ทุกขั้นตอน สกัดได้ถึงระดับโมเลกุลว่าต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร ใครอยากเดินเข้าป่าไปฟันต้นอะไรมาทาผิวก็เชิญเลย แต่อิ๊งขอนั่งรออยู่ในห้องแล็บนี่แหละ
7. โทนเนอร์และเอสเซ็นส์เป็นสิ่งจำเป็น?
สกินแคร์อะไรจะจำเป็นสำหรับคุณไหม ต้องดูที่ Active Ingredient เป็นหลัก เช่น ถ้าคุณมีสิว การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดสิวอาจจำเป็น ซึ่งส่วนผสมนั้นจะอยู่ในผลิตภัณฑ์อะไรก็ไม่สำคัญเลย เพราะสุดท้ายโทนเนอร์ เอสเซ็นส์ เซรั่ม ทุกอย่างคือชื่อที่สร้างขึ้นโดยแผนกการตลาด ถ้าคุณเข้าใจสิ่งนี้เมื่อไหร่ คุณจะเป็นคนใช้สกินแคร์เก่งขึ้นมากๆ เลย
8. Active Ingredient ไม่ควรใช้หลายตัวเกินไป!
ถูกต้อง! ได้โปรดพลิกหลังกล่องอ่านส่วนผสมให้ดีทุกครั้ง เพื่อรู้ว่าเราใช้ Active Ingredient หรือส่วนผสมหลักอะไรอยู่ จะได้ไม่ใช้ซ้ำซ้อนกัน ให้เข้าใจว่าคนเราไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง Vitamin A, Vitamin C, AHA, BHA, LHA, PHA, Benzoyl Peroxide, Azelaic Acid, Niacinamide, Urea, พร้อมๆ กันนะ
9. เลเยอร์สกินแคร์ยิ่งเยอะ ยิ่งดี?
หยุดนะ! หยุดประโคมสักที สกินแคร์รูทีนที่ดีเริ่มต้นจากแค่คลีนเซอร์ มอยซ์เจอร์และกันแดด ยิ่งเพิ่มขั้นตอนยิ่งเพิ่มส่วนผสม ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพ้และระคายเคืองนะ หยุดฟังการตลาด หยุดโดนป้ายยาง่ายๆ จำไว้ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” นะครับ
10. Vaseline ทาหน้าแล้วปัง!
จริงครับ! Vaseline หรือ Petrolatum เป็น Occlusive ที่ดีมาก มันสามารถช่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นมากๆ แต่วิจัยชี้ว่าไม่ควรทาเกิน 6g หรือ 1.2tsp สำหรับหน้า ไม่งั้นอาจทำให้เซลล์ผิวบวม นำไปสู่ปัญหามากมาย และในบางคนอาจทำให้เกิดสิวหินบริเวณรอบตาได้
11. ผิวที่ดีเริ่มจากการมีเงินเยอะปี 2023 แล้ว เลิกเชื่อได้แล้วว่า “ต้องมีเงินเยอะเท่านั้นถึงผิวดีได้”
สกินแคร์ที่ดีที่เข้ากับผิวคุณมีอยู่ในทุกงบ จากคนที่ทำโรงงานผลิตสกินแคร์ อยู่กับต้นทุนเคมีทุกวัน อิ๊งพูดสิ่งนี้ได้แบบเต็มปากเลย หยุดรู้สึกท้อจากการดูกรุสกินแคร์ดาราที่อวยแต่ Counter Brand เงินแทบจะไม่ใช่อุปสรรคในการมีผิวที่ดีเลย การมองข้ามการตลาดเพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะกับผิวตัวเองให้ได้ต่างหาก คือเรื่องที่ยากที่สุด
12. ทำหัตถการดีกว่าใช้สกินแคร์อันนี้ได้ยินบ่อยมาก
อิ๊งเคยมีวีดีโออธิบายข้อดีข้อเสีย และทำแพลนบริหารจัดการเม็ดเงินยังไงให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับแต่ละปัญหาผิวแล้วในวีดีโอนี้แล้ว https://www.youtube.com/watch?v=Y-I0PzMQNHg
หัตถการหลายอันก็เห็นผลกว่าสกินแคร์อยู่แล้ว เช่นเลเซอร์ Picosecond กำจัดรอยดำ VBeam กำจัดรอยแดง ไปจดถึง Botox, Filler, HIFU ช่วยปรับโครงหน้า แต่สำหรับอิ๊งสิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นการปกป้องและดูแลสุขภาพผิวให้ดีที่สุดด้วยสกินแคร์พื้นฐาน: กันแดด มอยซ์เจอร์ คลีนเซอร์ทุกวัน เพราะสุดท้ายจะทำหัตถการไปเท่าไหร่ ถ้าไม่ปกป้องผิวด้วยสกินแคร์ก็เหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำช่วงนี้สิ่งที่ทำให้อิ๊งไม่สบายใจคือ ด้วยความที่หัตถการเห็นผลเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก หลายคนมีความคิดว่าต้องรวยเท่านั้นถึงจะสวยได้ อิ๊งไม่ชอบ mindset นี้เลย อิ๊งพูดจากประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะ พอเริ่มแล้ว มันไม่มีวันพอใจกับสิ่งที่ได้ ถึงจะทุ่มเงินไปเท่าไหร่ มันก็จะมีให้ทุ่มต่อไปได้อีกเรื่อยๆ ความสวยหรือ beauty standard มันขึ้นอยู่กับ perception ของคุณเอง ถ้าคุณปรับ mindset ตัวเองให้รักผิวในแบบฉบับที่มันเป็นในทุกๆ วันให้ได้ คุณจะมีความสุขมากๆ คือไม่ได้บอกว่าการทำหัตถการผิดนะ แต่แค่ไม่อยากให้ใครรู้สึกมี FOMO หรือกดดันที่ต้องทำหัตถการเลย จำไว้ว่า “Beauty is in the eye of the beholder”