ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายย่อยและรายเล็กในประเทศไทยต่างได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ใหลายมิติ และผลกระทบอาจรุนแรงขึ้นไปอีกในกลุ่มผู้ประกอบการหญิง โดยจากรายงานของ Thai Degital Generation 2021 “ฉายภาพอนาคตประเทศไทยหลังวิกฤติโควิด-19” จาก Sea (Group) และ World Economic Forum พบว่า กลุ่มผู้หญิงพบปัญหาการลดลงของรายได้ และสุขภาพจิตท่ี่ย่ำแย่ลงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดของผู้หญิง ที่ต้องทำงานและรับบทบาทดูแลสมาชิกในครอบครัวพร้อม ๆ กัน ทั้งยังขาดการเข้าถึงทักษะและแหล่งเงินทุนที่จำเป็นในการทำธุรกิจ โดยรายงานของ Global Enterpreneurship Monitor ยังชี้ว่า 70% ของผู้ประกอบการหญิงในประเทศไทย ยังขาดความมั่นใจและกลัวความล้มเหลว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตทางธุรกิจและการสร้างนวัตกรรมในธุรกิจของตัวเอง

Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ ได้แก่ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) จึงได้ริเริ่มโครงการ Women Made ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหญิงก้าวข้ามความกลัว สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีทางสังคมผ่านธุรกิจของตัวเอง โดยได้จับมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ซึ่งม่ีความเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการพัฒนาธุรกิจสร้างสรรค์ ทำให้โครงการ Women Made เปรียบเสมือนพื้นที่การเรียนรู้และสนามทดลองในการทำธุรกิจ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการหญิง

มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เผยว่า หลังจากเปิดตัวโครงการ Women Made ไปในช่วงปลายปี 2022 ก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการหญิงในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 100 แบรนด์ หลังจากมีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมอย่างเข้มข้น ทั้งด้านความโดดเด่นของธุรกิจหรือสินค้า ศักยภาพในการขยายธุรกิจบนช่องทางออนไลน์ และความตั้งใจใรนการสร้างอิมแพคให้สังคม ไม่ว่าจะในด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ท้ายที่สุดก็ได้ผู้ร่วมโครงการทั้งหมด 10 แบรนด์ ที่ผ่านเข้าไปรับการอบรม ทั้งในด้านการทำธุรกิจออนไลน์ การตลาด และแบรนดิ้ง รวมไปถึงการออกแบบและต่อยอดผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม จนท้ายที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เป็นผลิตภัณฑ์คอลเลกชันพิเศษ ที่วางขายบนช้อปปี้ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

“หลังเข้าร่วมโครงการ ผู้ประกอบการหญิงทุกแบรนด์ระบุว่ามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นในฐานะผู้ประกอบการ ทั้งยังได้รับทักษะใหม่ ๆ จากการเข้าร่วมโครงการ ทั้งการทำธุรกิจโดยรวม การทำธุรกิจบนดิจิทัลแพลตฟอร์มและโลกออนไลน์ การสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ซึ่งสะท้อนเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นบนช่องทางออนไลน์ โดยเพิ่มขึ้นราว 20% ในช่วงเวลาเพียงแค่ 1 เดือน นอกจากนี้ ทุกแบรนด์ยังได้ค้นหาแพวทางการดำเนินธุรกิจของตัวเองให้มีความยั่งยืนในรูปแบบที่ทำได้จริง และมีความหมายต่อแบรนด์อีกด้วย” มณีรัตน์กล่าว

ด้าน ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ชี้ว่าบทบาทหน้าที่ของ CEA คือการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน รวมทั้งปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เกิดการเติบโต นอกจากความคิดสร้างสรรค์ ก็คือนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นต้องตระหนักและปรับตัว พร้อมใช้ต้นทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่มีเอกลักษณ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนโดยรอบ ทั้งในมิติของเศรษฐกิจท้องถิ่นและการท่องเที่ยว ทำให้เกิดระบบนิเวศสร้างสรรค์อย่างแท้จริง

“เราเชื่อว่าโครงการ Women Made ที่จัดทำร่วมกับ Sea (ประเทศไทย) นอกจากเรื่องความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังมีการผนวกเรื่องการใช้เทคโนโลยีและการพัฒนานวัตกรรมในการทำธุรกิจให้เกิดขึ้น เพื่อยกระดับศักยภาพในการทำธุรกิจของผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 10 แบรนด์ ให้มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งเป็นโครงการนำร่องสำหรับผู้ประกอบการหญิงที่มีไฟ และต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถขยายสู่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นได้จริง”

เรวัฒน์ ชำนาญ ที่ปรึกษาโครงการผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ และอดีตบรรณาธิการบริหาร Wallpaper Thai Education ได้กล่าวว่า ผู้ประกอบการหญิงที่ได้รับคัดเลือกทั้ง 10 แบรนด์ ล้วนมีศักยภาพในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างคุณค่าต่อสังคมไปพร้อมกัน

โครงการ Women Made ในครั้งนี้ ได้ออกแบบ Masterclass โดยใช้กระบวนการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ และให้ผู้ประกอบการหญิงได้มีโอกาสพบเมนเทอร์ (Mentor) รวมถึงเครือข่ายนักสร้างสรรค์จาก Connect by CEA มาทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ นอกจากนั้น ผู้ประกอบหญิงทั้ง 10 แบรนด์ยังมีโอกาสได้ลองประยุกต์ความรู้จาก Masterclass และทดลองไอเดียใหม่ ๆ โดยใช้ seed-funding จากโครงการ ในการออกแบบคอลเลกชันพิเศษที่ทดลองขายบนช้อปปี้

สำหรับผลงานความสำเร็จจากพลังของผู้ประกอบการหญิงทั้ง 10 แบรนด์ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Women Made มีดังนี้

Kanz by Thaitor: แบรนด์เสื้อผ้าจากจังหวัดแพร่ ที่คนในครอบครัวออกแบบลายและทำกันเองทุกขั้นตอน เป็นการต่อยอดจากผ้าบาติก
Sliptosleep: แบรนด์ Braless Pajamas หรือชุดนอนสำหรับสาว ๆ ที่มาพร้อมกระเป๋าหนาสามชั้นด้านนอก ทำให้ไม่ต้องกลัวโป๊ แม้จะไม่ได้ใส่บรา
Veraparisbag: แบรนด์กระเป๋าซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตผู้หญิงในมหาสคร ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสถาปัตยกรรมเมือง และออกแบบให้มีฟังก์ชันที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ชีวิต Urban Life สร้างสุนทรีย์ให้ผู้หญิงในการถือและใช้กระเป๋า
Sureeya: แบรนด์ผลิตภัณฑ์กระเป็นและ Accessories จากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผ้าพื้นถิ่นคือผ้าปาเต๊ะ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่
Pick Me Please: หมูหยองกรอบที่ใช้กรรมวิธีคั่วบนเตาถ่านสูตรโบราณ โดยปราศจากกรใช้เครื่องจักร ปรุงรสจนได้หมูหยองกรอบ ที่อร่อยและรสชาติไม่เหมือนใคร ทั้งยังปราศจากผงชูรสและสารกันเสีย
ขนมทันจิตต์: ต่อยอดตำนานครอบครัวนักรังสรรค์ขนม ที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี พร้อมส่งต่อความสุขที่ทานได้แบบ Non Stop กับขนม “เผือกกรอบรูปตะแกรง” ในแบบฉบับ “ทันจิตต์”
Mediherbtea: แบรนด์ชาดอกไม้ ปราศจากคาเฟอีน ไม่มีน้ำตาล ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่มีทั้งกลิ่นหอมและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ประกอบไปด้วยชาเบลนด์ 3 รสชาติ ได้แก่ Morning Bloom ชาดอกไม้สีแดงจากดอกชบา กระเจี๊ยบแดง และกุหลาบ Golden Noon ชาดอกไม้สีเหลืองทองจากดอกคำฝอย มะตูม และดอกกระดังงา Starry Night ชาดอกไม้สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน มะลิ และเปเปอร์มิ้นท์
Ales Thailand: แบรนด์สกินแคร์ที่อยากช่วยให้การดูแลผิวเป็นเรื่องง่าย โดย Ales โดย Ales เกิดจากความตั้งใจของเพื่อน 3 คน (พลอย - เภสัชกรที่มีความรู้ด้านงานวิจัยสารสกัด, หยก - ทายาทธุรกิจนำเข้าเคมีภัณฑ์เครื่องสำอาง และแพร - Influencer ที่สนใจด้านธรรมชาติและสุขภาพ) ที่อยากทำสกินแคร์ เป็นแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพและส่งต่อความรู้ในการดูแลสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค
Happy FLow TH: แบรนด์ผ้าอนามัยออร์เเกนิกและผ้าอนามัยสมุนไพร ที่มุ่งมั่นช่วยให้ผู้หญิงรักษาอนามัยอย่างปลอดภัยได้ในทุก ๆ วัน และต้องการร่วมขับเคลื่อนสังคม ช่วยเหลือให้ผู้หญิงที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงผ้าอนามัยดี ๆ ได้ ปล่อยเซ็ตผ้าอนามัยสมุนไพร “Happy Together” ประกอบด้วย ผ้าอนามัยแบบกลางคืน 24 แผ่น กระเป๋าใส่ผ้าอนามัย และ Period Tracker นอกจากนั้นกล่องผ้าอนามัย Happy Flows สามารถ D.I.Y. เป็นกล่องใส่ผ้าอนามัยอีกด้วย เมื่อซื้อ 1 กล่อง แบรนด์จะมอบอีก 1 กล่องให้เพื่อนผู้หญิงที่ขาดโอกาสเข้าถึงผ้าอนามัยที่ถูกสุขลักษณะเพื่อเป็นอีกพลังหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนความสุข ความเท่าเทียมด้านสุขอนามัยของผู้หญิงทุกคน
Pethology+: แบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยต่อยอดแชมพูกำจัดเหาของเด็กมาเป็นแชมพูสมุนไพรสำหรับสุนัขและแมว พัฒนามาจากใบถอบแถบซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามแนวป่าชายเลน ผ่านการทดลองในห้องทดลองโดยผู้เชี่ยวชาญ จนได้เป็นแชมพูและสเปรย์สมุนไพรที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์

“เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กลุ่มผู้ประกอบการหญิงในประเทศไทยในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้สินค้าและบริการของตนเอง และใช้เทคโนโลยีในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืนทางสังคม โครงการ Women Made เป็นหนึ่งในโครงการด้าน Digital Education ของ Sea (ประเทศไทย) ที่ต้องการจะส่งเสริมให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศไทยมีความรู้และทักษะดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ศักยภาพในการทำธุรกิจ ตลอดจนรองรับการปรับตัวและเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ องค์ความรู้จาก Master Class ที่ผู้ประกอบการทั้ง 10 แบรนด์ได้เรียนรู้จากโครงการฯ จะถูกถอดบทเรียนออกมาเป็นวิดีโอซีรีส์สั้น ๆ 5 ตอน และเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการหญิงท่านอื่น ๆ และผู้ที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายบนเว็บไซต์ Sea Academy เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ Women Made จะสามารถจุดไฟแรงบันดาลใจและส่งต่อความรู้ เพื่อเสริมความมั่นใจและสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงมีพลังและจะเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต” มณีรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ “Women Made” โครงการเพื่อผู้ประกอบการหญิงจาก Sea (ประเทศไทย) และ CEA ภาพที่ 20 / 26

“Women Made” โครงการเพื่อผู้ประกอบการหญิงจาก Sea (ประเทศไทย) และ CEA