"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม "Make Life Your Pleasure" สนุกกับชีวิตที่ใช่
!["กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม "Make Life Your Pleasure" สนุกกับชีวิตที่ใช่](http://s.isanook.com/wo/0/ud/46/233805/kk.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม “Make Life Your Pleasure” สนุกกับชีวิตที่ใช่ สไตล์เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เอาชนะความกดดันรอบตัวด้วย ทัศนคติ ใหม่ ค้นพบตัวตนที่ใช่ และเป้าหมายของความสำเร็จในแบบที่ไม่มีใครมาตีกรอบ จากแรงบันดาลใจในการเล่นโยคะ
สำหรับใครหลายคน การเริ่มต้นปีใหม่ มักมาพร้อมกับเป้าหมายใหม่ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ความรัก หรือสุขภาพ แน่นอนว่าการวางเป้าหมายชัดเจน ย่อมเป็นก้าวแรกบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ แต่จะมีสักกี่คนที่หยิบเอา “ความสุข” มาวางบนทางเดินสายนี้ด้วย ?
กุ๊กไก่ ภาวดี สาวน้อยผู้หลงใหลในการเล่นโยคะ คืออีกหนึ่งคนที่เคยผ่านช่วงเวลาแห่งความกดดัน ทั้งจากตนเองและปัจจัยอื่น ๆ จนถึงจุดหนึ่ง เธอก็ค้นพบคำตอบของสมดุลแห่งชีวิต ผ่านการเล่นโยคะ ที่กลายเป็นแพชชั่นในการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ ของเธอต่อไป
สนุกกับชีวิตที่ใช่
“ชีวิตที่ใช่ สำหรับกุ๊ก คือการที่กุ๊ก ‘สนุก’ กับกิจกรรมที่ทำค่ะ และการเล่นโยคะก็เข้ามาสร้างความสุขหรือ ‘spark joy’ ในตัวกุ๊ก” กุ๊กไก่ กล่าว
สำหรับปี 2023 นี้ กุ๊กไก่ตั้งเป้าหมายด้านสุขภาพของเธอไว้ชัดเจนว่าต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้ชัดและแข็งแรงขึ้น ต่อยอดจากปีก่อนที่เน้นลดปริมาณไขมันในร่างกาย
“กุ๊กก็อยากรู้นะคะว่าถ้าเรามีวินัยในการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ร่างกายเราจะแข็งแรง มีลายกล้ามเนื้อชัดขึ้นได้มากขนาดไหน” เธอกล่าว
กุ๊กไก่ สนุกกับการได้เรียนโยคะ เพราะมันทำให้เธอได้พัฒนาศักยภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เนื่องจากโยคะ ‘เชื่อมโยง’ ระหว่างลมหายใจกับการขยับอวัยวะ ดังที่เรามักจะได้ยินว่า ‘หายใจเข้ายกมือขึ้น หายใจออกพับตัว’ เป็นต้น ความเชื่อมโยงนี้ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกสมาธิไปพร้อม ๆ กับเพิ่มสมรรถภาพทางกายภาพ
กุ๊กไก่ ชื่นชอบการออกกำลังกายมากจนเธอต้องบังคับให้ตัวเองพักผ่อน 2 วันต่อสัปดาห์ เธอสารภาพว่าแรก ๆ ที่เริ่มเรียนโยคะจริงจัง เธอเล่นโยคะ 7 วันต่อสัปดาห์ และมองข้ามความสำคัญของการฟื้นฟูร่างกาย หรือ Recovery’ จนข้อมือบาดเจ็บ และถูกแพทย์สั่งห้ามใช้ข้อมือไป 2 เดือน ซึ่งไม่ใช่แค่เธอต้องหยุดเล่นโยคะ แต่ยังรวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่หยิบ-จับ-ยก ของหนัก หรือแม้แต่การบิดพวงมาลัยขับรถ นี่จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่กุ๊กไก่ไม่มีวันลืม และเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอต้องแบ่งเวลาเพื่อสร้างสมดุลการออกกำลังกายใน 7 วัน ให้มีความหลากหลาย ทั้งโยคะ เวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอและวันพักผ่อน ซึ่งคลับเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ นอกจากจะมีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่างสระสปาน้ำอุ่น ห้องสตีมซาวน่า และสลีปพอดให้เธอได้เลือกเอนจอยแล้ว ยังมี คลาส Recovery ที่ช่วยในด้านการฟื้นฟูร่างกายบนหลักการ Relaxation Release Regeneration หรือ การผ่อนคลาย การปลดปล่อย และการฟื้นฟู ซึ่งกุ๊กไก่จะใช้เวลาในคลาสนี้ 30 นาที เพื่อฝึกลมหายใจ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่งค้างไว้และแบบเคลื่อนไหว ควบคู่ไปกับเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยบำบัดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เยื่อพังผืดและตามข้อต่อ เพื่อคลายและลดอาการปวดเมื่อย ช่วยสร้างความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นต้น นอกจากนี้ กุ๊กไก่ยังเห็นคุณค่าของไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันอย่างการไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือไปซื้อของในตลาด เพราะกิจกรรมเหล่านี้ก็ถือเป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย และมีประโยชน์เช่นกัน
แนวคิดการสร้างสมดุลให้ชีวิตได้เอนจอยกับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ และใช้ประโยชน์จากความแข็งแรงของร่างกายและหัวใจที่พร้อม ไปสร้างความสุขแก่ทุกด้านในชีวิต เป็นนแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นแคมเปญ สนุกกับชีวิตที่ใช่ (Make Life Your Pleasure) ของเวอร์จิ้น แอคทีฟ ที่สื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทั้งในฟิตเนสและนอกฟิตเนส โดยถ่ายทอดผ่านทัศนคติของเทรนเนอร์ ครูฝึก คลาส และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น
เคล็ดลับสุขภาพดี มีความสุข
สำหรับเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้กุ๊กไก่พัฒนาตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่รู้สึกเครียด เริ่มจาก ‘การชื่นชมตนเองวันละนิดวันละหน่อย’ แน่นอนว่าทุกคนอยากมีหุ่นหรือรูปร่างในฝัน จนเผลอกดดันตนเองมากเกินไป กุ๊กไก่เสนอว่า แทนที่คิดว่าทำไมพยายามตั้งเยอะ แต่ยังดีกว่าเดิมแค่นิดเดียวเอง เราลองพลิกมุมมองใหม่
“กุ๊กพูดกับตัวเองว่า อื้อ วันนี้เราทำดีละนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะพยายามทำให้ดีขึ้น แต่ถ้ามันยังไม่ดีหรือทำได้เท่าเดิม เราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดไง การออกกำลังกายทำให้เราเหนื่อยทางกายภาพมากพอแล้ว อย่าเอามันมาทำให้หัวใจเราต้องเหนื่อยไปด้วยเลยค่ะ” เธอกล่าว
นอกจากการให้กำลังใจตนเองแล้ว เคล็ดลับอีกข้อ คือ ‘การทำกิจกรรมที่ใช่และเป็นตัวเอง’ เธอยกตัวอย่างเพื่อน ๆ ในคลาสโยคะ บางคนมาเพราะแพทย์แนะนำ บางคนมาเพราะเพื่อนชวน บางคนอยากมาเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มาเล่นโยคะแล้วจะชอบ บางคนอาจจะสนุกกับการวิ่ง หรือการได้เหนื่อยแบบอื่น ๆ มากกว่า
“กุ๊กจะพูดกับทุกคนเสมอค่ะว่าเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ถ้ารู้สึก spark joy กับกิจกรรมไหน ก็ทำไปเลยค่ะ ไม่ต้องจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยที่เราไม่ชอบ กุ๊กอยากให้ทุกคนค่อย ๆ ค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าไม่สนุกกับโยคะ ลองไปปีนหน้าผาหรือเดินป่าไหม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกกำลังกายหรือเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเริ่มต้นทำสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นอันดับแรกเสมอ” กุ๊กไก่ กล่าว
กุ๊กไก่ ภาวดี และครูแพรว ธิดารัตน์ วิระสันติ ครูโยคะ Rockstar ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ
เคล็ดลับข้อสุดท้าย กุ๊กไก่ ‘เติมเต็มแพชชั่นของตัวเองจากการแบ่งปันสิ่งดี ๆ แก่ผู้อื่น’ เรื่องนี้เริ่มต้นจากตอนที่คุณแม่ของกุ๊กไก่ล้มข้อเท้าพลิก รุนแรงถึงขั้นที่แพทย์ไม่รับประกันว่าคุณแม่จะสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติเหมือนเดิม กุ๊กไก่จึงตัดสินใจไปเรียนโยคะและนำความรู้มาปรับใช้เพื่อทำกายภาพบำบัดให้คุณแม่ หลังจากนั้นคุณแม่มีอาการดีขึ้น
“ความสำเร็จนี้ทำให้ญาติ ๆ และคนรู้จักเริ่มเข้ามาขอคำปรึกษาจากเรา พอเขานำสิ่งที่กุ๊กแนะนำไปปรับใช้ แล้วเขาดีขึ้น เขาก็กลับมาบอกเรา กุ๊กรู้สึก เติมเต็ม ตัวเองมากค่ะ เพราะเราคาดไม่ถึงว่าท่าโยคะเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราให้เขาไป จะช่วยบรรเทาอาการป่วยของเขาได้” เธอกล่าว.
นอกจากด้านกายภาพแล้ว กุ๊กไก่ยังได้แนะนำเทคนิคการฝึกหายใจแก่เพื่อน ๆ อีกด้วย พวกเขานำสิ่งที่เธอแบ่งปันไปปรับใช้ในสถานการณ์กดดัน ซึ่งมันช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาเครียด ๆ เหล่านั้นไปได้จริง ๆ นี่จึงยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กุ๊กไก่อยากเล่นโยคะและนำความรู้มาแบ่งปันแก่คนรอบข้างต่อไป
“สิ่งเหล่านี้ล่ะค่ะ เป็นกำลังใจ และเป็นแพชชั่น ที่ทำให้กุ๊กเดินต่อไปได้” เธอเสริม
แค่พลิกความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
การออกกำลังกาย ประกอบกับวิธีสร้างแรงบันดาลใจผ่านการชื่นชมตัวเองวันละนิด และแบ่งปันสิ่งดี ๆ แก่คนรอบข้าง หล่อหลอมเป็นมุมมองการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เธอมีทัศนคติเชิงบวกต่อรูปร่างของตัวเองในกระจก เธอมองข้ามขนาดของรอบเอว และให้ความสำคัญกับปริมาณมวลกล้ามเนื้อ และไขมันในร่างกายของเธอมากกว่า
ทัศนคตินี้ เชื่อมโยงกับด้านอื่น ๆ ของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน กุ๊กไก่พูดถึงประสบการณ์ทำโปรเจ็กต์ที่ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง เธอเคยเครียดกับงานที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้นเสียที จนกระทั่งเธอปลดปล่อยตัวเองออกจากแรงกดทับบนบ่าด้วยวิธีคิดดังที่กล่าวข้างต้น
“เราบอกตัวเองว่าวันนี้เราทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะ เรารู้ละว่ามีบางอย่างผิดพลาด และเราต้องแก้ไขตรงไหน” กุ๊กไก่ กล่าว “แพชชั่นที่กุ๊กใช้ในการออกกำลังกาย ทำให้กุ๊กใช้ชีวิตได้มีความสุขขึ้น เพราะกุ๊กสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายกับความสุขของตัวเอง สมดุลนี้ทำให้ตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ กุ๊กมีสภาพจิตใจที่ดีค่ะ”
เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน การที่เรามีเป้าหมายเล็ก มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนขี้เกียจ
สุดท้าย กุ๊กไก่อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนในโฆษณา หรือมีเงินเยอะ ๆ เหมือนคนอื่น เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน การที่เรามีเป้าหมายเล็ก มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนขี้เกียจ แต่ให้มองว่านี่คือ เป้าหมายที่ทำให้เรามีความสุข และเราก็ทุ่มเททำมันอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้ทุกคนชื่นชมตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองเยอะ ๆ
“ในวันที่เราเศร้า เสียงที่เราเอาออกไปยากที่สุดก็คือเสียงที่อยู่หัวเรานี่ล่ะค่ะ เพราะฉะนั้น อย่างน้อยถ้าเราเอาเสียงลบ ๆ ออกไปไม่ได้ ก็เพิ่มเสียงบวกในสมองให้มันดังขึ้นดีกว่าไหมคะ กุ๊กรู้ว่าทุกคนมีอุปสรรคของตัวเอง แต่เราจะผ่านมันไปได้ค่ะ”