"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม "Make Life Your Pleasure" สนุกกับชีวิตที่ใช่

"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม "Make Life Your Pleasure" สนุกกับชีวิตที่ใช่

"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม "Make Life Your Pleasure" สนุกกับชีวิตที่ใช่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กุ๊กไก่ ภาวดี" กับนิยาม “Make Life Your Pleasure” สนุกกับชีวิตที่ใช่ สไตล์เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เอาชนะความกดดันรอบตัวด้วย ทัศนคติ ใหม่ ค้นพบตัวตนที่ใช่ และเป้าหมายของความสำเร็จในแบบที่ไม่มีใครมาตีกรอบ จากแรงบันดาลใจในการเล่นโยคะ

สำหรับใครหลายคน การเริ่มต้นปีใหม่ มักมาพร้อมกับเป้าหมายใหม่ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ความรัก หรือสุขภาพ แน่นอนว่าการวางเป้าหมายชัดเจน ย่อมเป็นก้าวแรกบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ แต่จะมีสักกี่คนที่หยิบเอา “ความสุข” มาวางบนทางเดินสายนี้ด้วย ?

กุ๊กไก่ ภาวดี สาวน้อยผู้หลงใหลในการเล่นโยคะ คืออีกหนึ่งคนที่เคยผ่านช่วงเวลาแห่งความกดดัน ทั้งจากตนเองและปัจจัยอื่น ๆ จนถึงจุดหนึ่ง เธอก็ค้นพบคำตอบของสมดุลแห่งชีวิต ผ่านการเล่นโยคะ ที่กลายเป็นแพชชั่นในการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ ของเธอต่อไป

สนุกกับชีวิตที่ใช่

“ชีวิตที่ใช่ สำหรับกุ๊ก คือการที่กุ๊ก ‘สนุก’ กับกิจกรรมที่ทำค่ะ และการเล่นโยคะก็เข้ามาสร้างความสุขหรือ ‘spark joy’ ในตัวกุ๊ก” กุ๊กไก่ กล่าว

สำหรับปี 2023 นี้ กุ๊กไก่ตั้งเป้าหมายด้านสุขภาพของเธอไว้ชัดเจนว่าต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้ชัดและแข็งแรงขึ้น ต่อยอดจากปีก่อนที่เน้นลดปริมาณไขมันในร่างกาย

“กุ๊กก็อยากรู้นะคะว่าถ้าเรามีวินัยในการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ร่างกายเราจะแข็งแรง มีลายกล้ามเนื้อชัดขึ้นได้มากขนาดไหน” เธอกล่าว

กุ๊กไก่ สนุกกับการได้เรียนโยคะ เพราะมันทำให้เธอได้พัฒนาศักยภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เนื่องจากโยคะ ‘เชื่อมโยง’ ระหว่างลมหายใจกับการขยับอวัยวะ ดังที่เรามักจะได้ยินว่า ‘หายใจเข้ายกมือขึ้น หายใจออกพับตัว’ เป็นต้น ความเชื่อมโยงนี้ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกสมาธิไปพร้อม ๆ กับเพิ่มสมรรถภาพทางกายภาพ

กุ๊กไก่ ชื่นชอบการออกกำลังกายมากจนเธอต้องบังคับให้ตัวเองพักผ่อน 2 วันต่อสัปดาห์ เธอสารภาพว่าแรก ๆ ที่เริ่มเรียนโยคะจริงจัง เธอเล่นโยคะ 7 วันต่อสัปดาห์ และมองข้ามความสำคัญของการฟื้นฟูร่างกาย หรือ Recovery’ จนข้อมือบาดเจ็บ และถูกแพทย์สั่งห้ามใช้ข้อมือไป 2 เดือน ซึ่งไม่ใช่แค่เธอต้องหยุดเล่นโยคะ แต่ยังรวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่หยิบ-จับ-ยก ของหนัก หรือแม้แต่การบิดพวงมาลัยขับรถ นี่จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่กุ๊กไก่ไม่มีวันลืม และเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอต้องแบ่งเวลาเพื่อสร้างสมดุลการออกกำลังกายใน 7 วัน ให้มีความหลากหลาย ทั้งโยคะ เวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอและวันพักผ่อน ซึ่งคลับเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ นอกจากจะมีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอย่างสระสปาน้ำอุ่น ห้องสตีมซาวน่า และสลีปพอดให้เธอได้เลือกเอนจอยแล้ว ยังมี คลาส Recovery ที่ช่วยในด้านการฟื้นฟูร่างกายบนหลักการ Relaxation Release Regeneration หรือ การผ่อนคลาย การปลดปล่อย และการฟื้นฟู ซึ่งกุ๊กไก่จะใช้เวลาในคลาสนี้ 30 นาที เพื่อฝึกลมหายใจ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่งค้างไว้และแบบเคลื่อนไหว ควบคู่ไปกับเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยบำบัดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เยื่อพังผืดและตามข้อต่อ เพื่อคลายและลดอาการปวดเมื่อย ช่วยสร้างความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นต้น นอกจากนี้ กุ๊กไก่ยังเห็นคุณค่าของไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันอย่างการไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือไปซื้อของในตลาด เพราะกิจกรรมเหล่านี้ก็ถือเป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย และมีประโยชน์เช่นกัน

แนวคิดการสร้างสมดุลให้ชีวิตได้เอนจอยกับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ และใช้ประโยชน์จากความแข็งแรงของร่างกายและหัวใจที่พร้อม ไปสร้างความสุขแก่ทุกด้านในชีวิต เป็นนแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นแคมเปญ สนุกกับชีวิตที่ใช่ (Make Life Your Pleasure) ของเวอร์จิ้น แอคทีฟ ที่สื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทั้งในฟิตเนสและนอกฟิตเนส โดยถ่ายทอดผ่านทัศนคติของเทรนเนอร์ ครูฝึก คลาส และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น

เคล็ดลับสุขภาพดี มีความสุข

สำหรับเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้กุ๊กไก่พัฒนาตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่รู้สึกเครียด เริ่มจาก ‘การชื่นชมตนเองวันละนิดวันละหน่อย’ แน่นอนว่าทุกคนอยากมีหุ่นหรือรูปร่างในฝัน จนเผลอกดดันตนเองมากเกินไป กุ๊กไก่เสนอว่า แทนที่คิดว่าทำไมพยายามตั้งเยอะ แต่ยังดีกว่าเดิมแค่นิดเดียวเอง เราลองพลิกมุมมองใหม่

“กุ๊กพูดกับตัวเองว่า อื้อ วันนี้เราทำดีละนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะพยายามทำให้ดีขึ้น แต่ถ้ามันยังไม่ดีหรือทำได้เท่าเดิม เราก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดไง การออกกำลังกายทำให้เราเหนื่อยทางกายภาพมากพอแล้ว อย่าเอามันมาทำให้หัวใจเราต้องเหนื่อยไปด้วยเลยค่ะ” เธอกล่าว

นอกจากการให้กำลังใจตนเองแล้ว เคล็ดลับอีกข้อ คือ ‘การทำกิจกรรมที่ใช่และเป็นตัวเอง’ เธอยกตัวอย่างเพื่อน ๆ ในคลาสโยคะ บางคนมาเพราะแพทย์แนะนำ บางคนมาเพราะเพื่อนชวน บางคนอยากมาเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มาเล่นโยคะแล้วจะชอบ บางคนอาจจะสนุกกับการวิ่ง หรือการได้เหนื่อยแบบอื่น ๆ มากกว่า 

“กุ๊กจะพูดกับทุกคนเสมอค่ะว่าเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ถ้ารู้สึก spark joy กับกิจกรรมไหน ก็ทำไปเลยค่ะ ไม่ต้องจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยที่เราไม่ชอบ กุ๊กอยากให้ทุกคนค่อย ๆ ค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าไม่สนุกกับโยคะ ลองไปปีนหน้าผาหรือเดินป่าไหม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกกำลังกายหรือเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเริ่มต้นทำสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด เป็นอันดับแรกเสมอ” กุ๊กไก่ กล่าว

กุ๊กไก่ ภาวดี และครูแพรว ธิดารัตน์ วิระสันติ ครูโยคะ Rockstar ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟกุ๊กไก่ ภาวดี และครูแพรว ธิดารัตน์ วิระสันติ ครูโยคะ Rockstar ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

เคล็ดลับข้อสุดท้าย กุ๊กไก่ ‘เติมเต็มแพชชั่นของตัวเองจากการแบ่งปันสิ่งดี ๆ แก่ผู้อื่น’ เรื่องนี้เริ่มต้นจากตอนที่คุณแม่ของกุ๊กไก่ล้มข้อเท้าพลิก รุนแรงถึงขั้นที่แพทย์ไม่รับประกันว่าคุณแม่จะสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติเหมือนเดิม กุ๊กไก่จึงตัดสินใจไปเรียนโยคะและนำความรู้มาปรับใช้เพื่อทำกายภาพบำบัดให้คุณแม่ หลังจากนั้นคุณแม่มีอาการดีขึ้น

“ความสำเร็จนี้ทำให้ญาติ ๆ และคนรู้จักเริ่มเข้ามาขอคำปรึกษาจากเรา พอเขานำสิ่งที่กุ๊กแนะนำไปปรับใช้ แล้วเขาดีขึ้น เขาก็กลับมาบอกเรา กุ๊กรู้สึก เติมเต็ม ตัวเองมากค่ะ เพราะเราคาดไม่ถึงว่าท่าโยคะเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราให้เขาไป จะช่วยบรรเทาอาการป่วยของเขาได้” เธอกล่าว.

นอกจากด้านกายภาพแล้ว กุ๊กไก่ยังได้แนะนำเทคนิคการฝึกหายใจแก่เพื่อน ๆ อีกด้วย พวกเขานำสิ่งที่เธอแบ่งปันไปปรับใช้ในสถานการณ์กดดัน ซึ่งมันช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาเครียด ๆ เหล่านั้นไปได้จริง ๆ นี่จึงยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กุ๊กไก่อยากเล่นโยคะและนำความรู้มาแบ่งปันแก่คนรอบข้างต่อไป

“สิ่งเหล่านี้ล่ะค่ะ เป็นกำลังใจ และเป็นแพชชั่น ที่ทำให้กุ๊กเดินต่อไปได้” เธอเสริม

แค่พลิกความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน

การออกกำลังกาย ประกอบกับวิธีสร้างแรงบันดาลใจผ่านการชื่นชมตัวเองวันละนิด และแบ่งปันสิ่งดี ๆ แก่คนรอบข้าง หล่อหลอมเป็นมุมมองการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เธอมีทัศนคติเชิงบวกต่อรูปร่างของตัวเองในกระจก เธอมองข้ามขนาดของรอบเอว และให้ความสำคัญกับปริมาณมวลกล้ามเนื้อ และไขมันในร่างกายของเธอมากกว่า

ทัศนคตินี้ เชื่อมโยงกับด้านอื่น ๆ ของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน กุ๊กไก่พูดถึงประสบการณ์ทำโปรเจ็กต์ที่ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง เธอเคยเครียดกับงานที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้นเสียที จนกระทั่งเธอปลดปล่อยตัวเองออกจากแรงกดทับบนบ่าด้วยวิธีคิดดังที่กล่าวข้างต้น

“เราบอกตัวเองว่าวันนี้เราทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะ เรารู้ละว่ามีบางอย่างผิดพลาด และเราต้องแก้ไขตรงไหน” กุ๊กไก่ กล่าว “แพชชั่นที่กุ๊กใช้ในการออกกำลังกาย ทำให้กุ๊กใช้ชีวิตได้มีความสุขขึ้น เพราะกุ๊กสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายกับความสุขของตัวเอง สมดุลนี้ทำให้ตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ กุ๊กมีสภาพจิตใจที่ดีค่ะ”

 

 เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน การที่เรามีเป้าหมายเล็ก มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนขี้เกียจ

สุดท้าย กุ๊กไก่อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนในโฆษณา หรือมีเงินเยอะ ๆ เหมือนคนอื่น เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน การที่เรามีเป้าหมายเล็ก มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนขี้เกียจ แต่ให้มองว่านี่คือ เป้าหมายที่ทำให้เรามีความสุข และเราก็ทุ่มเททำมันอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้ทุกคนชื่นชมตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองเยอะ ๆ

“ในวันที่เราเศร้า เสียงที่เราเอาออกไปยากที่สุดก็คือเสียงที่อยู่หัวเรานี่ล่ะค่ะ เพราะฉะนั้น อย่างน้อยถ้าเราเอาเสียงลบ ๆ ออกไปไม่ได้ ก็เพิ่มเสียงบวกในสมองให้มันดังขึ้นดีกว่าไหมคะ กุ๊กรู้ว่าทุกคนมีอุปสรรคของตัวเอง แต่เราจะผ่านมันไปได้ค่ะ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook