แค่นอนก็สวยได้! เพียงปรับพฤติกรรม 6 อย่างนี้ตามคำแนะนำคนญี่ปุ่น
มีหลายคนเชื่อว่าการใช้เครื่องสำอางราคาแพง การไปหาหมอผิวหนัง หรือการทำศัลยกรรม จะช่วยคงความงามไว้ได้ แต่วิธีการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่สูง เชื่อหรือไม่ว่าเราสามารถคงความงามโดยไม่เสียเงินสักบาทได้ด้วย “การนอนหลับ” มารู้ประโยชน์ของการนอนหลับที่ดีต่อความงาม และพฤติกรรมที่ช่วยให้เรานอนหลับสนิทอย่างมีคุณภาพเพื่อคงความงามไว้ให้นานตามคำแนะนำของคนญี่ปุ่นกันค่ะ
ประโยชน์ของการนอนหลับต่อความงาม
แม้ว่าการใช้จ่ายเงินจะมีผลต่อความงาม แต่การนอนหลับให้เพียงพอก็เป็นวิธีคงความงามที่มีราคาถูกและยั่งยืนกว่า ช่วงเวลาที่ดีต่อการนอนหลับเพื่อความงามคือตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงตี 2 หากนอนหลับในช่วงเวลานี้ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาในปริมาณที่สูงกว่าช่วงอื่นของวัน
ในกรณีของเด็ก โกรทฮอร์โมนจะช่วยเพิ่มความสูงและความแข็งแรงของกระดูก ส่วนในกรณีของผู้ใหญ่จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและช่วยส่งเสริมการเผาผลาญพลังงานของผิวหนัง ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนในช่วงเวลาดังกล่าวจึงทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมผิวหนังตลอดจนสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งหากเป็นสิวก็จะทำให้สิวหายเร็วขึ้นด้วย นอกจากความงามแล้ว การนอนในช่วงเวลานี้ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วย
6 พฤติกรรมเพื่อช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ
หลายคงอาจแย้งว่ามีงานที่ต้องทำเยอะแยะทำให้ไม่สามารถเข้านอนก่อนเที่ยงคืนได้ แต่การเข้านอนเร็วและตื่นเช้ามาทำงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้ดีไม่แพ้กับการนอนดึก หากใครมีปัญหานอนไม่หลับ หลับยาก นอนหลับไม่สนิท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวขัดขวางความงามของเรา มีวิธีช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ ดังนี้
1. จัดสิ่งแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสมกับตนเอง
หลีกเลี่ยงเสียงดังรบกวนและเลือกเครื่องนอนที่ช่วยให้นอนหลับได้ดี
2. ใช้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยช่วย
กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นกระดังงา และกลิ่นคาโมมายล์ เป็นต้น จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด ทำให้จิตใจสงบ และส่งผลให้นอนหลับได้สนิท
3. อาบน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 38 องศาเซลเซียสก่อนนอน
การอาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 20 นาที ก่อนนอน 1-2 ชั่วโมง จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ทำให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายเพิ่มขึ้น และค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ทั่วร่างกาย จึงทำให้ง่วงนอนและนอนหลับได้สนิท
4. หลีกเลี่ยงแสงสีน้ำเงินก่อนนอน
แสงสีน้ำเงินจากสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์จะไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกง่วงและนอนหลับสนิท ดังนั้นควรหยุดการใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน
5. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้นอนหลับได้สนิท อย่างไรก็ตาม ไม่ควรออกกำลังกายตอนดึกหรือใกล้เวลานอนเพราะจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นและไปกระตุ้นให้สมองทำงาน ทำให้หลับยากกว่าเดิม
6. อาบแสงอาทิตย์หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า
หลังจากที่แสงอาทิตย์ผ่านเข้าตาประมาณ 14-16 ชั่วโมงร่างกายคนเราจะสร้างเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับดี และเป็นการตั้งนาฬิกาเวลาการนอนหลับตามธรรมชาติของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งสำคัญที่สาวๆ โดยเฉพาะวัย 30+ ควรใส่ใจ คือ การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพ เพื่อให้ผิวหนังมีพลังซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ การนอนหลับเป็นวิธีการที่ประหยัดและช่วยยืดความงามของผิวได้นาน ทั้งนี้เพื่อคงความงามไปนานๆ ก็ควรหมั่นรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อผิวพรรณและใช้ครีมกันแดดก่อนออกนอกบ้านด้วยค่ะ
