คุยกับ "กานต์" นางสาวไทย 2566 "ไลฟ์สไตล์-ชายในฝัน" ฝากงานรัฐบาลใหม่ช่วยแก้
"กานต์ ชนนิกานต์" นางสาวไทยป้ายแดง เผยแรงบันดาลใจ ทำให้ตัดสินใจพิสูจน์ตัวเอง จนประสบความสำเร็จสูงสุด บนเวทีประกวดความงามสุดคลาสสิค และเหตุผลที่ตัดสินใจเรียนเภสัช เผยชอบทำกิจกรรมจิตอาสา สร้างคุณค่าให้กับชีวิต แสดงทรรศนะอยากเห็นรัฐบาลใหม่ แก้ปัญหาเรื่องใดเป็นอันดับแรก
หลังจากคว้ามงกุฎ นางสาวไทย ประจำปี 2566 มาครอง กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร ติดเครื่องปฏิบัติหน้าที่นางสาวไทย ยิ้มแย้มเดินสายขอบคุณ ผู้สนับสนุนการประกวด และสื่อมวลชน นำเสนอข่าว ช่วยประชาสัมพันธ์ทำให้การประกวดได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นางสาวไทย คนล่าสุด ได้ให้สัมภาษณ์ กับทีมข่าว Sanook Women ว่า เธอมีคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ รวมทั้งขับเคลื่อนโครงการเปิดพื้นที่ให้ผู้พิการ ได้แสดงศักยภาพ ทำให้ตัดสินใจมามาเข้าร่วมประกวดนางงาม บนเวทีประกวดนางงามที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และรู้สึกดีใจที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการประกวดประจำปี พ.ศ.2566 เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด มิสเวิลด์ (ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของกองประกวด) และเป็นทูตวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
"ที่เลือกประกวดนางสาวไทยในปีนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือ ทำให้ครอบครัวมีความสุข นางสาวไทยก็เป็นความฝันหนึ่งของคุณแม่ พอโอกาสมาถึงจึงคว้าโอกาสนี้ไว้ ที่สำคัญคือกานต์มีโครงการที่ชัดเจน ทำมาตั้งแต่กานต์เด็กๆ แล้ว เป็นโครงการที่เปิดพื้นที่บกพร่องทางการได้ยิน และทางสายตา ให้เขาได้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพได้อย่างเท่าเทียม คิดว่่าเวทีนางสาวไทย มีความสำคัญทำให้เสียงของคนธรรมดาคนหนึ่งดังขึ้นมาได้"
สาวเชียงใหม่ วัย 24 ปี ศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกเหตุผล ที่เธอเลือกเรียนคณะเภสัชฯ เพราะมีความฝันมาตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อโตขึ้น อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ให้ได้มากที่สุด เภสัชฯ ไม่ได้เรียนรู้เฉพาะเรื่องยา แต่มีการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพด้วย
เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว พร้อมทำงานจิตอาสา ให้คำปรึกษาผู้คนในชนบท เรื่องการดูแลสุขภาพ และโอกาสในการเข้าถึงเรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์ของเธอ เป็นคนชอบพูดชอบให้คำแนะนำ ชอบทำกิจกรรมจิตอาสา สร้างคุณค่าให้กับชีวิต
"กานต์เป็นคนพูดเก่งมาก คือชอบพูดเยอะมากๆ จนแม่ให้ฉายาว่า วิทยุเคลื่อนที่ เพราะว่าตอนเด็กๆ ไม่กลัวใครเลย ไปพูดกับคนโน้นที่คนนี้ที อยากพูดกับทุกคน แบบพลังล้นอะไรทำนองนี้ แต่พอเราโตขึ้น การทำงาน ประสบการณ์ทำให้รู้ว่า เราจะพูดเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพูดเป็นด้วย เพราะว่าบางคนเขาก็ไม่ได้พร้อมที่จะรับสารจากเรา และกานต์ก็เป็นคนชอบทำกิจกรรมมากๆ ไปร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เพราะต้องการสร้างคุณค่าให้ชีวิตตลอดเวลา ไม่อยากให้เวลามันสูญเปล่าเลย ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย ถ้าว่างลงกิจกรรมเป็นหลักเลยค่ะ อยู่ว่างไม่ได้เลยค่ะ ต้องหากิจกรรมจิตอาสาทำเลย"
ส่วนสเปคผู้ชายในฝัน กานต์ บอกว่า ที่รูปลักษณ์ภายนอกขออย่างเดียว คือ สูงกว่าเธอ ส่วนภายใน มีจิตใจดี และมีความเป็นผู้นำ
"กานต์เป็นคนที่มีประสบการณ์ความรักน้อยมากๆ จึงอยากได้ผู้นำ ที่จะมานำในความสัมพันธ์ของเรา เพราะว่าเราทำงานมาเยอะ เราเป็นผู้นำมาเยอะแล้ว พอกลับบ้านมาเจอคนที่เรารักก็อยากได้พลัง และกำลังใจจากเขามากกว่า เป็นคนที่เปิดใจ สามารถเรียนรู้แต่ละอย่างไปพร้อมกับเราได้"
ผู้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทย ที่มีรูปแบบการประกวด "จากLocalสู่เลอค่า" ปฏิบัติหน้าเป็นทูตวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว อยากประชาสัมพันธ์ กานต์ บอกว่า เธอขอหยิบ 5 Fขึ้นมาพูด ประกอบด้วย Food Film Fashion Figthing Festival
"ประเทศไทยมีภูมิปัญญาชาวบ้านมากมาย นำเสนอออกไปสู่สายตาชาวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ แต่สิ่งที่กานค์อยากนำเสนอเป็นอยากแรก คือ แฟชั่น ผ้าไทยของเรามีความหลากหลายมาก แต่ละภาคมีความแตกต่างกัน มีมนต์เสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน และในฐานะที่เป็นนางงาม กานต์อยากสวมใส่ผ้าไทย และเป็นแฟชั่นด้วย สามารถที่จะก้าวไปสู่ระดับโลก และถ้ากานต์ได้มีโอกาสไปประกวดเวทีระดับโลก ก็อยากสวมใส่ผ้าไทยไปโชว์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า ผ้าไทยของเราสวยมากแค่ไหน มีคุณค่ามากจริงๆ แต่ละขั้นตอน ผู้ผลิตใส่ใจมากๆ และบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทยมากด้วย เพราะฉะนั้นจึงอยากส่งเสริมจุดนี้อย่างเต็มที่"
"ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ในฐานะที่เป็นคนเชียงใหม่ อยากนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเกิดของกานต์เอง นั่นคือ อำเภอสันกำแพง ที่นี่มีน้ำพุร้อนสันกำแพง ครอบครัวไปทำกิจกรรมร่วมกันได้ มีศิลปวัฒนธรรมสวยงามมากมาย อาทิ ร่มบ่อสร้าง ของดีสันกำแพงเลย ในการประกวดปีนี้ได้มีโอกาสไปเก็บตัวที่ จังหวัดพัทลุงประทับใจการแสดงมโนราห์ ศิลปการแสดงปักษ์ใต้มากๆ เพราะมโนราห์มีความสวยงามๆ ทั้งการแต่งกาย ท่ารำ เป็นนาฏศิลป์ไทยที่คนไทยควรมีความภูมิใจมากๆ ที่สำคัญยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรม จากยูเนสโก ทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือศิลปวัฒนธรรมที่เราควรส่งต่อไปให้ถึงระดับสากล ด้วยการนำไปแสดงในการประชุมระดับนานาชาติ หรือนำไปแสดงประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการรับรู้ของคนทั่วทุกภูมิภาคของโลก"
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาฯ กกต. ได้ประกาศวันเลือกตั้ง 2566 แล้ว ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ส่วนวันลงคะแนนล่วงหน้า 7 พ.ค.66
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นางสาวไทย ประจำปี 2566 แสดงทรรศนะทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และสุขภาพ อยากเห็นรัฐบาลใหม่แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศอยากจริงจัง เพราะภาวะของอากาศที่มีมลพิษทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ อนามัยของมนุษย์ ส่วนตัวคิดว่า ปัญหานี้ควรมีการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ไม่น้อยไปกว่าปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาคอรัปชั่น
"กานต์อยากส่งเสริมให้แก้ปัญหามลพิษ ฝุ่น pm 2.5 เพราะว่า มันเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ที่น่ากังวลมาก ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สิ่งที่กานต์มอง คือ ความสำคัญของคน สิ่งที่ตามมาเมื่อมีปัญหาสุขภาพ เราไม่สามารถพัฒนาอะไรได้เลย ถ้าเกิดว่าคนเรายังไม่พร้อม การแก้ไขปัญหามีหลากหลายทางมาก ทั้งเชิงรุก และก็เชิงรับค่ะ เชิงรุกเราต้องพุ่งเช้าไปที่ปัญหาเลยว่า ใครเป็นคนที่ทำให้เกิดบ้าง อย่างที่เชียงใหม่บนดอยมีคนที่เผาป่ากันเยอะมาก เราไปหันความรู้มันก็ลดลง"
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ