นักกำหนดอาหารญี่ปุ่นแนะนำ! ทานโยเกิร์ตอะโวคาโดเพื่อสุขภาพและอายุที่ยืนยาว

คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน เพราะตระหนักดีว่าแลคติกแอซิดแบคทีเรียที่มีมากในโยเกิร์ตจะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีของลำไส้ ที่ซึ่งเป็นแหล่งสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายถึงร้อยละ 70 และเพื่อประโยชน์ที่นอกเหนือจากการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย นักกำหนดอาหารชาวญี่ปุ่นแนะนำให้คนญี่ปุ่นรับประทานโยเกิร์ตกับอะโวคาโดเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและช่วยยืดอายุให้ยืนยาวขึ้น มารู้ประโยชน์ของโยเกิร์ตและเหตุผลที่ควรรับประทานอะโวคาโดกับโยเกิร์ตกันค่ะ

คุณค่าสารอาหารของโยเกิร์ต

โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมหมักที่โปรตีนในนมถูกย่อยให้อยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมได้ง่าย อีกทั้งโยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน ในระหว่างการหมักแลคติกแอซิดแบคทีเรียเปลี่ยนแลคโตสให้เป็นกรดแลคติก ซึ่งจะไปจับกับแคลเซียมกลายเป็นแคลเซียมแลคเตต  (Calcium lactate) รูปแบบของแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าแคลเซียม นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1 และบี 2 ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างสภาพที่ดีของร่างกาย

ทำไมนักกำหนดอาหารชาวญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานอะโวคาโดพร้อมกับโยเกิร์ต

ปัจจุบันนี้ผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นจำนวนมากมีกลุ่มอาการโลโคโมทีฟ (Locomotive syndrome) ซึ่งเป็นภาวะความบกพร่องในการเคลื่อนไหว ได้แก่ การยืน เดิน วิ่ง นั่ง ที่เป็นอุปสรรคกับสมรรถภาพทางกาย กลุ่มอาการนี้เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ โดยสาเหตุสำคัญของกลุ่มอาการนี้เกิดจากภาวะกระดูกพรุน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความจำเป็นในการดูแลระยะยาวและอาจส่งผลให้อายุขัยของผู้สูงอายุสั้นลง เพื่อป้องกันกลุ่มอาการโลโคโมทีฟ นักกำหนดอาหารชาวญี่ปุ่นจึงแนะนำให้เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อตั้งแต่ตอนที่คนเรายังมีสุขภาพที่แข็งแรง

แม้ว่าโยเกิร์ตจะอุดมไปด้วยแคลเซียม แต่ร่างกายคนเราต้องการวิตามินเคและแมกนีเซียมเพื่อช่วยดูดซึมแคลเซียมให้มาสะสมในกระดูกได้ดีขึ้น อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเคและแมกนีเซียม การรับประทานโยเกิร์ตกับอะโวคาโดจะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้

วิธีการรับประทานโยเกิร์ตกับอะโวคาโด

คนจำนวนมากอาจไม่คุ้นเคยกับการรับประทานโยเกิร์ตกับอะโวคาโด แต่มีวิธีการที่จะทำให้ทานอะโวคาโดกับโยเกิร์ตให้อร่อยขึ้น นั่นคือดัดแปลงให้โยเกิร์ตเป็นน้ำสลัดโดยการเติมเกลือและน้ำมันมะกอกเข้าไปเล็กน้อย จากนั้นจึงนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากับอะโวคาโดที่หั่นไว้เป็นชิ้นพอดีคำ ทั้งนี้ก็สามารถนำอะโวคาโดมาบดผสมกับโยเกิร์ตและเกลือเล็กน้อยเพื่อใช้ทาขนมปังรับประทานเป็นอาหารเช้า แต่หากไม่ชอบประทานรวมกันก็ให้แยกรับประทานได้ตามชอบในมื้ออาหารเดียวกันก็ได้

อะโวคาโดและโยเกิร์ตเป็นอาหารที่หาซื้อได้ง่ายในเมืองไทยและมีราคาสมเหตุสมผล หากคำนึงถึงความแข็งแรงของกระดูกและฟันรวมถึงต้องการป้องกันโรคกระดูกพรุน ลองเพิ่มทางเลือกการจับคู่อะโวคาโดและโยเกิร์ตเข้ามาในเมนูอาหารประจำวันดูค่ะ