รวม 7 ทริค "แต่งหน้ากันน้ำ/กันเหงื่อ" เล่นสงกรานต์หรือลงทะเลก็มีไม่หวั่น

ฮัลโหล ๆ สวัสดีค่าชาวซิส ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงเมษาแล้วจ้า~ แค่ได้ยินชื่อเดือนก็ถึงกับปาดเหงื่อเลยใช่มะ? เพราะว่ามันเข้าสู่ "หน้าร้อน" แล้วนั่นเอง ร้อนเหมือนร่างจะละลายขนาดนี้แน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็เลยเลือกที่จะไปเที่ยวที่ ๆ มีน้ำ ไม่ว่าจะทะเล เขื่อน แก่ง น้ำตก หรือแม้กระทั่งเทศกาลที่เล่นน้ำอย่าง "สงกรานต์" อย่างน้อยมันก็ช่วยดับร้อนอะเนอะ แต่จะไปเล่นน้ำใด ๆ แบบหน้าสด บางคนก็อาจจะไม่มั่นใจเท่าไหร่ ถ้าแต่งหน้าก็กลัวเครื่องสำอางจะไหลไปกับน้ำอีก งั้นเรามาหาทางแก้ด้วย 7 ทริคแต่งหน้ากันน้ำ กันเหงื่อเล่นน้ำสงกรานต์ น้ำทะเล น้ำตกกันเลยดีกว่า รับรองว่าทำตามนี้เครื่องสำอางบนหน้าหลุดน้อยม้ากก ใครอยากสวยเช้งแม้ตัวเปียกก็มาส่อง 7 ทริคนี้กันเล้ย!
 

7 ทริค "แต่งหน้ากันน้ำ/กันเหงื่อ" เล่นสงกรานต์หรือลงทะเลก็ไม่มีหวั่น
 
 
1. ทาครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว


ก่อนจะไปเริ่มแต่งหน้าหลาย ๆ คนมักจะหลงลืมการบำรุงผิวไปค่ะ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่ายใด ๆ ก็ตาม ต้องบำรุงเสมอนะคะ ซึ่งสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้เลยคือมอยส์เจอไรเซอร์นั่นเอง เติมความชุ่มชื้นให้ผิวไว้ก่อนเลย มันจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ใครผิวมันก็เลือกสูตรที่บางเบาหน่อย ส่วนใครผิวแห้งก็ใช้เนื้อเข้มข้น ๆ หน่อยเนอะจะได้ผิวฉ่ำ ๆ พร้อมเจอกับแดดและมลภาวะต่าง ๆ รวมไปถึงน้ำด้วย หรือใครขี้เกียจคิดก็มาสก์หน้าสูตรเติมความชุ่มชื้นก็ได้นะเออ นอนมาสก์รอไปเลยชิลล์ ๆ :-D
 

2. อย่าลืมทากันแดดด้วยนะ


ทาสกินแคร์เสร็จก็รอให้แห้งแล้วทาครีมกันแดดต่อได้เลยจ้า แน่นอนว่าต้องใช้ 2 ข้อนิ้วตามสูตรนะคะ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเยอะไป แนะนำว่าให้แบ่งการทาออกเป็น 2 รอบค่ะ คือรอบละ 1 ข้อนิ้ว เกลี่ยให้ทั่วหน้าเลยเสร็จแล้วก็ทาคอ ทาแขน ทาขาให้เรียบร้อย เหมือนจะเสร็จแล้วใช่ไหมคะ? แต่! มีทริคเด็ดสำหรับคนหน้ามันมาฝากจ้า คนหน้ามันมักจะเจอปัญหาหน้าเยิ้มเพราะกันแดดมีความมันใช่มะ แนะนำว่าให้เอาแปรงแตะแป้งฝุ่นโปร่งแสงเบา ๆ หลังจากนั้นเอาไปวนที่ฝาตลับ แล้วค่อยแตะ ๆ ลงบนผิว เอาให้มันดูแมตต์ขึ้นนิดหน่อย หลังจากนั้นค่อยเข้าสู่การแต่งหน้าอื่น ๆ ต่อได้เลยหรือใครจะฉีดสเปรย์น้ำแร่/เซ็ตติ้งสเปรย์ก่อนจะแต่งหน้าก็ได้เหมือนกันค่า ทำแบบนี้แล้วเมคอัพติดทนมากขึ้นแน่น้อน!
 

3. เครื่องสำอางต้องเคลมว่ากันน้ำ กันเหงื่อ ( Waterproof )


ต่อที่เครื่องสำอางกันเลยจ้า ก่อนแต่งหน้าเราก็ต้องคำนึงถึงเครื่องสำอางด้วยว่าเป็นยังไง ซึ่งถ้าจะไปเล่นน้ำก็ต้องมีเครื่องสำอางกันน้ำเลยค่ะ ไม่ว่าจะงานรองพื้น งานแป้ง งานบลัชออน งานลิปสติก งานมาสคาร่า งานอายไลเนอร์และงานคิ้วควรจะเป็นสูตรกันน้ำหรือ Waterproof ทั้งหมด ไม่งั้นเวลาไปเจอน้ำทะเล น้ำตก หรือน้ำที่เขาสาดกันแรง ๆ รับรองเลยค่ะว่าหลุดแน่นอน ดังนั้นควรเลือกตัวที่กันน้ำไว้ก่อนเลยนะคะ นอกจากเขาจะกันน้ำแล้วก็ช่วยกันเหงื่อด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเครื่องสำอางเซ็ตนี้ถ้าใครซื้อก็คือใช้ต่อในช่วงหน้าร้อนได้สบาย ๆ เลยค่ะ กันน้ำ กันเหงื่อ บางตัวคุมมันไปอีก เลิศไม่ไหวเธ้ออ~
 

4. เครื่องสำอางต้องเน้นเนื้อครีมหรือน้ำ


นอกเหนือจากการกันน้ำ กันเหงื่อแล้วนั้น เราก็ควรจะเลือกใช้เครื่องสำอางที่เป็นเนื้อครีมหรือเนื้อที่มีความเหลวสักหน่อย หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเอ๊ะมันจะไม่ไหลมากองที่คางจริงเหรอ ตอบให้เลยว่าถ้าเลือกสูตรกันน้ำมายังไงก็ไม่ไหลแน่นอนค่ะ เพราะถ้ามันโดนน้ำมันจะขึ้นเห็นเป็นหยดน้ำแล้วไหลไปเฉย ๆ เลย ฟีลคล้าย ๆ เทน้ำลงบนพลาสติกเลยค่ะ ไม่ซึม ไม่ผสมรวมแน่นอน ส่วนอะไรที่เป็นแบบฝุ่นส่วนมากจะไม่ค่อยกันน้ำเท่าไหร่นะคะ ดังนั้นเลยอยากแนะนำให้ทุกคนซื้อเป็นเนื้อครีม/น้ำหน่อยจะดีกว่า ไม่ว่าจะรองพื้น คอนซีลเลอร์ คอนทัวร์ ไฮไลต์ ที่เขียนคิ้วหรือบลัชออนก็ควรจะเป็นเนื้อครีม/น้ำทั้งหมด เวลาลงก็รอให้เซ็ตตัวดีก่อนค่อยลงตัวต่อไปทับด้วยนะคะ ไม่งั้นมันจะติดมือขึ้นมาแล้วทำให้หน้าเรามีจุดแหว่ง ๆ ไปด้วยเน้อ
 

5. แต่งเบา ๆ ก็พอไม่ต้องจัดเต็มมากไป


ได้เครื่องสำอางแบบที่ต้องการแล้วก็แต่งหน้ากันเลยจ้า แนะนำว่าไม่ต้องแต่งหนักจัดเต็มมากนะคะเพราะว่าการลงแบบหน้าแน่นจัดเต็มบางครั้งเจอนั่นนี่ก็อาจจะทำให้เครื่องสำอางหลุดได้ง่ายมากกว่าด้วย เช่น รองพื้น บางคนเห็นว่าต้องไปเจอน้ำทะเล น้ำสงกรานต์ก็โบกไปเลย 2 - 3 ชั้นอะไรแบบนี้ มันก็อาจจะเสี่ยงหลุดได้ง่ายนะคะเพราะว่ามันอาจจะไม่แนบผิวได้ดีพอ แนะนำว่าให้ลงบาง ๆ แล้วอยากปกปิดจุดไหนก็ค่อยลงเพิ่มไปตามจุดก็พอหรือใช้คอนซีลเลอร์ช่วยก็ได้นะคะ งานผิวจะได้ไม่หนาเกินไป ส่วนงานแก้ม กรอบหน้าและคิ้วต่าง ๆ แนะนำว่าค่อย ๆ ลงนะคะ เบามือเข้าไว้ แตะทีละนิดละหน่อยก็พอ แต่ถ้าอายไลเนอร์กับมาสคาร่าก็จัดเต็มไปตามปกติเลยค่ะ อ้อ! แต่แนะนำนิดนึงว่าไม่ติดขนตาปลอมจะดีกว่านะคะ โอกาสเจอน้ำสาดแรง ๆ อาจจะหลุดได้ แล้วเมคอัพจะดูแหว่ง ๆ ด้วย
 

6. ลิปสติกต้องเน้นเนื้อแมตต์ไว้ก่อน


เมคอัพยังไม่จบจ้า ใครงบน้อยอยากให้ลองหันมาใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์หรือกึ่งแมตต์กันดูนะคะเพราะมันติดทนม้ากกก จริง ๆ ลิปสติก 1 แท่งคือแต่งได้ทั้งตา แก้ม ปากเลย แต่งานแก้มกับตาอาจจะต้องเบามือและรีบเกลี่ยนิดนึง เนื่องจากลิปแมตต์มันแห้งไวมาก ๆ อาจจะเกลี่ยยากหน่อย และเมื่อลงเสร็จทั้งหมดแล้ว ก็เอาแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่กันน้ำ กันเหงื่อมาเซ็ตเมคอัพทั้งหมดค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะแป้งฝุ่นนี่แหละ คืองานครีม ๆ ถ้าไม่ใช้แป้งที่แห้งล็อคเมคอัพเลยมันก็อาจจะหลุดได้ง่ายมากกว่า พูดง่าย ๆ ให้เห็นภาพ เหมือนเมคอัพเราเป็นไข่ไก่ แล้วเราก็เอาแป้งใส่ลงไป จากไข่ที่เคยเหลวก็เริ่มจะจับตัวกับแป้งแล้วก็เปลี่ยนเป็นของแข็งใช่ม้า? เมคอัพเราก็คล้าย ๆ กันเลยค่ะ อยากให้มันเซ็ตตัวแบบแน่น ๆ ขึ้นก็ใช้แป้งช่วยแค่นั้นเอง เท่านี้งานเมคอัพของเราก็เรียบร้อยแล้ว แต่! ยังมีอีกทริคดี ๆ ที่จะช่วยให้เมคอัพแน่นขึ้น หลุดยากมากขึ้นอยู่ในข้อต่อไป ใครอยากรู้แล้วก็ลงมาดูโลดจ้า~

7. ใช้เซ็ตติ้งสเปรย์หรือสเปรย์น้ำแร่ปิดท้าย


ปิดท้ายการแต่งหน้าก็อยากแนะนำว่าให้ทุกคนใช้สเปรย์น้ำแร่หรือเซ็ตติ้งสเปรย์ฉีดปิดท้ายสักหน่อย ที่แนะนำแบบนี้ก็เพราะว่า 2 สิ่งนี้จะช่วยให้เครื่องสำอางบนหน้าเราติดทนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเซ็ตติ้งสเปรย์ (Setting Spray) ที่เขาออกแบบมาช่วยคุมมัน ล็อคเมคอัพต่าง ๆ ตัวนี้คือเด็ดดวงเลยค่ะ มีหลายสูตรมาก ๆ แต่ทุกสูตรจะช่วยให้เมคอัพบนหน้าเราติดทนมากยิ่งขึ้น วิธีใช้ก็คือเขย่าและฉีดลงบนหน้า ถือขวดสเปรย์ให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 1 ไม้บรรทัดหรือ 30 เซนติเมตร หลังจากนั้นก็รอให้แห้งดี แค่นี้ก็พร้อมออกไปเล่นน้ำได้แบบสนุกสนานไม่ต้องห่วงเมคอัพแล้วละค่า

 
ได้ทริคเด็ด 7 ข้อในการแต่งหน้าเพื่อกันน้ำ กันเหงื่อกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็หวังว่าจะช่วยให้ชาวซิสแต่งหน้าไปเล่นน้ำได้อย่างสบายใจมากขึ้นน้า ทริคพวกนี้ไม่ได้ทำตามยากเลยค่ะ แค่อาจจะต้องมีไอเทมที่ช่วยเรื่องกันน้ำสักหน่อย ไม่งั้นมันอาจจะไหลไปกองรวมกันได้ แต่เดี๋ยวนี้เครื่องสำอางส่วนใหญ่ก็สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ประมาณนึงแล้วนะคะ ถ้าใครไม่ชัวร์จะลองเช็คตรงขวดหรือคำเคลมเขาก็ได้ว่ามีคำว่า " กันน้ำ / Waterproof " รึเปล่า ถ้าตัวไหนมีก็มั่นใจได้เลยว่ากันน้ำกันเหงื่อได้แน่นอนเลย แต่! ถ้าใช้เครื่องสำอางกันน้ำก็ต้องเลือกคลีนซิ่ง/เคล็นซิ่ง (Cleansing) เพื่อช่วยให้ล้างเมคอัพได้หมดจดยิ่งขึ้นด้วยน้า ล้างไม่สะอาดสิวขึ้นหน้าแล้วจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะจ๊ะ~ ส่วนตอนนี้ก็หมดเวลาของเราแล้วค่า กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้า จะมีเรื่องราวอะไรดี ๆ มาฝากก็กดติดตามกันไว้ได้เลยนะคะ บ๊ายบาย :-D