"หยา จรรยา" ทาสในละครบุพเพสันนิวาส เล่าเรื่องชีวิตทาส (แมว) ของตัวเอง

อีกหนึ่งนักแสดงรุ่นเก๋าที่เรายังคงได้เห็นผลงานของเธออยู่เสมอนั่นคือ "หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล" หรือใครต่างเรียกเธอว่า "พี่ผิน" ซึ่งก็คือบทบาทของเธอจากละครสุดโด่งดังสร้างประวัติศาสตร์ "บุพเพสันนิวาส" ทุกวันนี้พี่หยายังคงมีผลงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับซีรีส์ ภารกิจ(ลับ)ฉบับแฟนด้อม ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์ 20:00 น. ทาง TrueID

นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้วหลายคนที่ติดตามอินสตาแกรมของพี่หยาจะรู้ว่าเธอรักแมว เป็นทาสแมวตัวจริง แม้จะเริ่มต้นการเป็นทาสแบบไม่ได้ตั้งใจแต่วันนี้ก็เป็นเวลาร่วม 10 ปีแล้วที่เธอใช้ชีวิตอีกพาร์ทหนึ่งอยู่กับแมว ที่ค่อยๆ เพิ่มจำนวนมาเรื่อยๆ ลองมาฟังชีวิตจริงของทาสแมวจากปากพี่หยา จรรยากัน

เริ่มต้นจากไม่อยากเลี้ยง

จุดเริ่มต้นการเลี้ยงแมวของพี่หยาคงไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปนั่นคือ "ความไม่ตั้งใจ" แต่สำหรับพี่หยานั้นมาจากเหตุผลของการไม่อยากจากลา เพราะเคยเลี้ยงสุนัขแล้วพอตาย ตนเองรู้สึกเศร้า

"หลังตัดสินใจมาอยู่คอนโดคิดว่าจะไม่เลี้ยงอะไรแล้ว แต่คอนโดอยู่ชั้นล่าง มีสวน เราตั้งเครื่องซักผ้าไว้และมีหลังคา เห็นแมวท้องเดินผ่าน ก็เลยแค่เอาอาหารแมวใส่ชามไว้ให้ คิดแค่ว่าให้เขาอิ่มท้องเป็นการทำบุญ แต่วันหนึ่งท้องเค้าแฟบ เลยคิดว่าเขาคงคลอดไปแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร จนต่อมารู้ว่าเขาคลอดลูกทิ้งไว้ คนเจอก็จะเอาไปทิ้ง เลยเอาไว้ที่ห้องก่อน แต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยหาพื้นที่ให้พวกเขา ระหว่างนั้นก็พาแม่แมวไปทำหมัน หาบ้านให้เหล่าลูกแมว ปรากฎว่าต่อมาแม่แมวคาบลูกหายไป ตอนแรกคิดว่าคงทำบุญกันไว้แค่นั้น แต่ก็มาเจอลูกแมว 2 ตัวในตะกร้าหน้าห้องอีกชั้นหนึ่ง ส่วนแม่แมวถูกขังไว้ เราก็ไปช่วยให้แม่แมวได้เจอกับลูกแมว แล้วคุยกับแม่แมวให้ตามลูกกลับมาให้ครบ สุดท้ายเขาก็พาลูกมาจนครบ เมื่อหาบ้านให้ลูกแมวจนครบแล้ว ส่วนแม่แมวสภาพเยินมาก และนี่คือตัวแรกที่เรารับเขาเข้ามาอยู่ด้วย"

โรคแมวงอก

เข้าใจว่าบรรดาทาสแมวจำนวนไม่น้อยเข้าใจคำว่า "โรคแมวงอก" มีตัวแรกแล้วย่อมมีตัวถัดๆ ไปแบบไม่ได้ตั้งใจ และพี่หยาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

"หลังจากมีแมวตัวแรกแล้ว ภายในเวลา 1 ปี แมวตัวที่ 2 และตัวที่ 3 ก็เข้ามาในชีวิต โดยทั้งสองตัวเป็นแมวที่มาจากที่เดียวกัน ตอนนั้นคิดว่าคงพอแค่นี้ แต่พอผ่านไป 5 ปี มีแมวมาเคาะประตูห้อง ตอนแรกคิดว่าแมวตัวเอง แต่กลับไม่ใช่ คิดว่าเป็นแมวที่ถูกคนเช่าทิ้งไว้ เป็นแมวท้องแก่ที่สุดท้ายเขาไปคลอดลูกที่ร้านชำของคอนโด พอเขาคลอดลูกเสร็จเราก็ทำแบบเดิมคือเอาแม่ไปทำหมัน หาบ้านให้ลูกแมว แต่กลับเหลือ 1 ตัวที่เป็นตัวเมียและกระดำกระด่างไม่มีคนสนใจ จึงกลายเป็นแมวตัวที่ 4 ซึ่งเป็นเหตุผลให้รีโนเวทห้อง สร้างห้องแมวจริงจังในพื้นที่ห้องตัวเอง มีเมทัลชีทกันความร้อน มีระบบ WiFi เชื่อมต่อพัดลม มีส้วมแมว ทำทุกอย่างเหมือนโรงแรมแมว และคิดว่าจะจบแค่นี้ ระหว่างนั้นก็มีแมวแวะเวียนมาเรื่อยๆ กระทั่งวันลอยกระทงปี 2564 ก็ได้แมวมาเพิ่มอีกหนึ่งตัว จนตอนนี้กลายเป็นมีแมวทั้งหมด 5 ตัว

รักที่ไม่มีเงื่อนไขจากใจทาสแมว

แมวทั้ง 5 ตัวของพี่หยานิสัยแตกต่างกัน ซึ่งก็เป็นเสมือนการเติมสีสันให้ชีวิตของเธอ โดยพี่หยาบอกว่าการเลี้ยงแมวมันให้ความรู้สึกเหมือนมีเพื่อนอยู่ในบ้าน

"มันทำให้เรารู้สึกไม่โดดเดี่ยว ทำให้สมองคิดตลอดเวลา สิ่งที่เรามอบให้แมวเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการอะไรกลับมา มันเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ถ้าวันหนึ่งเขาต้องหายจากเราไป เราว่าเราได้ดูแลเขาอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ให้ความรัก ทำหมัน แม้วันนึงเขาจะหลุดไปเป็นแมวจรในระบบเขาก็จะไม่สร้างปัญหาแมวจร ที่จะทำให้เกิดแมวจรขึ้นมาอีก เรารับผิดชอบในส่วนที่เราทำให้ดีที่สุด นี่คือความตั้งใจที่จะให้ ความรักที่มีให้กับแมว กับครอบครัวคืออันดับ 1 อยู่แล้ว เราเลือกที่จะเอาเขาเข้ามาเราก็ต้องทำหน้าทีให้ดีที่สุด"