รู้จักโรคฮีทสโตรก สาเหตุ อาการ และวิธีป้องกันก่อนสาย

ในช่วงนี้โรคฮีทสโตรก ถือเป็นโรคที่ถูกพูดถึงกันบ่อยๆ เนื่องจากเป็นโรคที่ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจึงอยากชวนสาวๆ มาทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคฮีทสโตรก รวมถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันของโรคชนิดนี้กันค่ะ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถปกป้องตัวเองจากการเป็นโรคชนิดนี้ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนกันได้

โรคฮีทสโตรก คืออะไร
โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือ โรคลมแดด เป็นภาวะวิกฤติที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ จึงทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด ชัก เพ้อ หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก และไม่รู้สึกตัว หากปล่อยไว้ให้มีอาการดังกล่าว หรือร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้มากกว่า 2 ชั่วโมง จะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ และหากได้รับการรักษาที่ล่าช้าก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคฮีทสโตรก
ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคฮีทสโตรก เกิดจากการที่ร่างกายมีความร้อนสูงเกินไป และมักจะเกิดเมื่อร่างกายเผชิญกับอากาศร้อนจัด รวมทั้งทำงานหรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง โดยทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงถึง 40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า บวกกับร่างกายปรับตัวไม่ทัน ตลอดจนทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนและส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตได้

อาการของโรคฮีทสโตรก
สำหรับอาการของโรคฮีทสโตรกนั้น สาวๆ สามารถสังเกตได้จากอาการดังนี้

1.มีอาการกระหายน้ำ

2.ปวดหัว วิงเวียนศีรษะ

3.หน้ามืด

4.ตัวร้อน

5.หัวใจเต้นเร็วและใจสั่น

6.ในบางรายจะมีอาการช็อกจนหมดสติ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคฮีทสโตรก

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคฮีทสโตรก สาวๆ สามารถปฏิบัติตัวได้ดังนี้

1.ดื่มน้ำสะอาดประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน โดยหมั่นจิบน้ำเรื่อยๆ

2.สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนและสามารถระบายอากาศร้อนได้ดี

3.หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน

4.ไม่ควรออกกำลังกายในสถานที่กลางแจ้งที่มีแดดจัด

5.ควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก

6.ห้ามอยู่ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานโดยที่อากาศไม่ถ่ายเท เนื่องจากความร้อนภายในรถจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฮีทสโตรกสูงมาก

7.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

สำหรับสาวๆ ที่รู้ว่าร่างกายไม่สามารถสู้กับอากาศร้อนได้มากเท่าไร แนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด และควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะอาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคฮีทสโตรกได้