เช็คลิสต์ 4 ข้อที่คุณต้องรู้! ตั้งงบก่อนแต่งยังไง ไม่ให้บานปลาย
ยุคที่เศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจที่จะทำอะไรใหญ่โต โดยเฉพาะการจัดงานแต่งงานที่ต้องวางแผนเรื่องการเงินให้ดี เพราะส่วนใหญ่แล้วทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวก็ล้วนเป็นมือใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์จัดงานแต่งงานมาก่อน ก็อาจไม่ทราบงบประมาณที่เหมาะสมว่าควรทำอย่างไรให้ได้งานที่ดีพอ และคุ้มค่า ไม่เบียดเบียนแบบต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อจัดงานแล้วมานั่งใช้หนี้กันเอาภายหลัง ดังนั้นนี่คือลิสต์ที่สาว ๆ ควรอ่าน เพื่อวางแผนการแต่งงานให้ได้ดั่งใจ ในงบที่ตั้งไว้
1.ตั้งงบให้อยู่บนความเป็นไปได้
อย่าฝันใหญ่จนจะทำให้การแต่งงานกลายเป็นความทุกข์ งบแต่งงานเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเริ่มวางแผนล่วงหน้าเป็นอันดับแรก เพื่อคุมค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในงาน ไม่ให้เกิดบานปลาย ซึ่งการวางแผนที่ดีอาจจะเริ่มต้นกันเป็นปี ๆ เพื่อเก็บเงินรายเดือนได้ถูกว่าจะต้องแบ่งเก็บเอาไว้เท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ หรือหากคุณมีเงินเก็บอยู่มาก ก็ลองพิจารณาดูว่างบที่เรามีนั้นเพียงพอกับความคาดหวังของคุณและแฟนหนุ่มรวมทั้งครอบครัวของทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า ถ้าหากเกินก็ต้องพูดคุย ตัดงบส่วนไม่จำเป็นออกไปก่อน
2.ทำบัญชีเงินเก็บเพื่อแต่งงานขึ้นมาเลย
แยกบัญชีงบสำหรับใช้เพื่อการแต่งงานออกมาไว้เลย หลังจากที่คุณตั้งงบการแต่งงานได้แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความงุนงงในการใช้จ่าย แบ่งจัดสรรเงินได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามแผน ส่วนฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายจะช่วยกันเก็บแบบไหน ก็ต้องคุยกันให้ลงตัวด้วย จะได้ไม่เกิดเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง
3.มองหาคอนเนคชั่นที่อยู่รอบ ๆ ตัว
ถ้าคุณเป็นคนมีเพื่อนเยอะ มีคอนเนคชั่นมาก คุณสามารถที่จะเข้าไปพูดคุยเพื่อขอต่อรองราคาได้บ้าง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย อย่างบางคนที่มีเพื่อนเยอะ พวกเขาอาจจะช่วยแบ่งเบา ขอช่วยทำหน้าที่ต่าง ๆ ให้แบบไม่ต้องไปจ้างออแกไนเซอร์ ก็เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนั้นไปได้
4.อย่าน้อยใจว่างานของคุณเล็กกว่าคนอื่น
เมื่อมีงบจำกัด ก็ต้องเข้าใจด้วยว่างานของคุณอาจเชิญแขกได้ไม่มาก อย่ารู้สึกน้อยใจถ้างานของคุณไม่ได้ใหญ่โตเหมือนคนอื่น ๆ ที่รู้จัก เพราะความรักไม่ได้เกิดจากการจัดงาน แต่เกิดจากความประทับใจภายในงานที่คุณจะกลายเป็นเจ้าสาวแสนสวยสำหรับแฟนหนุ่มในอนาคต อย่าให้เงินเป็นตัวชี้วัดความรัก เพราะหลาย ๆ คู่ต้องหย่าร้างเพราะปัญหาหนี้สินที่ต้องเอามาใช้จัดงานแต่งจนแบบเกินงบมานักต่อนักแล้ว
การเงินที่ใช้สำหรับงานแต่งงานที่ดีนั้นไม่ควรมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตหลังแต่งงานอย่างเด็ดขาด เพราะการแต่งงานเป็นการบอกว่าคุณและคนรักจะเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข ดังนั้นควรมีเงินเหลือเอาไว้สร้างความสุขให้กันและกันในช่วงเวลาหลังจากนั้นด้วยจะดีกว่าค่ะ