ปารีสสะเทือน "แองจี้ แอนเจลิส” ดีไซน์เนอร์ไทยได้รับเชิญจาก "แอนนา วินทัวร์" ร่วมชมแฟชั่นโชว์

ยังคงเดินหน้าสร้างความประทับใจให้กับวงการแฟชั่นไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก”  ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ลักซ์ชัวรี่สวิมแวร์ “เอบี. แอนเจลิส บาเลก” (AB. Angelys Balek) หญิงสาวที่ประสบความสำเร็จและพาแบรนด์โลดแล่นอยู่บนเวทีแฟชั่นระดับโลกมากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ, อิตาลี, ปารีส, แคนาดา, ดูไบ, ตะวันออกกลาง, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, สหราชอาณาจักร (UK), สหรัฐอเมริกา และการันตีโดยเหล่าคนดังระดับโลกอย่าง นาโอมิ แคมป์เบลล์, ฮัลลี เบอร์รี, คริสซี่ ไทเก้น, เบเบ้ เร็กซา, ปารีส ฮิลตัน, นิกกี้ ฮิลตัน, แอนนา เดลโล รุสโซ่ และเหล่านางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต รวมไปถึงศิลปินสาวมากความสามารถชาวไทยอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, โบกี้ ไลอ้อน, ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส, แมท-ภีรนีย์ คงไทย และอีกมากมาย ที่ล้วนให้การยอมรับในงานดีไซน์ระดับอินเตอร์ของดีไซน์เนอร์สาว แต่นอกจากจะได้การยอมรับจากเหล่าคนดังแล้ว อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเธอคือการได้เข้าร่วมสมาคมนักออกแบบแฟชั่นแห่งอเมริกา (Council of Fashion Designers of America) และได้อวดโฉมผลงานการดีไซน์บนพรมแดง CFDA Fashion Awards หรืองานประกาศรางวัลที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลออสการ์แห่งวงการแฟชั่นเลยก็ว่าได้

โดยล่าสุด “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก” ได้สั่นสะเทือนวงการแฟชั่นไทยอีกครั้ง ด้วยการบินลัดฟ้าเดินทางไปร่วมชมโชว์ “Paris Fashion Week 2023” ในฐานะสมาชิก “Vogue100” ดีไซน์เนอร์ไทยหนึ่งเดียวที่ได้รับเชิญจาก “แอนนา วินทัวร์” (Anna Wintour) ซึ่งโชว์ที่เธอเลือกรับชมในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ IRIS VAN HERPEN - HAUTE COUTURE SHOW AUTUMN/WINTER 2023/24, GIAMBATTISTA VALLI HAUTE COUTURE SHOW, ALEXANDRE VAUTHIER SPRING 2023 COUTURE SHOW และ GAURAV GUPTA COUTURE AW24  โดย “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก” ได้แชร์ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของการไปชมโชว์ครั้งนี้ว่า

“ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เดินทางไปชมแฟชั่นโชว์ในฐานะสมาชิก Vogue100 ซึ่งก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเช่นเคยที่จะได้ไปเห็นโชว์ดีๆ จากแบรนด์ระดับโลก เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ และดูว่าแบรนด์ชั้นนำเขามีวิธีการทำงานกันยังไง อย่างแบรนด์ IRIS VAN HERPEN จะเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นด้านงานเลเซอร์คัท งานจีโอกราฟฟิก การทำรองเท้าจากเครื่อง 3D สแกน เน้นดีไซน์แบบอาวองการ์ด เหมาะสำหรับการใส่ไปเดินพรมแดง ต่อมาแบรนด์ GIAMBATTISTA VALLI เป็นแบรนด์ที่มีความสง่าวามเหมือนเจ้าหญิง เหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยาย จะโดดเด่นเรื่องการใช้สี เทคนิคการจับเดรป ส่วน ALEXANDRE VAUTHIER เป็นแบรนด์ที่เห็นมาหลายซีซั่นแล้ว รอบนี้ดีไซน์จะค่อนข้างเปรี้ยว เซ็กซี่ แต่สตรอง ใช้ผ้าหนังแก้ว ผ้าเมทัลลิค อารมณ์ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจ แบรนด์สุดท้าย GAURAV GUPTA COUTURE เป็นครั้งแรกของการชมแบรนด์อินเดีย แบรนด์นี้คนเลือกใส่ไปเดินพรมแดงเยอะเป็นแบรนด์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีมาก ดีไซน์มีความโมเดิร์น แต่ใส่ใจเรื่องงานปัก งานฝีมือ ที่ทำออกมาแล้วลงตัวมาก และการไปร่วมงานครั้งนี้ก็ยังมีโอกาสได้รับประทานอาหารกับแอนนา วินทัวร์ และคนแฟชั่นมากมาย ที่มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน ซึ่งเราเองรู้สึกประทับใจและเป็นเกียรติมาก”

โดย “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก” ยังบอกอีกว่าการไปร่วม “Paris Fashion Week 2023” ครั้งนี้ เธอได้รับประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ๆกลับมามากมาย เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว พร้อมเผยถึงความท้าทายในการสร้างแบรนด์ให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกว่า

“สิ่งที่เรามองเห็นอย่างแรกเลยคือแบรนด์เหล่านี้มีความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าของตัวเองสูงมาก เพราะเสื้อผ้ามันก็คือเทรนด์ที่ต้องมีการพัฒนาแพทเทิร์นชุดให้ทันสมัยอยู่เสมอ ทำให้แบรนด์อยู่ในกระแสตลอดเวลา ถึงจะอยู่ได้นาน ซึ่งการไปครั้งนี้มันเหมือนเราได้ไปเรียนรู้จากมาสเตอร์ว่าถ้าจะทำโชว์ออกมาให้สมบูรณ์แบบควรทำอย่างไร หลักๆ เลยคือเรื่องความพร้อมของทีม ไม่ใช่แค่มีดีไซน์เนอร์และทำชุดสวย แต่ทีมและระบบหลังบ้านต้องพร้อมด้วย อย่างเราเองก็ทำงานกับทีมอเมริกามาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มจนถึงทุกวันนี้ ถ้าพูดถึงอีกความท้าทายในการทำแบรนด์ขายทั่วโลกก็คือ เราต้องพร้อมที่จะพัฒนาแบรนด์ไปเรื่อยๆ เพราะการขายระดับโลก เราต้องทันตามกระแส แบรนด์ต้องมีความสดใหม่อยู่เสมอ เราต้องเข้าใจเทรนด์ เข้าใจรูปร่างของผู้หญิงในแต่ละโซน”

นอกจากนี้ “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก” ยังฝากถึงเหล่าดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ว่า “คนรุ่นใหม่นับว่าโชคดีมากที่ทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดีย เขาสามารถค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ชอบได้ทั่วโลก แต่ที่สำคัญคือต้องหาให้เจอว่าเราชอบงานแบบไหน นอกจากความสวย การเล่าเรื่องที่น่าสนใจ การออกแบบชุดที่ใส่ได้จริงนั้นสำคัญมาก ถ้าเริ่มต้นแนะนำให้ทำชุดแบบทางเดียวไปเลย เช่น ถ้าทำยีนส์ก็เน้นยีนส์ที่หลากหลายดีไซน์ หรือถ้าชอบงานเลเซอร์คัทก็ทำให้โดดเด่นแล้วเน้นเพิ่มแบบไปเรื่อยๆ แล้วถ้าอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในระดับโลกอาจจะเริ่มต้นจากการประกวดเวทีต่างประเทศ อยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักที่ไหน ก็ให้หาเวทีดังๆ ของที่นั่น อย่างตอนนี้เวทีของ LVMH ก็น่าสนใจ พยายามศึกษาวัฒนธรรมของที่ๆ เราอยากไป และพาตัวเองเข้าไปอยู่ในคอมมูนิตี้ของเขาให้ได้ ศึกษาดูแบรนด์ของประเทศเขาเยอะๆ ว่าเป็นแบบไหน พวกงานดีไซน์ พวกคุณภาพ พยายามทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับเขา”

นับเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก โดยสามารถติดตามผลงานแฟชั่นการทำชุดของ “แองจี้ - แอนเจลิส บาเลก” ได้ที่แบรนด์ “เอบี. แอนเจลิส บาเลก” (AB. Angelys Balek) ชั้น G ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่, ชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม หรือช่องทางออนไลน์ทาง http://www.angelysbalekshop.com/ และ https://www.central.co.th/en/angelys-balek