อันตรายของกระเทียม พืชมีประโยชน์แต่ก็มีโทษหากทานมากเกินไป
กระเทียมเป็นพืชล้มลุกในวงศ์พลับพลึง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum หัวกระเทียมมีลักษณะเป็นกลีบซ้อนกันหลายชั้น มีกลิ่นฉุนแรง นิยมนำมาประกอบอาหารไทยและอาหารอื่นๆ ทั่วโลก
กระเทียมมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน เป็นต้น
- ช่วยย่อยอาหาร ขับลม แก้หวัด แก้ไอ และลดความดันโลหิต เป็นต้น
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา เป็นต้น
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามกระเทียมก็มีโทษต่อสุขภาพเช่นกัน ดังนี้
- ทำให้เลือดแข็งตัวช้า สารในกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
- ระคายเคืองกระเพาะอาหาร กระเทียมมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ผู้ที่มีอาการกระเพาะอักเสบหรือกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระเทียม
- ทำให้กลิ่นตัวแรง กระเทียมมีกลิ่นฉุนรุนแรง ผู้ที่รับประทานกระเทียมอาจทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น
- อาจทำให้เกิดอาการแพ้ บางคนอาจแพ้กระเทียม ซึ่งอาจมีอาการผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาเจียน
ปริมาณกระเทียมที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ คือ ไม่เกินวันละ 4 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา ผู้ที่มีอาการแพ้กระเทียมหรือมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระเทียม
ต่อไปนี้เป็นข้อควรระวังในการรับประทานกระเทียม
- ไม่ควรรับประทานกระเทียมสดขณะท้องว่าง เพราะอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ไม่ควรรับประทานกระเทียมมากเกินไป เพราะอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้า
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระเทียมร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาเฮพาริน ยายาวาร์ฟาริน ยาแอสไพริน เป็นต้น
- ผู้ที่มีอาการแพ้กระเทียมควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระเทียม
หากรับประทานกระเทียมแล้วมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาเจียน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที