ลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงภาวะหัวใจวาย
![ลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงภาวะหัวใจวาย](http://s.isanook.com/wo/0/ud/48/242293/tnw2.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของรูปร่างที่ดีสมส่วน แต่การประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก และมีรูปร่างที่ดีในระยะยาวนั้นถือเป็นเรื่องท้าทาย นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนักอีกมากมาย โดยเฉพาะการลดน้ำหนักได้เยอะในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งดี แต่แท้จริงแล้วทราบหรือไม่ว่า หากลดน้ำหนักผิดวิธีเร่งให้น้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็วกลับจะส่งผลร้าย
การลดน้ำหนักสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวายได้ แต่หากลดน้ำหนักแบบผิดวิธีก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปและปลอดภัย
วิธีการลดน้ำหนักที่ไม่เสี่ยงหัวใจวาย
ลดอาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปมักมีไขมันและโซเดียมสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวายได้ ดังนั้นจึงควรลดการรับประทานอาหารแปรรูป เช่น อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง ฯลฯ
เน้นรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง
อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จึงช่วยให้สามารถควบคุมปริมาณแคลอรีที่รับประทานได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอีกด้วย
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและลดไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ดัชนีมวลกาย (BMI) ที่แนะนำคือ 18.5-24.9 ผู้ที่มีค่า BMI มากกว่า 25 ถือว่ามีน้ำหนักเกินมาตรฐาน และผู้ที่มีค่า BMI มากกว่า 30 ถือว่ามีโรคอ้วน หากมีค่า BMI เกินมาตรฐาน ควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ
นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ เช่น งดสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมระดับความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด นอนหลับให้เพียงพอ เป็นต้น
การลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปและปลอดภัย ซึ่งไม่ควรเร่งให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว (มากกว่า 2 กิโลกรัมภายใน 1 สัปดาห์)จะช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจวายได้
เพราะนอกจากจะเสี่ยงภาวะหัวใจวายได้แล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต และกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย ส่วนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมคือ 0.5-1 กก.ต่อ 1 สัปดาห์ และรับประทานอาหารให้พลังงานเพียงพอไม่น้อยกว่า 1200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน