ทากันแดด 2 ข้อนิ้วดีจริงหรือ จะทากันแดดอย่างไร ไม่ให้วอก และให้ได้ผลที่สุด!
ไขคำตอบ ทากันแดด 2 ข้อนิ้วดีจริงหรือ หนาไป หรือน้อยไปหรือไม่ จะทาอย่างไร ไม่ให้หน้าวอก หน้าลอย และได้ผลที่สุดตามมาหาข้อมูลกัน
ทากันแดด 2 ข้อนิ้วดีจริงหรือ?
ทากันแดด 2 ข้อนิ้วดีจริง เพราะเป็นปริมาณที่เพียงพอในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไป ปริมาณครีมกันแดดสำหรับทาหน้าที่เหมาะสม คือ บีบครีมให้ยาวประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต่หากเป็นกันแดดชนิดกันน้ำหรือโลชั่นควรบีบประมาณ 1-2 เหรียญสิบ
การทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป จะไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผิวไหม้แดด ฝ้า กระ จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง
นอกจากนี้ การทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป อาจทำให้ครีมกันแดดไม่เกาะติดผิว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวลดลง
ดังนั้น การทากันแดด 2 ข้อนิ้วจึงเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยให้ปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับการทากันแดด 2 ข้อนิ้ว
- บีบครีมกันแดดให้เต็มนิ้วชี้และนิ้วกลาง
- ทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากมีเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
การทากันแดด 2 ข้อนิ้วเป็นเพียงวิธีง่ายๆ ในการปกป้องผิวจากรังสียูวี แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีอยู่เสมอ
ทากันแดด 2 ข้อนิ้วอย่างไร ไม่ให้หน้าวอก หน้าลอย
การทากันแดด 2 ข้อนิ้วอาจทำให้หน้าวอก หน้าลอยได้ เนื่องจากครีมกันแดดบางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารที่ช่วยสะท้อนแสงแดด ทำให้ผิวดูขาวขึ้น แต่หากทามากเกินไป อาจทำให้หน้าดูวอก หน้าลอยได้
วิธีทากันแดด 2 ข้อนิ้วให้หน้าปัง
-
เลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา จะช่วยให้เกลี่ยง่ายและไม่เป็นคราบ
-
ทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ไม่ควรทาแค่บริเวณที่โดนแดดโดยตรง
-
เกลี่ยครีมกันแดดให้ทั่วและสม่ำเสมอ โดยใช้นิ้วมือหรือพัฟทาครีมกันแดด
-
รอให้ครีมกันแดดซึมซาบสู่ผิวก่อนแต่งหน้า
วิธีเกลี่ยครีมกันแดดให้ไม่เป็นคราบ
-
ทาครีมกันแดดในปริมาณที่พอเหมาะ
-
เกลี่ยครีมกันแดดจากบริเวณกึ่งกลางใบหน้าออกด้านข้าง
-
เกลี่ยครีมกันแดดบริเวณลำคอให้ต่อเนื่องกับบริเวณใบหน้า
-
เกลี่ยครีมกันแดดบริเวณหู จมูก และริมฝีปาก
-
รอให้ครีมกันแดดซึมซาบสู่ผิวก่อนแต่งหน้า
วิธีทาครีมกันแดดให้ปกป้องดีที่สุด
-
เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor หมายถึง ค่าความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้แดด โดยทั่วไป ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 จะปกป้องผิวได้ประมาณ 97% ของรังสี UVB
-
ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดมีเวลาซึมซาบสู่ผิวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ ปริมาณครีมกันแดดสำหรับทาหน้าที่เหมาะสม คือ บีบครีมให้ยาวประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต่หากเป็นกันแดดชนิดกันน้ำหรือโลชั่นควรบีบประมาณ 1-2 เหรียญสิบ
-
ทาครีมกันแดดให้ทั่วผิว ไม่ควรลืมทาบริเวณหู จมูก ริมฝีปาก คอ และหลังมือ
-
ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากมีเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
เคล็ดลับการทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพ
-
ทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้แต่งหน้าติดทนนานขึ้น
-
เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันน้ำและกันเหงื่อ หากต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนชื้น
-
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ถึงแม้จะใช้ครีมกันแดดแล้วก็ตาม
การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและลดความเสี่ยงของปัญหาผิวต่างๆ
ประโยชน์ของการทาครีมกันแดด
- ปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวไหม้แดด ฝ้า กระ จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง
- ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
- ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ และสารเคมี
- ช่วยปกป้องผิวจากรอยแดงและรอยดำ ที่เกิดจากแสงแดด
- ช่วยปกป้องผิวจากอาการแพ้แสงแดด
การทาครีมกันแดดเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและลดความเสี่ยงของปัญหาผิวต่างๆ ดังนั้น จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ถึงแม้ในวันที่อากาศไม่ร้อนหรือมีเมฆฝนก็ตาม