ความเชื่อเรื่องถัดบันได 3 ขั้นเมื่อมีประจำเดือนครั้งแรกมาจากไหน
การมีประจำเดือนครั้งแรกของผู้หญิง เรียกว่า เมนอาร์เชอร์ (menarche) เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิง โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี แต่บางคนอาจเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกได้ตั้งแต่อายุ 9-14 ปี หรือบางคนอาจเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกในภายหลัง ซึ่งการมีประจำเดือนครั้งแรกนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของผู้หญิง และหากใครเคยผ่านการมีประจำเดือนมาแล้วคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการถัดบันได 3 ขั้นเมื่อมีประจำเดือนครั้งแรก โดยเป็นความเชื่อที่บอกว่าจะทำให้มีประจำเดือนเพียงแค่ 3 วัน อะไรเป็นที่มาของความเชื่อนี้
ความเชื่อนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับแต่อย่างใด แท้จริงแล้วการถัดบันได 3 ขั้นหรือจำนวนขั้นใด ๆ ก็ตาม ไม่ได้มีผลต่อระยะเวลาของประจำเดือนแต่อย่างใด ระยะเวลาของประจำเดือนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ฮอร์โมนเพศหญิง น้ำหนักตัว การออกกำลังกาย และสุขภาพโดยรวมของร่างกาย
แล้วทำไมความเชื่อนี้จึงเกิดขึ้นมาได้ คำตอบหนึ่งเป็นไปได้ว่าความเชื่อนี้เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างความเชื่อเรื่องโชคลางและความเชื่อเรื่องการแพทย์แผนโบราณ ความเชื่อเรื่องโชคลางมองว่าการมีประจำเดือนครั้งแรกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของผู้หญิง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยสาว ความเชื่อเรื่องการแพทย์แผนโบราณมองว่าประจำเดือนเป็นเลือดเสีย ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่าหากทำให้เลือดเสียไหลออกได้เร็วขึ้นก็จะส่งผลให้ประจำเดือนมาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
นอกจากนี้ความเชื่อเรื่องถัดบันได 3 ขั้นอาจเกิดขึ้นจากเหตุผลอื่น ๆ เช่น เป็นการเตือนเด็กหญิงให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจากในสมัยก่อนเด็กหญิงมักสวมผ้าถุง ซึ่งอาจทำให้เลือดประจำเดือนไหลเลอะเทอะได้ การนั่งถัดบันได 3 ขั้นจึงอาจเป็นการเตือนให้เด็กหญิงนั่งให้เรียบร้อยมากขึ้น
ในปัจจุบันความเชื่อเรื่องถัดบันได 3 ขั้นเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากผู้คนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประจำเดือนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเชื่อนี้ยังคงเป็นความเชื่อที่พบได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองควรอธิบายให้ลูกหลานเข้าใจถึงที่มาและเหตุผลของความเชื่อนี้ เพื่อไม่ให้ลูกหลานเข้าใจผิดหรือเกิดความกังวล
ข้อควรปฏิบัติเมื่อประจำเดือนมาครั้งแรก
สำหรับเด็กหญิงที่มีประจำเดือนครั้งแรก สิ่งสำคัญคือควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังควรดูแลความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้ดี โดยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-6 ชั่วโมง และควรอาบน้ำชำระร่างกายเป็นประจำ
นอกจากนี้เด็กหญิงควรเรียนรู้เกี่ยวกับประจำเดือนอย่างถูกต้อง เพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และสามารถรับมือกับประจำเดือนได้อย่างเหมาะสม