"ฟันตาย" คืออะไร เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร

"ฟันตาย" คืออะไร เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร

"ฟันตาย" คืออะไร เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาวะฟันตาย คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อฟันทั้งสามชั้น ได้แก่ เคลือบฟัน ชั้นเนื้อฟัน และโพรงประสาทฟัน เกิดการตายไป โดยสาเหตุหลักเกิดจากการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน ซึ่งอาจเกิดจากฟันผุ ฟันสึก หรือการบาดเจ็บที่ฟัน

อาการของภาวะฟันตาย

ฟันตาย

อาการของภาวะฟันตายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • อาการปวดฟัน
  • ฟันเสียว
  • ฟันเปลี่ยนสี
  • ฟันบวม
  • มีหนองหรือเลือดไหลออกจากเหงือก

สาเหตุของภาวะฟันตาย

สาเหตุหลักของภาวะฟันตายเกิดจากการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน ซึ่งอาจเกิดจากฟันผุ ฟันสึก หรือการบาดเจ็บที่ฟัน

  • ฟันผุ เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารบนผิวฟัน เมื่อเวลาผ่านไป คราบจุลินทรีย์จะกัดกร่อนเคลือบฟันและทำลายเนื้อฟัน จนอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันและทำให้เกิดการติดเชื้อ
  • ฟันสึก เกิดจากการเสียดสีของฟันกับฟัน หรือเสียดสีของฟันกับวัสดุอื่นๆ เช่น เครื่องมือตัดเล็บ เศษอาหารแข็งๆ เป็นต้น เมื่อเวลาผ่านไป ฟันอาจสึกลงจนเนื้อฟันสัมผัสกับอากาศ และอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันและทำให้เกิดการติดเชื้อ
  • การบาดเจ็บที่ฟัน เกิดจากการกระทบกระแทกหรืออุบัติเหตุ เช่น การโดนตี การหกล้ม เป็นต้น ความรุนแรงของการบาดเจ็บอาจทำให้เนื้อฟันแตกหรือร้าว และอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่โพรงประสาทฟันและทำให้เกิดการติดเชื้อ

แนวทางการแก้ไขภาวะฟันตาย

แนวทางการแก้ไขภาวะฟันตายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ หากการติดเชื้อยังไม่รุนแรง แพทย์อาจรักษาด้วยการถอนรากฟันและใส่รากฟันเทียม หรือรักษาด้วยการอุดฟันหรือครอบฟัน

หากการติดเชื้อรุนแรง แพทย์อาจจำเป็นต้องถอนฟันออก เพื่อป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อไปยังฟันซี่อื่นๆ หรือเนื้อเยื่ออื่นๆ ในช่องปาก

การป้องกันภาวะฟันตาย

ฟันตาย

การป้องกันภาวะฟันตายสามารถทำได้ดังนี้

  • แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที
  • ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มรสหวาน
  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งๆ
  • สวมอุปกรณ์ป้องกันฟันขณะเล่นกีฬา

หากมีอาการปวดฟัน เสียวฟัน หรือฟันเปลี่ยนสี ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook