"กลั้นผายลม" แล้วลมนั้นไปไหน ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพบ้าง

"กลั้นผายลม" แล้วลมนั้นไปไหน ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพบ้าง

"กลั้นผายลม" แล้วลมนั้นไปไหน ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การกลั้นผายลมเป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำโดยไม่รู้ตัว บางครั้งอาจกลั้นโดยตั้งใจ เช่น ขณะอยู่ในที่สาธารณะหรือขณะอยู่ในที่ประชุม บางครั้งอาจกลั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น ขณะอยู่ในระหว่างรับประทานอาหารหรือขณะนอนหลับ เมื่อเรากลั้นผายลม ลมในลำไส้จะไม่สามารถออกมาได้ แต่จะกลับเข้าไปสะสมอยู่ในลำไส้มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดอาการแน่นท้อง ปวดท้อง และท้องอืดได้ นอกจากนี้ การกลั้นผายลมอาจทำให้ลำไส้บีบตัวแรงขึ้น เพื่อพยายามดันลมออกมา ทำให้ลำไส้เกิดการอักเสบได้

ลมในลำไส้มาจากไหน

การผายลม

ลมในลำไส้ส่วนใหญ่เกิดจากแก๊สที่เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ย่อยอาหาร แก๊สเหล่านี้ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และมีเทน นอกจากนี้ ลมในลำไส้ยังอาจเกิดจากแก๊สที่กลืนเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือขณะดื่มน้ำ เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องดื่มอัดลม แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์จากอาหารที่มีกำมะถันสูง เช่น กะหล่ำปลี ถั่ว และไข่

การกลั้นผายลมแล้วลมหายไปไหน

เมื่อเรากลั้นผายลม ลมในลำไส้จะไม่สามารถออกมาได้ แต่จะกลับเข้าไปสะสมอยู่ในลำไส้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าลำไส้จะบีบตัวแรงขึ้น เพื่อพยายามดันลมออกมา ลมเหล่านี้อาจออกมาทางทวารหนักในรูปแบบของผายลม หรืออาจถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายผ่านผนังลำไส้

วิธีป้องกันไม่ให้กลั้นผายลม

วิธีป้องกันการกลั้นผายลม

การกลั้นผายลมเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการกลั้นผายลม โดยสามารถทำได้ดังนี้

  • ฝึกฝนการปล่อยลมอย่างเป็นธรรมชาติ
  • รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊ส
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ข้อควรระวังในการกลั้นผายลม

การกลั้นผายลมอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เช่น

  • อาการแน่นท้อง ปวดท้อง และท้องอืด
  • ปัญหาสุขภาพที่เรียกว่า ถุงผนังลำไส้อักเสบ

ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการกลั้นผายลม โดยฝึกฝนการปล่อยลมอย่างเป็นธรรมชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook