ผลกระทบต่อร่างกาย เมื่อทานสลัดผักมากเกินไป
สลัดผักเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี แต่แม้ว่าสลัดผักจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนการแต่หากทานมากเกินไปก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้เช่นกัน โดยปริมาณสลัดผักที่ควรรับประทานต่อวันนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงานในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ควรกินเกินวันละ 2 จาน หรือประมาณ 400 กรัมต่อวัน ปริมาณนี้เทียบเท่ากับผักสดประมาณ 4-6 ทัพพี
การกินสลัดผักมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ดังนี้
-
ท้องอืด ท้องเฟ้อ ผักบางชนิด เช่น กะหล่ำปลี บร็อคโคลี หัวหอม ถั่ว และเมล็ดพืช อาจทำให้เกิดแก๊สในระบบย่อยอาหารได้ หากกินมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้
-
ขาดสารอาหารอื่นๆ การกินสลัดผักมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายไม่เพียงพอ เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก และไขมันดี
-
แพ้อาหาร ผักบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ผักกาดหอม ผักโขม และถั่ว หากกินมากเกินไปอาจทำให้มีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ปากบวม หายใจลำบาก เป็นต้น
-
สารเคมีปนเปื้อน ผักสดอาจปนเปื้อนด้วยสารเคมีจากยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ หากกินมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย
คำแนะนำในการกินสลัดผักอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
-
ควรเลือกผักสดที่สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น
-
ควรล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทาน
-
ควรเลือกผักหลากหลายชนิด เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน
-
ควรกินสลัดผักร่วมกับอาหารอื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ หรือถั่ว เพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารอื่นๆ
-
ควรจำกัดปริมาณการกินสลัดผักไม่ให้มากเกินไป ไม่ควรกินเกินวันละ 2 จาน