"กินเจ" มีประโยชน์อย่างไร จะกินอย่างไรให้ได้บุญ และได้สุขภาพที่สุด
เทศกาลกินเจ 2566 เริ่มวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 รวมเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ถือศีลกินเจบางคนจะนิยม "กินล้างท้อง" ก่อนล่วงหน้า 1-2 วัน เพื่อทำให้ร่างกายคุ้นชินและปรับสภาพกับการกินเจ โดยสามารถกินล้างท้องได้ตั้งแต่วันที่ 13-14 ตุลาคม ขึ้นอยู่กับความสะดวก "กินเจ" มีประโยชน์อย่างไร จะกินอย่างไรให้ได้บุญ และได้สุขภาพที่สุด Sanook Women ชวนมาหาคำตอบค่ะ
การกินเจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
- ช่วยระบบย่อยอาหาร เนื่องจากอาหารเจส่วนใหญ่เน้นพืชผักเป็นหลัก ซึ่งย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์และไขมันมาก จึงทำให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากการทำงานหนัก
- ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย อาหารเจอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- ช่วยให้ผิวพรรณดี สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารเจช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส
- ลดน้ำหนัก อาหารเจมีแคลอรี่ต่ำกว่าอาหารทั่วไป จึงช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดี
- ดีต่อสิ่งแวดล้อม การกินเจช่วยลดการฆ่าสัตว์และลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การกินเจอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้หากขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม เป็นต้น ดังนั้นผู้ที่กินเจควรเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ
อาหารเจที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
- ผักและผลไม้ เป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ดี
- ถั่วและธัญพืช เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี
- เห็ด เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เต้าหู้ เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและย่อยง่าย
- นมถั่วเหลือง เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี
- งา เป็นแหล่งแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินบีที่ดี
สำหรับผู้ที่สนใจจะกินเจ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมและได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ
กินเจอย่างไร ให้ได้บุญที่สุด
การกินเจให้ได้บุญสูงสุดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการงดบริโภคเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยอื่นๆ ดังนี้
- ความตั้งใจ ผู้ที่กินเจควรตั้งใจกินเจด้วยใจจริง โดยไม่บังคับตัวเองหรือทำตามกระแสสังคมเพียงอย่างเดียว
- ความบริสุทธิ์ ผู้ที่กินเจควรกินเจด้วยความบริสุทธิ์ โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นหรือสัตว์โลก
- ความสม่ำเสมอ ผู้ที่กินเจควรกินเจอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่กินเนื้อสัตว์แม้แต่วันเดียว
- ความกตัญญู ผู้ที่กินเจควรระลึกถึงบุญคุณของสรรพสัตว์ที่เสียสละชีวิตเพื่อเรามาโดยตลอด
- การบำเพ็ญทานบารมี ผู้ที่กินเจควรทำบุญทานอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การบริจาคเงิน สิ่งของ หรือช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น
นอกจากนี้ การกินเจยังควรควบคู่ไปกับการละเว้นการเบียดเบียนผู้อื่นและสัตว์โลกในทุกรูปแบบ เช่น การงดใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การงดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นต้น
เคล็ดลับในการกินเจให้ได้บุญสูงสุด
- เริ่มกินเจตั้งแต่ต้นเทศกาล การเริ่มกินเจตั้งแต่ต้นเทศกาลจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้และได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
- เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
- ปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้อาหารมีรสชาติอร่อยและน่ารับประทาน
- แบ่งปันอาหารเจให้กับผู้อื่น เป็นการแบ่งบุญให้กับผู้อื่น
การกินเจเป็นการทำบุญที่สามารถทำได้ง่ายๆ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ การกินเจให้ได้บุญสูงสุดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความบริสุทธิ์ภายในจิตใจของเราเอง