5 วิธีลดหน้าท้องหลังผ่าคลอดให้ยุบลงเร็ว

คุณแม่หลังคลอดหลายท่านมักจะเจอปัญหาหน้าท้องไม่ยุบ บางรายแม้จะคลอดลูกน้อยหลายเดือนแล้วก็ยังคงมีหน้าท้อง วันนี้เราจึงได้รวมเอา 5 วิธีลดหน้าท้องหลังผ่าคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้หน้าท้องยุบเร็วมาแชร์ให้คุณแม่หลังคลอดได้เอาไปทำตามกันค่ะ มาดูกันว่าแต่ละวิธีต้องทำอย่างไรกันบ้าง

1.ควบคุมอาหารการกิน
การควบคุมอาหารมีส่วนช่วยลดหน้าท้องหลังผ่าคลอดได้ดี แถมยังเป็นปัจจัยแรกที่ช่วยให้หน้าท้องของคุณแม่ยุบลงได้เร็ว แต่ทั้งนี้คุณแม่จะต้องให้ความสำคัญที่การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการให้นมลูก นอกจากนี้จะต้องระวังการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารประเภทหมักดองโดยเด็ดขาด

2.ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
การดื่มน้ำมีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ยิ่งถ้าคุณแม่ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะส่งผลทำให้น้ำหนักของคุณแม่ลดลง อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อลูกน้อยกินนมจากเต้ามากขึ้น ก็จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น ตลอดจนทำให้หน้าท้องของคุณแม่ลดลงได้ นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคุณแม่เกิดการเผาผลาญพลังงานนั่นเอง

3.หมั่นออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายในตอนเช้า มีส่วนช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายของคุณแม่ได้ ทั้งนี้แนะนำให้คุณแม่ออกกำลังกายด้วยวิธีเบาๆ และหลังจากผ่าคลอดหายสนิทแล้ว ให้คุณแม่ออกกำลังกายด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน พยายามให้เวลาตัวเองสำหรับออกกำลังกายในแต่ละวันประมาณ 30 นาที จะช่วยให้หน้าท้องของคุณแม่กระชับได้เร็วขึ้น

4.ปรับท่าทางในการยืนและการเดิน
เนื่องจากช่วงตั้งครรภ์ น้ำหนักของคุณแม่จะมากที่บริเวณหน้าท้อง จึงส่งผลต่อการยืนและการเดิน ซึ่งหน้าท้องจะยื่นไปด้านหน้า แม้ว่าคุณแม่จะคลอดแล้ว แต่ในบางรายก็ยังติดท่าทางการเดินและการยืนเหมือนระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณแม่พยายามปรับท่าทางการยืนและการเดินหลังผ่าคลอดให้เหมือนปกติมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อสร้างบุคลิกภาพที่ดี และช่วยในการลดหน้าท้องที่ยื่นออกมาได้อีกด้วย

5.สวมกางเกงกระชับสัดส่วน
การสวมกางเกงกระชับสัดส่วน มีส่วนช่วยให้หน้าท้องของคุณแม่เข้าที่ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากกางเกงกระชับสัดส่วนช่วยให้หน้าท้องไม่หย่อนยาน แถมยังช่วยลดอาการบาดเจ็บของแผลจากการผ่าคลอดได้ดีอีกด้วย

สำหรับคุณแม่หลังผ่าคลอดที่ต้องการลดหน้าท้อง แนะนำให้เอา 5 วิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสำหรับคุณแม่หลังผ่าคลอดอย่างมากเลยทีเดียว