ทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำนมแม่ ประโยชน์มหาศาลที่ทารกคู่ควร
คุณแม่หลังคลอดทุกคน ต่างก็หวังอยากให้ทารกน้อยได้กินนมแม่จนอิ่ม และก็คงมีความคิดอยากให้ลูกได้กินนมแม่ไปนานๆ หลายเดือน แต่บางคนก็ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำนมไม่ออก จึงทำให้ทารกมีโอกาสได้กินนมแม่แค่แปปเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงถือเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องวางแผนในเรื่องนี้ให้ดี ควรหาวิธีผลิตน้ำนมแม่ให้เพียงพอ เพราะประโยชน์จากนมแม่นั้นมีมากมายมหาศาลและเป็นประโยชน์ที่ทารกคู่ควรมากที่สุด ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากชวนพ่อแม่มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับนมแม่ให้มากขึ้นกว่าเดิมกันค่ะ
แม่หลังคลอดควรให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่ช่วงไหน?
สำหรับพ่อแม่ที่สงสัยว่าลูกน้อยควรได้กินนมแม่ตั้งแต่มีอายุเท่าไรไปจนถึงเท่าไรนั้น โดยปกติลูกสามารถกินนมแม่ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 เดือน หรือถ้าคุณแม่มีน้ำนมที่เพียงพอก็สามารถให้ลูกกินนมแม่ไปจนถึงอายุ 1-2 ปีได้เลย ซึ่งนมแม่ถือเป็นอาหารที่ถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุด เพราะมีสารอาหารที่ครบถ้วนอยู่ในนั้น อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารของทารกน้อยอีกด้วย ที่สำคัญการให้ลูกกินนมแม่ยังเป็นการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูกน้อยได้อีกด้วย
น้ำนมสีเหลืองเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ
คุณแม่จะเห็นลักษณะของน้ำนมตัวเองในช่วง 1-5 วันแรกของการคลอดว่าน้ำนมจะมีลักษณะเป็นสีเหลือง ซึ่งน้ำนมสีเหลืองนี้จะเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน เกลือแร่ และยังเป็นอาหารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ทารกได้เป็นอย่างดี สำหรับการให้นมลูกน้อยนั้น ทั้งก่อนและหลังให้นมลูก คุณแม่ควรใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดที่หัวนมเบาๆ เสมอ ห้ามเช็ดด้วยแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อทารกน้อยได้
น้ำนมแม่มีส่วนช่วยลดโรค
ทราบหรือไม่ว่าการย่อยสารอาหารจากนมแม่นั้น ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้มากที่สุด นั่นจึงทำให้ทารกไม่มีอาการท้องอืด อีกทั้งยังมีสารลูทีนที่มีส่วนช่วยในการป้องกันจอประสาทตา ช่วยในเรื่องของการมองเห็น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากนมแม่ช่วยเคลือบผนังลำไส้นั่นเอง ใดๆ คือ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทารกน้อยนั่นเอง ที่สำคัญการให้ลูกดูดนมแม่ยังมีส่วนช่วยให้ขากรรไกรของลูกแข็งแรงได้มากกว่าเด็กที่ดูดนมขวดอย่างเห็นได้ชัด
น้ำนมแม่ช่วยเพิ่ม IQ
คุณแม่หลายท่านอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้ำนมแม่นั้นมีแคลอรีสูง ซึ่งจะช่วยให้ลูกเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกายและด้านเซลล์สมอง ทั้งนี้มีผลการศึกษาวิจัยค้นพบว่า เด็กที่กินนมแม่ประมาณ 3-12 เดือน จะมี IQ สูงกว่าเด็กที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาด้วยการให้กินนมแม่อีกด้วย
ถ้าพูดถึงข้อดีของการให้นมแม่ แน่นอนว่าทารกน้อยจะได้รับประโยชน์ทางด้านร่างกายอย่างมหาศาล แต่ถ้ามองในเรื่องใกล้ตัว จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีส่วนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังเป็นการสร้างช่วงเวลาที่คุณแม่จะสามารถสื่อสารกับลูกได้บ่อย นั่นก็เป็นหนึ่งในการทำให้ร่างกายของแม่หลังคลอดเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว