กิน "กล้วยต้ม" ได้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างไรบ้าง

กิน "กล้วยต้ม" ได้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างไรบ้าง

กิน "กล้วยต้ม" ได้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างไรบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กล้วย" เป็นผลไม้ที่คนส่วนใหญ่ชอบรับประทาน ไม่ว่าจะปอกเปลือกแล้วทานสด หรือหั่นกล้วยแล้วใส่ลงในซีเรียล โยเกิร์ต สมูทตี้ ฯลฯ โดยขึ้นอยู่กับความชอบ อย่างไรก็ตามการต้มกล้วย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการทานกล้วย ถ้าไม่เคยทานกล้วยต้มมาก่อนมันอาจฟังดูแปลก ซึ่งคุณคงตั้งคำถามว่าทานกล้วยต้มมีประโยชน์ดีกว่ากล้วยดิบหรือเปล่า ซึ่งเราจะมาบอกว่าทำไมคนถึงกินกล้วยต้ม การกินกล้วยต้มนั้นดีต่อสุขภาพหรือไม่ และมีข้อแตกต่างอะไรบ้างในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพระหว่างกล้วยต้มกับกล้วยดิบ

เพราะอะไรคนจึงกินกล้วยต้ม

การกินกล้วยต้มเป็นเรื่องปกติในหลายพื้นที่ของโลก โดยกล้วยต้มเป็นอาหารหลักในหลายประเทศแอฟริกา สำหรับประเทศไทยก็มีการนำกล้วยมาต้มและรับประทานเช่นกัน การนำกล้วยมาต้มนั้นนิยมใช้กล้วยดิบมาต้ม แต่กล้วยที่สุกเป็นสีเหลืองแล้วก็สามารถนำไปต้มทานได้เช่นกัน

กล้วยต้ม มีคุณค่าทางอาหารอย่างไร

กล้วยขนาดกลางเฉลี่ยแล้วมีประมาณแคลอรี่ประมาณ 105 กิโลแคลอรี่ โดย 90 % มาจากคาร์โบไฮเดรต และประมาณ 75 % เป็นน้ำหนักจากน้ำ อย่างไรก็ตามสารอาหารที่แท้จริงของกล้วยจะขึ้นอยู่กับความสุกและขนาดของกล้วย โดยข้อมูลโภชนาการบอกว่า สำหรับกล้วยขนาดกลางมีสารอาหารเฉลี่ยดังนี้

  • แคลอรี่: 105
  • ไขมัน: 0.3 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต: 27 กรัม
  • ไฟเบอร์: 3.1 กรัม
  • น้ำตาล: 14.2 กรัม
  • โปรตีน: 1.1 กรัม
  • วิตามิน B6: 0.36 มิลลิกรัม
  • วิตามิน C: 8.7 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม: 422 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม: 32 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส: 0.32 มิลลิกรัม

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้วยต้ม

  • การต้มกล้วยอาจส่งผลต่อปริมาณสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซีอาจลดลงเล็กน้อย
  • กล้วยต้มจะมีปริมาณน้ำตาลเข้มข้นกว่ากล้วยดิบ
  • โดยรวม กล้วยเป็นแหล่งที่ดีของโพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามิน B6 และไฟเบอร์

ความแตกต่างด้านโภชนาการระหว่างกล้วยต้มกับกล้วยดิบ

แม้ว่าโดยรวมแล้วปริมาณแคลอรี่ วิตามิน และแร่ธาตุของกล้วยเขียว และกล้วยสุกจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่กล้วยต้มยังมีข้อแตกต่างด้านโภชนาการบางประการ

  • กล้วยต้มมีแป้งและไฟเบอร์มากกว่า: การต้มกล้วยเขียวจะเปลี่ยนแป้งบางส่วนให้เป็นชนิดย่อยง่าย ทำให้กล้วยต้มมีไฟเบอร์มากกว่า ช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้น และส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • กล้วยสุกมีน้ำตาลมากกว่า: เมื่อกล้วยสุก น้ำตาลก็จะเพิ่มขึ้น กล้วยสุกจึงมีรสชาติหวานกว่า กล้วยต้มจะมีน้ำตาลน้อยกว่า แต่ก็ยังเป็นแหล่งที่ดีของพลังงาน
  • โภชนาการและประโยชน์ขึ้นอยู่กับวิธีปรุง: ทั้งกล้วยต้ม และกล้วยดิบสามารถนำไปปรุงต่อได้ หากนำกล้วยต้มไปทอด ก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณไขมันและแคลอรี่ การปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ก็มีผลต่อปริมาณโซเดียม น้ำตาล และโภชนาการรวม

ประโยชน์ของการกินกล้วยต้ม

ประโยชน์ของการกินกล้วยต้มจะขึ้นอยู่กับว่าคุณกินกล้วยเขียวต้มหรือกล้วยสุกต้ม

ประโยชน์ของการกินกล้วยดิบต้ม

  • ไฟเบอร์สูง: กล้วยเขียวต้มมีปริมาณไฟเบอร์มากกว่ากล้วยสุก โดยเฉพาะเพคตินชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นไฟเบอร์ละลายน้ำ ช่วยให้อิ่มท้องนาน ปรับระบบขับถ่าย ป้องกันมะเร็งลำไส้ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • แป้งทนทาน: กล้วยเขียวต้มมีแป้งทนทาน ซึ่งเป็นแป้งที่ย่อยยาก ร่างกายดูดซึมน้อย ทำให้อิ่มนาน ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  • บำรุงลำไส้: เพคตินในกล้วยเขียวต้มเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรีย ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร

ประโยชน์ของการกินกล้วยสุกต้ม

  • พลังงานจากน้ำตาล: กล้วยสุกต้มมีน้ำตาลมากกว่ากล้วยเขียวต้ม เหมาะเป็นแหล่งพลังงาน ช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
  • วิตามินและแร่ธาตุ: กล้วยสุกเป็นแหล่งที่ดีของโพแทสเซียม วิตามินบี6 แมกนีเซียม และแมงกานีส

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook