เกลือชมพู คืออะไร ต่างจากเกลือทั่วไปอย่างไรบ้าง

เกลือชมพู คืออะไร ต่างจากเกลือทั่วไปอย่างไรบ้าง

เกลือชมพู คืออะไร ต่างจากเกลือทั่วไปอย่างไรบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกลือหิมาลยันสีชมพู หรือเกลือชมพูเป็นชื่อชนิดของเกลือสีชมพูตามธรรมชาติ ที่ขุดได้ใกล้เทือกเขาหิมาลัยในปากีสถาน หลายคนเชื่อว่าเกลือนี้เต็มไปด้วยแร่ธาตุและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายด้วยเหตุผลเหล่านี้ เกลือหิมาลยันสีชมพูมักถูกมองว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าเกลือแกงทั่วไป อย่างไรก็ตาม ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับเกลือหิมาลยันสีชมพูค่อนข้างน้อย และมีบางคนยังยืนยันว่า ประโยชน์ต่อสุขภาพที่เกินจริงเหล่านี้ เป็นเพียงแค่การคาดเดา บทความนี้จะพาไปดูความแตกต่างสำคัญระหว่างเกลือหิมาลยันสีชมพูกับเกลือแกงทั่วไป และประเมินหลักฐานต่างๆ เพื่อตัดสินว่าเกลือประเภทไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า

เกลือชมพูคืออะไร

เกลือหิมาลยันสีชมพู หรือเกลือชมพูสวยงามที่ขุดได้จากเหมืองเกลือคิวรา (Khewra Salt Mine) ใกล้เทือกเขาหิมาลัยในปากีสถาน เหมืองเกลือคิวราเป็นหนึ่งในเหมืองเกลือที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเกลือหิมาลยันสีชมพูที่ขุดได้จากเหมืองนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน จากการระเหยของแหล่งน้ำโบราณ เกลือนี้นำออกจากเหมืองด้วยมือ และผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ทำให้ได้เกลือดิบที่ไม่มีสารเติมแต่ง และหลายคนเชื่อว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าเกลือแกง เช่นเดียวกับเกลือแกง เกลือหิมาลัยันสีชมพูส่วนใหญ่ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ (NaCl)

อย่างไรก็ตาม กระบวนการเก็บเกี่ยวตามธรรมชาติ ทำให้เกลือหิมาลยันสีชมพูมีแร่ธาตุและธาตุอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่พบในเกลือแกงทั่วไป บางคนประมาณว่า มันอาจมีแร่ธาตุและธาตุอื่นๆ มากถึง 84 ชนิด ยิ่งไปกว่านั้น แร่ธาตุเหล่านี้ โดยเฉพาะเหล็ก เป็นตัวการของสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ของเกลือนี้นั่นเอง

ประโยชน์ของเกลือชมพู

เกลือชมพู ไม่ใช่แค่เกลือสวยงามน่าประดับ แต่ยังใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเหมือนเกลือแกงทั่วไป ไม่ว่าจะใส่ในซอส หมักเนื้อ หรือโรยบนอาหารสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนยังนิยมใช้แผ่นเกลือหิมาลยันขนาดใหญ่เป็น "กระทะเกลือ" สำหรับย่าง ปิ้ง หรือเซียร์อาหาร โดยความร้อนจะถ่ายเทผ่านแผ่นเกลือ ช่วยเพิ่มรสชาติเค็มแบบเข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์

เกลือชมพูมีทั้งแบบบดละเอียดเหมือนเกลือแกง และแบบหยาบที่มีผลึกเกลือขนาดใหญ่กว่า ให้คุณเลือกใช้ตามความชอบ การใช้เกลือชมพูปรุงอาหาร ไม่เพียงเพิ่มรสชาติเค็ม แต่ยังอาจได้แร่ธาตุและธาตุอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ ยังควรบริโภคเกลืออย่างพอเหมาะ เพราะปริมาณโซเดียมที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพได้

เกลือทั่วไปคืออะไร

เกลือคือแร่ธาตุที่ประกอบไปด้วยโซเดียมคลอไรด์เป็นหลัก ทำให้เรามักใช้คำว่า "เกลือ" กับ "โซเดียม" แทนกันได้ เกลือมีสองแหล่งที่มาหลัก คือ การตากน้ำทะเลจนระเหย และการขุดเกลือแข็งจากเหมืองใต้ดิน ก่อนวางขาย เกลือแกงจะผ่านกระบวนการปรับปรุงเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกแร่ธาตุอื่นๆ นอกเหนือโซเดียมคลอไรด์ อาจมีการเติมสารป้องกันเกาะก้อน และไอดีนซึ่งช่วยป้องกันภาวะขาดไอโอดีน

เราใช้เกลือปรุงรสและถนอมอาหารมานานหลายพันปี นอกจากนี้โซเดียมยังมีบทบาทสำคัญในระบบร่างกาย เช่น ควบคุมสมดุลน้ำ ช่วยการนำประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเกลือหรือโซเดียมในอาหาร อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนเชื่อว่า โซเดียมมากเกินไปก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ

ด้วยความกังวลเรื่องอันตรายจากการบริโภคเกลือแกงมากเกินไป หลายคนหันมาใช้เกลือหิมาลัยันสีชมพู ด้วยความเชื่อว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

ความแตกต่างระหว่างเกลือชมพู กับเกลือทั่วไป

เกลือทะเลและเกลือชมพูเป็นเกลือสองประเภทยอดนิยมที่มีลักษณะและรสชาติเฉพาะตัว เกลือชนิดหนึ่งเกิดจากแสงแดดและลม ในขณะที่อีกชนิดหนึ่งอยู่ใต้ดินมาหลายล้านปี และต่อไปนี้คือความแตกต่างของเกลือทั้งสองชนิด

แหล่งที่มา

เกลือทะเลได้มาจากน้ำทะเลที่ระเหย ในขณะที่เกลือชมพูถูกขุดจากแหล่งเกลือโบราณในเทือกเขาหิมาลัย เกลือทะเลและเกลือหินถูกเก็บรวบรวมโดยมนุษย์มาอย่างน้อย 6,000 ปีแล้ว

ปริมาณแร่ธาตุ

เกลือทะเลและเกลือชมพูมีปริมาณแร่ธาตุหลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อรสชาติและสีที่แตกต่าง เกลือทะเลมักมีแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม และโพแทสเซียม ในขณะที่เกลือชมพูเป็นที่รู้จักจากปริมาณแร่ธาตุสูง ซึ่งรวมถึงธาตุเหล็ก สังกะสี และธาตุอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย

รสชาติ

เกลือทะเลมีรสชาติที่สะอาด สดใส และเข้มข้นเล็กน้อย ทำให้มีรสชาติเค็มที่กลมกล่อมซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติธรรมชาติของอาหาร เกลือทะเลบางชนิดมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าเกลือทะเลอื่นๆ เนื่องจากมีปริมาณแร่ธาตุสูง ส่วนรสชาติเกลือชมพู มีรสชาติที่นุ่มนวลกว่าเกลือทะเลและมีกลิ่นดินเล็กน้อย บางคนอธิบายว่าเกลือหิมาลัยันมีรสชาติที่หวานกว่าเกลือทะเลเล็กน้อย ความแตกต่างของรสชาติระหว่างเกลือทะเลและเกลือชมพูเป็นผลมาจากความแตกต่างในปริมาณแร่ธาตุและแหล่งที่มา เกลือทะเลมีปริมาณแร่ธาตุน้อยกว่าเกลือชมพู ส่งผลให้เกลือทะเลมีรสชาติที่เข้มข้น และสะอาดกว่า

เนื้อสัมผัส

เกลือทะเลมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ตั้งแต่ละเอียดไปจนถึงหยาบ และแม้แต่เป็นเกล็ด สามารถใช้เป็นเกลือตกแต่งเพื่อเพิ่มรสชาติและกรุบกรอบให้กับอาหารได้ เกลือชมพูมักพบในผลึกขนาดใหญ่ และใช้เป็นเครื่องบดเกลือ หรือเป็นบล็อกเกลือตกแต่งสำหรับปรุงอาหารหรือเสิร์ฟ

สีสัน

เกลือทะเลมีหลากสี ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุและสิ่งเจือปนในน้ำทะเล บ้างก็ขาว เทา  ชมพู ส่วนเกลือชมพูโด่งดังเรื่องสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ จากแร่ธาตุเฉพาะตัว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook