รู้ไว้ไม่เสี่ยง! กับ 12 ผลข้างเคียงจากการลดน้ำหนักด้วยคีโต

หลายคนอาจจะเคยได้ยินและรู้ถึงวิธีลดน้ำหนักด้วยรูปแบบการกินคีโตมาบ้างแล้ว ซึ่งการกินคีโตหรือ การลดน้ำหนักด้วยการวางแผนการกินอาหารที่ร่างกายจะได้รับสารจำพวกคาร์โบไฮเดรตต่ำมากเป็นพิเศษ โดยวิธีนี้ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้การกินคีโตจะเน้นที่การกินอาหารจำพวกไขมันเน้นๆ ประมาณ 80% และโปรตีนประมาณ 16% ส่วนที่เหลือจะเป็นจำพวกแคลอรี และแม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยรูปแบบคีโตจะให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เลย เพราะวันนี้เรารวม 12 ผลข้างเคียงจากการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโตมาแชร์ให้ทราบดังนี้ค่ะ

ผลข้างเคียงจากการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต

1.เป็นไข้คีโต

ไข้คีโต จะส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องร่วง และคลื่นไส้ เนื่องจากร่างกายถูกตัดพลังงานอย่างคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลัก จึงทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว แต่อาการนี้จะเกิดขึ้นช่วงแรกเท่านั้น

2.การกินอาหารเปลี่ยนไป

แน่นอนว่าพฤติกรรมการกินอาหารจะเปลี่ยนไป เพราะต้องตัดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตออก ดังนั้นจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการกินจุกจิก เพราะร่างกายอาจมีความต้องการอาหารจำพวกแป้งมากกว่าเดิม

3.น้ำหนักอาจขึ้นอีกครั้ง

แม้ว่าการลดน้ำหนักแบบคีโตจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็ว แต่ก็ใช่ว่าน้ำหนักจะไม่ขึ้นมาจากเดิมเลย เพราะโอกาสที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นย่อมมี โดยเฉพาะหลังจากกินอาหารภายหลังที่เห็นผลของการลดน้ำหนักลงแล้ว

4.มีอาการท้องผูก

การกินคีโตมีส่วนทำให้เกิดอาการท้องผูก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เนื่องจากร่างกายจะทำการขับน้ำออกเป็นจำนวนมาก จึงเป็นไปได้สูงที่จะทำให้ร่างกายไม่มีน้ำมากพอที่จะทำให้อาหารเกิดการเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก

5.มีอาการท้องร่วง

อาการท้องร่วงคือหนึ่งในผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการลดน้ำหนักด้วยรูปแบบคีโต เพราะเมื่อใดที่ร่างกายได้รับอาหารจำพวกไขมันสูง ตับก็จะปล่อยน้ำดีเข้าไปในระบบย่อยอาหารเพื่อช่วยย่อยสลายการกินอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งแน่นอนว่าตับต้องปล่อยน้ำดีออกมาในปริมาณมากเพื่อย่อยสลายไขมัน ที่สำคัญน้ำดียังถือเป็นยาระบายตามธรรมชาติอีกด้วย

6.ระบบหายใจเปลี่ยนไป

ผลข้างเคียงนี้เกิดจากการที่ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ซึ่งร่างกายจะสร้างคีโตนและอะซิโตน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ และการที่ร่างกายจะขับคีโตนออกจากร่างกายได้นั้นต้องผ่านการหายใจออก ซึ่งแน่นอนว่าการหายใจจะเปลี่ยนไปจากเดิม

7.หิวน้ำตลอดเวลา

การลดน้ำหนักแบบคีโตมักจะทำให้เกิดอาการคอแห้งและกระหายน้ำตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะร่างกายทำการขับน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้องหมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายจากการสูญเสียน้ำมากเกินไป

8.ไม่ค่อยอยากกินอาหาร

ร่างกายจะไม่รู้สึกหิวเหมือนการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ ซึ่งผลข้างเคียงนี้ผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่ก็มีการวิเคราะห์กันว่า อาจเป็นเพราะกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก จึงช่วยยับยั้งการผลิตฮอร์โมนแห่งความหิว อย่างฮอร์โมนเกรลินได้นั่นเอง

9.ผิวพรรณเริ่มมีปัญหา

เมื่อลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต ผิวพรรณจะเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ชอบกินอาหารจำพวกน้ำตาลมาก่อน การทำคีโตจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ และอาจส่งสัญญาณการปล่อยฮอร์โมนที่เพิ่มการผลิตน้ำมัน จนทำให้เกิดรูขุมขนอุดตันและทำให้เป็นสิวได้

10.เกิดอาการสมองล้า

ในช่วงลดน้ำหนักแบบคีโต จะเริ่มมีอาการสมองล้า นั่นเป็นเพราะว่า สมองมีความต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อเป็นพลังงาน และเมื่อใดที่ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตต่ำ ก็ย่อมส่งผลทำให้สมองล้า ความจำสั้น และไม่ค่อยมีสมาธิได้ง่าย

11.เกิดภาวะไตเครียด

ภาวะไตเครียดเกิดขึ้นได้ในขณะกินคีโต เนื่องจากไตมีหน้าที่เผาผลาญโปรตีน ซึ่งโปรตีนจะถูกบริโภคมากในช่วงที่ทำคีโต จึงไม่แปลกที่จะส่งผลเสียต่อการทำงานของไตได้

12.เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

แม้ว่าการกินคาร์โบไฮเดรตต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ลงได้ แต่การกินคีโตที่เน้นการกินไขมันเป็นหลัก ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ ดังนั้นจึงต้องพยายามใส่ใจเรื่องของคอเลสเตอรอลให้ดี

สำหรับสาวๆ ที่สนใจอยากลดน้ำหนักด้วยวิธีการกินคีโต แน่นอนว่าผลข้างเคียงเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะโอกาสที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ย่อมมีสูงมาก