โรคหืดในเด็ก กับอาการที่พ่อแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด

โรคหืดในเด็ก กับอาการที่พ่อแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด

โรคหืดในเด็ก กับอาการที่พ่อแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคหืดในเด็กคืออะไร อาการที่เกิดขึ้นมีความคล้ายกับอาการหอบทั่วไปหรือไม่ วันนี้เราจะชวนพ่อแม่มาทำความเข้าใจกับโรคหืดในเด็ก พร้อมทั้งสังเกตอาการของโรคหืดอย่างใกล้ชิด เพื่อที่พ่อแม่จะได้รู้อย่างแน่ชัดว่าลูกน้อยของพ่อแม่กำลังเผชิญกับโรคชนิดนี้อยู่หรือไม่

โรคหืด คืออะไร

โรคหืด คือ โรคที่หลอดลมเกิดการตีบแคบอย่างฉับพลัน ซึ่งอาการนี้เกิดจากการที่หลอดลมมีการอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีความไวต่อสารกระตุ้นต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้เด็กที่มีไข้ มีอาการไอ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย และระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหืดในเด็ก

ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหืดในเด็ก พ่อแม่ควรรู้และสังเกตถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการทำให้เกิดโรคหืดดังนี้

1.เกิดจากกรรมพันธุ์ของพ่อแม่พี่น้อง มีประวัติโรคประจำตัวอย่างภูมิแพ้หรือหืด

2.เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงสัมพันธ์กับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น เกสรดอกหญ้า แมลงสาบ ขนแมว ขนสุนัข และไรฝุ่น

3.เกิดการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ อย่างการติดเชื้อไวรัสบางชนิด

4.เกิดจากการที่อากาศเปลี่ยนแปลง

5.เกิดจากสิ่งระคายเคืองและมลภาวะต่างๆ

6.เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์และจิตใจ

7.เกิดจากการออกกำลังกาย

อาการของโรคหืดที่พ่อแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด

สำหรับอาการของโรคหืดที่พ่อแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด จะมีลักษณะของอาการดังนี้

1.เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี จะมีอาการไอ หายใจลำบาก และหอบเหนื่อยบ่อย ประมาณ 3 ครั้งขึ้นไป

2.เสียงหายใจจะดังวี๊ด

3.ลักษณะการไอจะไอนาน และหายใจจะมีเสียงวี๊ดนานๆ หลังจากติดเชื้อ

4.อาการไอและหายใจดังวี๊ดมักจะเป็นตอนกลางคืน หรือหลังสัมผัสสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ ร้องไห้ หัวเราะ หรือออกกำลังกาย

5.อาการไอหรือหายใจดังวี๊ด มักเกิดขึ้นเองโดยที่ไม่มีไข้หรือติดเชื้อในทางเดินหายใจ

6.เด็กมีประวัติหลอดลมอักเสบบ่อยๆ หรือปอดมีการติดเชื้อ

7.หลังได้รับการพ่นยาขยายหลอดลม อาการไอจะลดลง

8.พ่อแม่พี่น้องของเด็กมีประวัติเป็นโรคหืด

9.เด็กมีอาการภูมิแพ้ อย่างเช่น ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือเคยทดสอบภูมิแพ้แล้วผลเป็นบวกต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารบางชนิดหรือในอากาศ

10.เด็กที่มีอายุมากกว่า 6 ปี ตรวจสมรรถภาพปอดแล้วพบว่าผลผิดปกติ

เมื่อพ่อแม่ทราบถึงสาเหตุและอาการของโรคหืดกันไปแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้วิธีการจัดการเมื่อลูกมีอาการหืด โดยควรให้ลูกหยุดทำกิจกรรมนั้นๆ ทันที ใช้ยาขยายหลอดลมตามเทคนิคที่หมอสอน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 15 นาที ควรใช้ยาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หากอาการดีขึ้นให้พ่นห่างประมาณ 6-8 ชั่วโมงจนอาการดีขึ้นประมาณ 2-3 วัน และหากลูกยังมีอาการหายใจลำบากหลังจากพ่นยาขยายหลอดลมไปแล้ว 3 ครั้ง จำเป็นที่จะต้องรีบพาไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook