รู้จักออทิสติกเทียม อาการที่คุณแม่มือใหม่ควรให้ความสำคัญ
พ่อแม่หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินอาการออทิสติกเทียมกันมาบ้างแล้ว ซึ่งอาการนี้เป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสมองของเด็ก โดยอาการนี้ถือเป็นอาการที่พ่อแม่มือใหม่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก วันนี้เราจึงอยากชวนพ่อแม่มือใหม่มาทำความรู้จักออทิสติกเทียมกันค่ะ
ออทิสติกเทียม คืออะไร
ออทิสติกเทียม คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นทางสมองของเด็ก ก่อให้เกิดการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ้ำๆ จนส่งผลให้สมองและร่างกายขาดการพัฒนาที่มีความเหมาะสมตามวัย ทำให้การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน และแม้ว่าจะเป็นความผิดปกติทางสมอง แต่ก็มีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูที่ผิดวิธี รวมถึงการที่เด็กไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควรก็มีส่วนทำให้เกิดอาการออทิสติกเทียมได้เช่นกัน
10 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดออทิสติกเทียม
ในส่วนของพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดออทิสติกเทียมพ่อแม่สามารถสังเกต 10 พฤติกรรมดังนี้
1.ไม่สนใจคนรอบข้าง
2.ไม่มีการตอบสนองต่อแสง เสียง และสี
3.ไม่มีการส่งเสียงอ้อแอ้
4.ไม่สนใจต่อการแสดงความรัก เช่น การกอดหรือการหอม
5.ไม่มีความสนใจในการทำกิจกรรม
6.ไม่มีความสามารถบอกหรือแสดงถึงความต้องการของตัวเองได้
7.ไม่ส่งเสียงเรียกและไม่แสดงท่าทางใดๆ
8.มีความผูกพันกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากจนเกินไป
9.ไม่มีความพยายามในการลอกเลียนแบบท่าทาง
10.อายุ 2 ขวบแต่ยังไม่สามารถพูดได้ หรืออาจพูดไม่เป็นภาษา
5 วิธีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอาการออทิสติกเทียม
ในส่วนของวิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดอาการออทิสติกเทียมซึ่งเป็นวิธีที่พ่อแม่มือใหม่สามารถทำตามได้ทันทีมีดังนี้
1.พ่อแม่ควรให้ลูกหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีต่างๆ จนลูกมีอายุครบ 2 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้ช่วงเวลา 2 ปีแรก ให้ลูกได้เรียนรู้จากพ่อแม่เป็นหลัก
2.พ่อแม่ควรหมั่นทำกิจกรรมกับลูกบ่อยๆ เพื่อเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ให้เกิดการคุ้นชินกับพ่อแม่มากที่สุด
3.พ่อแม่ควรให้ลูกได้เล่นของเล่นแทนการจ้องหน้าจอ โดยเฉพาะของเล่นจำพวกตัวต่อ หรือการวาดรูประบายสี วิธีนี้เป็นการเสริมสร้างจินตนาการให้ลูก และเสริมการเจริญเติบโตทางด้านสมองอย่างเหมาะสม
4.พ่อแม่พยายามให้ลูกได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกกิจกรรมของเด็ก
5.พ่อแม่ควรพาลูกออกไปเผชิญโลกภายนอกบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้ลูกเกิดความคุ้นเคยกับการเข้าสังคม
เมื่อพ่อแม่มือใหม่ทราบถึงอาการต่างๆ ที่เป็นสัญญาณเตือนของการเป็นออทิสติกเทียมแล้ว หากมีอาการใดๆ เกิดขึ้นกับลูกตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น แนะนำให้รีบพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อที่จะสามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที