ต้องดื่มน้ำมากแค่ไหน ? เมื่อต้องทานยา (ที่ต้องกลืน)

ต้องดื่มน้ำมากแค่ไหน ? เมื่อต้องทานยา (ที่ต้องกลืน)

ต้องดื่มน้ำมากแค่ไหน ? เมื่อต้องทานยา (ที่ต้องกลืน)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจสงสัยว่ายาที่ต้องกลืนควรดื่มน้ำตามปริมาณเท่าไรกันแน่ คำตอบคือปริมาณน้ำที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับชนิดของยา โรคประจำตัว และสภาพร่างกายของคุณ น้ำช่วยลำเลียงยาตั้งแต่ช่องปาก ไปยังกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก เพื่อให้ร่างกายดูดซึมและออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กินยา ต้องดื่มน้ำมากแค่ไหนถึงเหมาะสม

การกลืนยาโดยไม่ได้ดื่มน้ำตามเพียงพอก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้

ตัวอย่างยา

  • ยาต้านอักเสบ (Nonsteroidal Anti-inflammatory Drugs: NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโทเฟน และ นาพรอกเซน การรับประทานยาเหล่านี้โดยไม่ได้ดื่มน้ำตามปริมาณที่เพียงพอ หรือทานยาตอนท้องว่าง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหลอดอาหารหรือกระเพอาหาร หรือแม้แต่เป็นแผล

  • ยาบิสฟอสเฟต (Bisphosphonates) เป็นยาที่ใช้รักษาหรือป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยปกติยาชนิดนี้จะรับประทานตอนท้องว่าง แต่เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหลอดอาหาร ควรดื่มน้ำตามปริมาณมาก และ งดการนอนราบอย่างน้อย 30 นาทีหลังรับประทานยา

ปริมาณน้ำที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับขนาดของยาด้วย ยาเม็ดใหญ่หรือแคปซูลขนาดใหญ่ อาจต้องดื่มน้ำตามมากกว่ายาเม็ดเล็กหรือยาน้ำ

ข้อควรคำนึงในการทานยา

1.อ่านฉลากยา ก่อนรับประทานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยควรอ่านฉลากยาและเอกสารกำกับยาอย่างละเอียดทุกครั้งก่อนรับประทาน

ข้อมูลสำคัญบนฉลากยา

  • ชื่อยา
  • ส่วนประกอบ
  • ขนาดยา
  • วิธีใช้
  • ผลข้างเคียง
  • คำเตือน

ปริมาณน้ำที่ควรดื่ม

ยาแต่ละชนิด จำเป็นต้องดื่มน้ำตามในปริมาณที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ:

  • ชนิดของยา
  • โรคประจำตัว
  • สภาพร่างกาย

2.รู้หรือไม่? ดื่มอะไรกับยาดี

น้ำเปล่า คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการดื่มตามยา เพราะน้ำเปล่าไม่ส่งผลต่อการดูดซึมยา อย่างไรก็ตาม ยาบางชนิด จำเป็นต้องดื่มนม น้ำผลไม้ หรืออาหาร ร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยา

ตัวอย่างยา

  • ยาบางชนิด ดูดซึมได้ดีขึ้นเมื่อทานร่วมกับไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค
  • ยาบางชนิด ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ควรทานร่วมกับอาหาร เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook