5 วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง ดีต่อสุขภาพ แถมห่างไกลอาการโยโย่

สาวๆ ที่กำลังสนใจในเรื่องของการลดน้ำหนัก ย่อมต้องเคยได้ยินอาการโยโย่กันมาก่อน ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้หลายคนกลัวและเป็นกังวลกันอย่างมาก โดยอาการโยโย่จะเกิดขึ้นหลังจากลดน้ำหนัก ซึ่งผลของมันจะทำให้น้ำหนักตัวกลับมาหนักเหมือนเดิม ดังนั้นวันนี้เราจึงรวม 5 วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้องมาแชร์ให้สาวๆ ได้เอาไปทำตามกันค่ะ โดยแต่ละวิธีจะช่วยให้ห่างไกลจากอาการโยโย่อย่างแน่นอน

1.เลือกกินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ คือ อาหารที่สาวๆ จะต้องกินในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก โดยจะต้องเน้นให้สุขภาพร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนสำคัญต่อสุขภาพร่างกายอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเมื่อใดที่ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในช่วงลดน้ำหนัก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการโยโย่ได้

2.ควบคุมสัดส่วนของอาหารที่กิน

การควบคุมสัดส่วนของอาหารที่กินในช่วงลดน้ำหนัก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สาวๆ สามารถควบคุมแคลอรีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากละเลยในเรื่องของการควบคุมแคลอรีที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกายไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำให้จัดสรรเรื่องอาหารการกินในแต่ละวันให้ดี ไม่ควรกินอาหารประเทศใดประเทศหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อวัน และอาจทำให้เกิดอาการโยโย่ตามมาได้

3.ลดการกินอาหารว่าง

ในช่วงที่สาวๆ กำลังลดน้ำหนัก แนะนำให้ลดการกินอาหารว่าง แล้วหันไปให้ความสำคัญที่การกินมื้อหลักให้อิ่มพอดีแทน เพราะในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก อาหารว่างถือเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะหากกินเข้าไปอาจทำให้ร่างกายได้รับจำนวนแคลอรีส่วนเกินได้ ดังนั้นถ้าต้องการลดน้ำหนักโดยไม่อยากเสี่ยงเกิดอาการโยโย่ ควรกำหนดตารางการกินอาหารให้ดี และอย่าเผลอกินอาหารนอกตารางเด็ดขาด

4.หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย

การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ก็มีส่วนช่วยให้การลดน้ำหนักของสาวๆ ไม่เกิดอาการโยโย่ได้ง่าย อย่างน้อยๆ ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30-60 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน ไม่จำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายทุกวัน เพราะการออกกำลังกายโดยให้ตัวเองมีเวลาพักก็ช่วยเผาผลาญชั้นไขมันส่วนเกินได้ดีเช่นกัน แถมยังไม่เป็นการกดดันมากเกินไปด้วย สำหรับสาวๆ ที่ไม่สะดวกออกกำลังกาย ลองหันมาทำงานบ้านแทนก็ได้เช่นกัน เพราะช่วยให้เกิดการเผาผลาญแคลอรีได้ดีไม่แพ้กัน

5.ห้ามหมกมุ่นกับการชั่งน้ำหนัก

หากต้องการให้การลดน้ำหนักได้ผลดีและไม่ต้องกังวลกับอาการโยโย่ที่จะเกิดขึ้น แนะนำว่าสาวๆ ไม่ควรหมกมุ่นกับการชั่งน้ำหนักจนเกินไป เพราะบางช่วงเวลาที่ชั่งน้ำหนัก ร่างกายอาจมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากจะชั่งน้ำหนักหรือดูความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักในแต่ละวัน ควรชั่งน้ำหนักในช่วงเวลาตอนเช้าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้องว่าง ที่สำคัญห้ามกดดันหรือเครียดกับตัวเลขที่เห็นบนเครื่องชั่งน้ำหนักเด็ดขาด

สำหรับสาวๆ ที่เป็นกังวลกับอาการโยโย่ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากลดน้ำหนัก แนะนำให้ปฏิบัติตาม 5 วิธีการลดน้ำหนักที่เราได้แชร์ข้างต้นกันดูนะคะ เชื่อว่าแต่ละวิธีไม่เพียงแต่ช่วยให้ห่างไกลจากอาการโยโย่เท่านั้น แต่ยังช่วยลดความกดดันในการลดน้ำหนักของสาวๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย